The common Littrow configuration (s

The common Littrow configuration (see Figure 2a) contains a collimating lens and a diffraction grating as the end mirror. The first-order diffracted beam provides optical feedback to the laser diode chip, which has an anti-reflection coating on the right-hand side. The emission wavelength can be tuned by rotating the diffraction grating. A disadvantage is that this also changes the direction of the output beam, which is inconvenient for many applications.

In the Littman–Metcalf configuration ([2], Figure 2b), the grating orientation is fixed, and an additional mirror is used to reflect the first-order beam back to the laser diode. The wavelength can be tuned by rotating that mirror. This configuration offers a fixed direction of the output beam, and also tends to exhibit a smaller linewidth, as the wavelength selectivity is stronger. (The wavelength-dependent diffraction occurs twice instead of once per resonator round trip.) A disadvantage is that the zero-order reflection of the beam reflected by the tuning mirror is lost, so that the output power is lower than that for a Littrow laser.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การกำหนดค่าทั่วไปของ Littrow (ดูรูปที่ 2a) ประกอบด้วยเลนส์ collimating และเป็น grating กระจายเป็นกระจกท้าย คาน diffracted ลำดับแรกแสดงผลแสงเพื่อชิไดโอดเลเซอร์ ซึ่งมีการเคลือบป้องกันการสะท้อนแสงอยู่ด้านขวามือ ปล่อยความยาวคลื่นสามารถปรับ โดยการหมุน grating กระจาย มีข้อเสียคือ ว่า นี้จะเปลี่ยนทิศทางของคานออก ซึ่งไม่สะดวกสำหรับการใช้งานมากมายในการกำหนดค่า Littman – เมทคาล์ฟ ([2], รูปที่ 2b), การวางแนวของ grating และให้คงใช้กระจกเพิ่มเติมเพื่อสะท้อนลำแสงแรกสั่งกลับไปเลเซอร์ไดโอด ความยาวคลื่นสามารถปรับ โดยการหมุนกระจกนั้น การกำหนดค่านี้มีทิศทางคงที่แสงออกได้ และยัง มีแนวโน้มที่จะ แสดงมี linewidth น้อย เป็นใวคลื่นแรงกว่า (กระจายขึ้นอยู่กับความยาวคลื่นเกิดขึ้นสองครั้งแทนหนึ่งครั้งต่อ resonator กลับ) มีข้อเสียคือ ว่า เงาสะท้อนลำแสงที่สะท้อนจากกระจกปรับแต่งสั่งศูนย์หายไป เพื่อให้พลังงานต่ำกว่าสำหรับเลเซอร์ Littrow

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การกำหนดค่า Littrow ร่วมกัน (ดูรูปที่ 2A) มีเลนส์ collimating และตาข่าย diffraction เป็นกระจกท้ายที่สุด ลำแสงแรกเพื่อกระจายได้ให้ข้อเสนอแนะแสงชิปเลเซอร์ไดโอดซึ่งมีการเคลือบป้องกันแสงสะท้อนบนด้านขวามือ ความยาวคลื่นปล่อยก๊าซเรือนกระจกสามารถปรับโดยการหมุนเลนส์ตะแกรง ข้อเสียคือที่นี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของลำแสงที่ส่งออกซึ่งไม่สะดวกสำหรับการใช้งานจำนวนมาก.

ในการกำหนดค่า Littman-เมทคาล์ฟ ([2], 2B รูป), การวางแนวรั้วได้รับการแก้ไขและกระจกเพิ่มเติมจะใช้ในการสะท้อนให้เห็นถึง คานสั่งซื้อครั้งแรกกลับไปเลเซอร์ไดโอด ความยาวคลื่นสามารถปรับโดยการหมุนกระจก การกำหนดค่านี้มีทิศทางคงที่ของลำแสงที่ส่งออกและยังมีแนวโน้มที่จะแสดงความ linewidth ขนาดเล็กเช่นการเลือกความยาวคลื่นจะแข็งแกร่ง (เลี้ยวเบนความยาวคลื่นขึ้นอยู่กับที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองแทนหนึ่งครั้งต่อไอเสียเดินทางรอบ.) ข้อเสียคือภาพสะท้อนที่ศูนย์สั่งของลำแสงสะท้อนจากกระจกจูนจะหายไปเพื่อให้อำนาจออกต่ำกว่าสำหรับเลเซอร์ Littrow .

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การตั้งค่า littrow ทั่วไป ( รูปที่ 2A ) ประกอบด้วย collimating เลนส์และตะแกรงท้ายเลนส์กระจก แรกให้แสงกระจายแสงความคิดเห็นต่อไดโอดเลเซอร์ชิป ซึ่งมีการเคลือบป้องกันการสะท้อนบนขวามือ การปล่อยความยาวคลื่นสามารถปรับหมุนเลนส์ลูกกรง ข้อเสียคือ มันยังมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของผลผลิต บีม ซึ่งไม่สะดวกในการใช้งานมากในการตั้งค่า ลิตต์แมน–เมทคาล์ฟ ( [ 2 ] รูปที่ 2B ) , ตะแกรงวางถาวร และเป็นกระจกสะท้อนความเพิ่มเติมจะใช้คานกลับไปที่เลเซอร์ไดโอด ความยาวคลื่นที่สามารถปรับหมุนกระจก การตั้งค่านี้มีการแก้ไขทิศทางของผลผลิต บีม และยังมีแนวโน้มที่จะแสดงโฟโตลูมิเนสเซนต์ เล็ก เป็น คลื่น การปลอดภัย ( ความยาวคลื่น ) โดยเกิดขึ้นสองครั้งแทนครั้งต่อเที่ยว รอบ resonator ) ข้อเสียคือที่ศูนย์เพื่อการสะท้อนของแสงที่สะท้อนจากการปรับกระจกจะหายไป เพื่อให้พลังงานที่น้อยกว่าสำหรับ littrow เลเซอร์