Wat Rong Khun is different from any

Wat Rong Khun is different from any other temple in Thailand, as its ubosot (Pali: uposatha; consecrated assembly hall) is designed in white color with some use of white glass. The white color stands for Lord Buddha’s purity; the white glass stands for Lord Buddha’s wisdom that "shines brightly all over the Earth and the Universe."

The bridge leading to the temple represents the crossing over from the cycle of rebirth to the Abode of Buddha. The small semicircle before the bridge stands for the human world. The big circle with fangs is the mouth of Rahu, meaning impurities in the mind, a representation of hell or suffering.

All the paintings inside the ubosot (assembly hall) have golden tones. The four walls, ceiling and floor contain paintings showing an escape from the defilements of temptation to reach a supramundane state. On the roof, there are four kinds of animals representing earth, water, wind and fire. The elephant stands for the earth; the naga stands for water; the swan's wings represent wind; and the lion’s mane represents fire.

In 1997, Chalermchai Kositpipat volunteered his service to carry out the construction of the ubosot at his own expense as an offering to Lord Buddha, but he later altered the plan as he saw fit in such a way that Wat Rong Khun developed into a prominent site attracting both Thai and foreign visitors.

Nowadays, Wat Rong Khun is still being constructed. When completed, the construction project of Wat Rong Khun will consist of nine buildings: the ubosot, the hall containing Lord Buddha’s relics, the hall containing Buddha images, the preaching hall, the contemplation hall, the monk’s cell, the door façade of the Buddhavasa, the art gallery, and the toilets.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัดร่องขุ่นจะแตกต่างจากวัดอื่น ๆ ในประเทศไทยเป็นพระอุโบสถของ (บาลี: uposatha; ห้องโถงการชุมนุมศักดิ์สิทธิ์) ถูกออกแบบมาในสีขาวที่มีการใช้กระจกสีขาวบาง สีขาวหมายถึงความบริสุทธิ์ของพระเจ้าพระพุทธรูปแก้วสีขาวหมายถึงภูมิปัญญาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่

"ส่องสว่างทั่วทุกมุมโลกและจักรวาล."สะพานที่นำไปสู่​​วัดแสดงให้เห็นถึงการผสมข้ามพันธุ์ไปจากวงจรของการเกิดใหม่ที่พำนักของพระพุทธเจ้า ครึ่งวงกลมขนาดเล็กก่อนขึ้นสะพานย่อมาจากโลกมนุษย์ วงกลมขนาดใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพระราหูหมายถึงสิ่งสกปรกในใจตัวแทนของนรกหรือความทุกข์ทรมาน.

ภาพวาดทั้งหมดที่อยู่ภายในพระอุโบสถ (ห้องโถงประกอบ) มีโทนสีทอง สี่ผนังเพดานและพื้นมีภาพวาดที่แสดงให้เห็นถึงการหลบหนีจากกิเลสของสิ่งล่อใจที่จะไปถึงรัฐ supramundane บนหลังคามีสี่ชนิดของสัตว์ที่เป็นตัวแทนของดินน้ำลมและไฟ ช้างย่อมาจากแผ่นดินโลกนาคย่อมาจากน้ำปีกหงส์แทนลม. และแผงคอสิงโตเป็นไฟ

ในปี 1997เฉลิม kositpipat อาสาบริการของเขาที่จะดำเนินการก่อสร้างพระอุโบสถที่ค่าใช้จ่ายของตัวเองมาถวายพระพุทธรูปพระเจ้า แต่หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนแผนในขณะที่เขาเห็นสมควรในลักษณะที่วัดร่องขุ่นพัฒนาเป็นเว็บไซต์ที่โดดเด่นดึงดูดทั้งไทย และผู้เข้าชมต่างประเทศ.

ในปัจจุบันวัดร่องขุ่นยังคงถูกสร้างขึ้น เมื่อเสร็จสิ้นแล้วโครงการก่อสร้างของวัดร่องขุ่นจะประกอบด้วยเก้าอาคาร: อุโบสถฮอลล์ที่มีพระธาตุพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ฮอลล์ที่มีภาพพระพุทธรูปในห้องโถงพระธรรมศาลาสมาธิเซลล์พระภิกษุสงฆ์ที่ซุ้มประตูของ buddhavasa ศิลปะ แกลเลอรี่และห้องสุขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัดร่องขุ่นจะแตกต่างจากวัดอื่น ๆ ในประเทศไทย เป็นของอุโบสถ (บาลี: วันพระ ไร ๆ แอสเซมบลีฮอลล์) ถูกออกแบบมาในสีขาวที่ใช้บางแก้วสีขาว สีขาวหมายถึงความบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า กระจกขาวหมายถึงพระปัญญาที่ "ระยิบทั่วโลกและจักรวาล"

นำวัดสะพานแทนไขว้จากวงจรการเกิดใหม่ของการพักอยู่ของพระ Semicircle เล็กก่อนสะพานหมายถึงโลกมนุษย์ วงกลมใหญ่ มีเขี้ยวเป็นปากของราหู ความหมายสิ่งสกปรกในจิตใจ การแสดงของนรกหรือทุกข์

ภาพวาดทั้งหมดภายในอุโบสถ (แอสเซมบลีฮอลล์) มีโทนสีทอง ผนัง 4 พื้นและเพดานประกอบด้วยภาพวาดที่แสดงจาก defilements ของจะถึงรัฐ supramundane บนดาดฟ้า มีสี่ชนิดของสัตว์ที่แสดงถึงแผ่นดิน น้ำ ลม และไฟ ช้างหมายถึงดิน นาคหมายถึงน้ำ ปีกของหงส์หมายถึงลม และแผงคอของสิงโตแสดงถึงไฟ

ในปี 1997 อาจารย์ Kositpipat volunteered เขาบริการจะดำเนินการก่อสร้างอุโบสถที่ค่าใช้จ่ายของเขาเองเป็นการเสนอขายให้กับพระพุทธเจ้า แต่เขาภายหลังการเปลี่ยนแปลงแผน ตามที่เขาเห็นพอดีในลักษณะที่วัดร่องขุ่นพัฒนาเป็นไซต์โดดเด่นดึงดูดทั้งชาวไทย และต่างประเทศชม.

ปัจจุบัน วัดร่องขุ่นจะยังคงถูกสร้างขึ้น เมื่อเสร็จสมบูรณ์ โครงการก่อสร้างของวัดร่องขุ่นจะประกอบด้วยอาคารเก้า: อุโบสถ ศาลาที่ประกอบด้วยพระธาตุ ศาลาประกอบด้วยพระพุทธรูป ฮอลล์ preaching ศาลาพักผ่อน เซลล์ของพระ ซุ้มประตูแบบ Buddhavasa หอศิลป์ และห้องน้ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัดร่องขุ่นมีความแตกต่างออกไปจากวัดอื่นๆในประเทศไทยเป็นพระอุโบสถ(บาลี uposatha ห้องโถงชุดถวาย)คือการออกแบบในสีขาวพร้อมด้วยการใช้บางส่วนของกระจกสีขาว สีขาวสีที่ตั้งอยู่ในความบริสุทธิ์ผุดผ่องของพระแก้วสีขาวที่โดดเด่นสำหรับพระปัญญาของพระที่"มาทั้งหมดอย่างสว่างสดใสมากกว่าโลกและจักรวาล"

สะพานที่นำไปสู่วัดที่แสดงถึงที่ข้ามผ่านจากรอบของการเกิดใหม่ในการเป็นที่พักของพระพุทธรูป รูปครึ่งวงกลมขนาดเล็กก่อน Bridge ตั้งอยู่ในโลกมนุษย์ เป็นวงกลมขนาดใหญ่ที่พร้อมด้วยเขี้ยวแก้วมีปากที่ rahu ความหมายของสิ่งสกปรกในใจที่เป็นตัวแทนของความทุกข์หรือนรก.

ภาพ เขียนทั้งหมดไว้ ภายใน อุโบสถ( Hall )มีสีเอิร์ธโทนสีทอง ผนังทั้งสี่ได้และที่พื้นไปจนถึงเพดานมี ภาพ เขียนแสดงหลีกหนีจากกิเลสของสิ่งจูงใจเพื่อเข้าถึงยังรัฐ supramundane ที่ บนชั้นหลังคาที่มีสี่ ประเภท ของสัตว์เป็นตัวแทนไฟและดินน้ำลม ช้างที่อยู่ของที่ดินนาคาที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นสำหรับน้ำปีกของนกที่เป็นลมและแผงคอสิงโตที่เป็นไฟ.

ในปี 1997เฉลิมไชย kositpipat อาสาของเขาให้บริการในการปฏิบัติให้เป็นไปในการก่อสร้างพระอุโบสถที่ที่เขาชำระค่าใช้จ่ายด้วยตัวของท่านเองเป็นที่จัดให้บริการเพื่อไปยังพระ,แต่ต่อมา ภายหลัง เขาเปลี่ยนไปที่แผนที่เขาเห็นความกระชับในแบบที่วัดร่องขุ่นพัฒนาไปสู่ที่โดดเด่นของการดึงดูดทั้งไทยและต่างประเทศนักท่องเที่ยว.

ในปัจจุบันนี้วัดร่องขุ่นก็ยังมีการก่อสร้าง. เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วโครงการก่อสร้างของวัดร่องขุ่นจะประกอบไปด้วย 9 ส่วนอาคารพระอุโบสถที่ห้องโถงที่ประกอบด้วยพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าพระห้องโถงที่มี ภาพ พระอธิการที่ห้องโถงศาลากลางพิจารณาใคร่ครวญให้บริการข้อมูลของสถานีฐานของพระที่ด้านหน้าประตูของ buddhavasa ที่ห้องแสดงผลงานทางศิลปะและห้องสุขา