ความเชื่อทางศาสนากับการนับถือพระอาท

ความเชื่อทางศาสนากับการนับถือพระอาทิตย์


ตามความเชื่อของชาวเปรูชนเผาอินคา
จะมีความเชื่อว่าพระอาทิตย์คือสิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะเป็นสิ่งที่ให้กำเนิดชีวิตและแสงสว่าง
แต่ในปัจจุบันคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาคริสต์นิกานโรมันคาทอลิก
แต่พวกคนเก่าคนแก่หลายๆคนยังคงมีความเชื่อเรื่องการนับถือพระอาทิตย์อยู่
ชาวอินคาจะมีความเชื่อว่าพระอาทิตย์เป็นต้นกำเนิดของทุกอย่าง






ในแต่ล่ะปีจะมีเทศ-กาลบูชาพระอาทิตย์และพระจันทร์ถือเป็นเทศกาลสำคัญของประเทศเปรู
จัดขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายน ของทุกปี ตามความเชื่อของชาวอินคา ที่เป็นวันนั้นเพราะพระอาทิตย์เข้ามาใกล้โลกมากที่สุดเรียกวันนี้ว่า
วัน Inti Raymi

ในวันนี้จะมีพิธีสำคัญที่ชาวอินคาต้องเข้าร่วมถือเป็นเทศกาลที่สำคัญมาก
และในแต่ล่ะปีจะมีผู้คนหลั่งไหลเข้าไปชมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธินี้ไม่ต่ำกว่า 50000
คนในแต่ล่ะปี ชาวอินคาจะมีนิยามในชนเผ่าของตนว่า No sun No life ไม่มีพระอาทิตย์ไม่มีชีวิต
ในเปรูจึงมีสถาปัตยกรรมที่มีหลักฐานหลายอย่างที่แสดงว่าชาวอินคาในสมัยก่อนจะเคร่งกับการนับถือพระอาทิตย์มาก
และสถานที่สำคัญที่เห็นได้ชัดก็คือ มาชู ปิกชู วิหารแห่งพระอาทิตย์



เพราะภายในของมาชู ปิกชู ได้ถูกสำรวจแล้วว่า เป็นอาณาจักรของชาวอินคา
แสดงให้เห็นถึงการดำรงชีวิตและพิธีกรรมต่างๆได้อย่าชัดเจน บนยอดของวิหารทั้ง 2
หลังจะมีแท่นพิธีการบูชาพระอาทิตย์และพระจันทร์อยู่ที่นั้นด้วย
ชาวอินคาจะมีรูปหล่อของพระอาทิตย์ที่ทำจากทองคำไว้เป็นที่สักการบูชา
แต่ในปัจจุบันรูปหล่อนั้นได้หายไปแล้ว
หายไปในตอนที่อาณาจักรอิคาถูกสเปนรุกรานแล้ทหารที่รับหน้าที่ดูแลรักษาก็ได้ นำหลบหนีไปด้วยในตอนที่กำลังหนีสเปนด้วยทางเรือเดินทางผ่านทะเลสาบติติกากา
รูปหล่อพระอาทิตย์ถือเป็นสิ่งสำคัญของอาณาจักรไม่ยากจะต้องให้ไปตกอยู่ในมือของใครจึงตัดสินใจโยนรูปหล่อนั้นทิ้งลงในทะเลสาบนั้น
และก็หายสาบสูญไปจนถึงปัจจุบันนี้
และเป็นสิ่งที่ชาวอินคาในปัจจุบันถ้าพูดถึงแล้วจะสะเทือนที่สุดเพราะไม่สามารถหามันเจอได้เปรียบเสมือนกับเสียหัวใจไป
ถึงจะเป็นยังไงก็ตามชาวอินคาก็ยังคงนับถือพระอาทิตย์เหมือนเดิมและจะประกอบ พิธีที่เดิมที่เป็นที่อยู่เดิมของรูปหล่อพระอาทิตย์ถึงจะไม่มีรูปหล่อนั้น แต่เพียงแค่เรานึกถึงและมีความศัทธราก็เพียงพอแล้ว
แต่ในปัจจุบันก็ได้มีการจำลองรูปหล่อขึ้นใหม่
และนำไปประกอบพิธีที่บริเวณจัสตุรัสกลางเมืองคุสโก
หรือบริเวรหุบเขาสำคัญของเมืองคุสโกทีเป็นที่ประทับขอรูปปั้นพระเยซูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ในเทศกาลพระจันทร์จะจัดขึ้นที่เมืองซัคซายอัวมันและจัดภายในวัดอินคา
ฉนั้นความเชื่อระหว่างชาวอินคากับพระอาทิตย์ยังคงนับถือมาจนถึงปัจจุบันและยังคงพิธีกรรมความศักดิ์สิทธิสืบมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

24 มิถุนายนของทุกปีตามความเชื่อของชาวอินคา Inti 50,000 คนใน แต่ล่ะปีชาวอินคาจะมีนิยามในชนเผ่าของตนว่าไม่มีชีวิตไม่มีดวงอาทิตย์ มาชูปิกชู ปิกชูได้ถูกสำรวจแล้วว่า บนยอดของวิหารทั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความเชื่อทางศาสนากับการนับถือพระอาทิตย์




ตามความเชื่อของชาวเปรูชนเผาอินคาจะมีความเชื่อว่าพระอาทิตย์คือสิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะเป็นสิ่งที่ให้กำเนิดชีวิตและแสงสว่างแต่ในปัจจุบันคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาคริสต์นิกานโรมันคาทอลิก





แต่พวกคนเก่าคนแก่หลายๆคนยังคงมีความเชื่อเรื่องการนับถือพระอาทิตย์อยู่ชาวอินคาจะมีความเชื่อว่าพระอาทิตย์เป็นต้นกำเนิดของทุกอย่าง



ในแต่ล่ะปีจะมีเทศ - กาลบูชาพระอาทิตย์และพระจันทร์ถือเป็นเทศกาลสำคัญของประเทศเปรูจัดขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายนของทุกปีตามความเชื่อของชาวอินคาที่เป็นวันนั้นเพราะพระอาทิตย์เข้ามาใกล้โลกมากที่สุดเรียกวันนี้ว่าอินติไรย์มิ


ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าในวันนี้จะมีพิธีสำคัญที่ชาวอินคาต้องเข้าร่วมถือเป็นเทศกาลที่สำคัญมาก

และในแต่ล่ะปีจะมีผู้คนหลั่งไหลเข้าไปชมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธินี้ไม่ต่ำกว่า 50000คนในแต่ล่ะปีชาวอินคาจะมีนิยามในชนเผ่าของตนว่าไม่มีพระอาทิตย์ไม่มีชีวิตไม่มีพระอาทิตย์ไม่มีชีวิต

ในเปรูจึงมีสถาปัตยกรรมที่มีหลักฐานหลายอย่างที่แสดงว่าชาวอินคาในสมัยก่อนจะเคร่งกับการนับถือพระอาทิตย์มากและสถานที่สำคัญที่เห็นได้ชัดก็คือมาชูปิกชูวิหารแห่งพระอาทิตย์




เพราะภายในของมาชูปิกชูได้ถูกสำรวจแล้วว่าเป็นอาณาจักรของชาวอินคาแสดงให้เห็นถึงการดำรงชีวิตและพิธีกรรมต่างๆได้อย่าชัดเจนบนยอดของวิหารทั้ง 2

หลังจะมีแท่นพิธีการบูชาพระอาทิตย์และพระจันทร์อยู่ที่นั้นด้วยชาวอินคาจะมีรูปหล่อของพระอาทิตย์ที่ทำจากทองคำไว้เป็นที่สักการบูชา

แต่ในปัจจุบันรูปหล่อนั้นได้หายไปแล้วหายไปในตอนที่อาณาจักรอิคาถูกสเปนรุกรานแล้ทหารที่รับหน้าที่ดูแลรักษาก็ได้นำหลบหนีไปด้วยในตอนที่กำลังหนีสเปนด้วยทางเรือเดินทางผ่านทะเลสาบติติกากา
รูปหล่อพระอาทิตย์ถือเป็นสิ่งสำคัญของอาณาจักรไม่ยากจะต้องให้ไปตกอยู่ในมือของใครจึงตัดสินใจโยนรูปหล่อนั้นทิ้งลงในทะเลสาบนั้น

และก็หายสาบสูญไปจนถึงปัจจุบันนี้และเป็นสิ่งที่ชาวอินคาในปัจจุบันถ้าพูดถึงแล้วจะสะเทือนที่สุดเพราะไม่สามารถหามันเจอได้เปรียบเสมือนกับเสียหัวใจไป