For a westerner, perhaps one of the

For a westerner, perhaps one of the more curious aspects of Buddhism is the tradition of Buddha footprints. Many temples will have reproductions of the feet of buddha, which are used to illustrate the 108 "auspicious signs" by which they can be recognized. One of the best examples of these is the feet of the reclining buddha found in the Bangkok temple commonly known as Wat Po.
But the curious part is the tradition that real footprints can be found in the countryside. This tradition holds that the buddha, or an incarnation known as "the future buddha" left these to guide us to enlightenment. Since most of these footprints are the size of a bath-tub, the future buddha apparently is not someone to mess with.
When found in nature, these relics are subjected to extreme scrutiny to insure they have all of the right signs, then they become places of worship. There are actually several buddha footprint temples in Thailand, but the most important of these is the Phra Puddhabat temple in Saraburi Province. It is under royal patronage of the first class.
Although it bit off the tourist track, the temple is the site of a pilgrimage fair in January/February and March. We visited the temple during the fair held in January of 2002.
The footprint is located on a rocky outcropping about 25 kilometers north of Saraburi town. The footprint itself is covered by an ornate, jewel-like building called a mondop. The outside walls are covered in blue and green mirrored tiles, and gold leaf. We can think of only one other place where you will see this kind of religous structure, and that is in the temple of the emerald buddha in Bangkok. That mondop is only open one day a year, on 6 April, and houses images of the kings of the Chakri dynasty.

You can pay your respects to the buddha footprint on any day, but if its a pilgrimage day be prepared for a crowd! Passing through the mother of pearl inlaid doors, the footprint occupies the center of the small building. The interior walls are red laquer with gold leaf. A canopy covered in gold and mirrors is built over the footprint.
Although the footprint was discovered around 1624 to 1628, the mondop and canopy date from the early 19th century. The originals were destroyed by brigands during the confusion that resulted from the sacking of Ayuthaya in the late 18th century. From the main entrance, you climb a long stairway up to the mondop. Don't worry, its a "grand entrance" of modest height, not a 300 step endurance test such as found at some Thai temples.
The mondop sits on a platform built over the rock ledge containing the footprint at the base of a hill, although rock outcroppings spring out of the platform in a few places. Shrines of various styles and sizes dot the platform as well as the outcroppings. Its a wonderfully organic temple complex that's like no other we've seen in Thailand. Be sure to allow plenty of time for exploring.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กับฝรั่งบางทีหนึ่งในด้านที่อยากรู้อยากเห็นมากขึ้นของพุทธศาสนาเป็นประเพณีของรอยเท้าของพระพุทธรูป วัดหลายแห่งจะมีการถอดแบบมาจากพระพุทธรูปของเท้าซึ่งจะใช้ในการแสดงให้เห็นถึง 108 "สัญญาณมงคล" โดยที่พวกเขาสามารถได้รับการยอมรับ หนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของเหล่านี้เป็นฟุตของพระพุทธรูปนอนที่พบในวัดเชียงใหม่ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นวัดโพธิ์.
แต่ส่วนที่อยากรู้อยากเห็นเป็นประเพณีที่รอยเท้าจริงสามารถพบได้ในชนบท ประเพณีนี้ถือได้ว่าพระพุทธรูปหรือชาติที่เรียกว่า "พระพุทธรูปในอนาคต" ที่เหลือเหล่านี้เพื่อเป็นแนวทางที่เราจะตรัสรู้ เนื่องจากส่วนใหญ่ของรอยเท้าเหล่านี้มีขนาดของอ่างอาบน้ำ, พระพุทธรูปในอนาคตที่เห็นได้ชัดไม่ได้เป็นคนที่จะยุ่งกับ.
เมื่อพบในธรรมชาติพระธาตุเหล่านี้อยู่ภายใต้การตรวจสอบข้อเท็จจริงมากเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาได้ทั้งหมดของสัญญาณที่ถูกต้องแล้วพวกเขาก็กลายเป็นสถานที่สักการะ มีจริงหลายวัดรอยพระพุทธรูปในประเทศไทย แต่ที่สำคัญที่สุดของเหล่านี้เป็นวัดที่พระ puddhabat ในจังหวัดสระบุรี จะอยู่ภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์ของชั้นแรก.
แม้ว่ามันจะกัดออกติดตามการท่องเที่ยววัดเป็นที่ตั้งของธรรมแสวงบุญในเดือนมกราคม / เดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม เราเดินทางไปเยี่ยมชมวัดในระหว่างการยุติธรรมจัดขึ้นในมกราคม 2002.
รอยตั้งอยู่บนชะง่อนหินประมาณ 25 กิโลเมตรทางเหนือของเมืองสระบุรี รอยเท้าของตัวเองถูกปกคลุมด้วยหรูหราอาคารอัญมณีเหมือนที่เรียกว่ามณฑป ผนังด้านนอกจะครอบคลุมในสีฟ้าและสีเขียวสะท้อนกระเบื้องและใบไม้สีทองเราสามารถคิดเพียงหนึ่งสถานที่อื่น ๆ ที่คุณจะเห็นชนิดของโครงสร้างศาสนานี้และที่อยู่ในวิหารของพระศรีรัตนศาสดารามในกรุงเทพฯ มณฑปที่เป็นเพียงการเปิดในวันหนึ่งปีเมื่อวันที่ 6 เมษายนและบ้านภาพของกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี.

คุณสามารถแสดงความเคารพของคุณเพื่อรอยพระพุทธรูปในวันใด ๆ แต่ถ้าวันของการเดินทางจะเตรียมไว้สำหรับ ฝูงชน!ผ่านแม่ของประตูฝังมุกรอยตรงบริเวณตรงกลางของอาคารขนาดเล็ก ผนังภายในเป็นเงาสีแดงกับสีทอง หลังคาปกคลุมด้วยทองและกระจกถูกสร้างขึ้นในช่วงรอย.
แม้ว่ารอยถูกค้นพบรอบ 1624-1628, มณฑปและวันที่ท้องฟ้าจากต้นศตวรรษที่ 19ต้นฉบับถูกทำลายโดยโจรในระหว่างความสับสนที่เกิดจากการชิงทรัพย์ของอยุธยาในศตวรรษที่ 18 จากทางเข้าหลักของคุณปีนบันไดยาวถึงมณฑป ไม่ต้องกังวล "ทางเข้าแกรนด์" ของความสูงเจียมเนื้อเจียมตัวไม่ได้ทดสอบความอดทน 300 ขั้นตอนเช่นที่พบในบางวัดไทย
.มณฑปตั้งอยู่บนแพลตฟอร์มสร้างขึ้นหิ้งหินที่มีรอยเท้าที่ฐานของเนินเขาแม้ว่าโขดหินงอกขึ้นมาจากแพลตฟอร์มในสถานที่ไม่กี่ ศาลเพียงตาของรูปแบบต่างๆและขนาดจุดแพลตฟอร์มที่เป็นโขด วัดซับซ้อนอินทรีย์อย่างน่าพิศวงที่ไม่เหมือนใครของเราเคยเห็นในประเทศไทย ให้แน่ใจว่าได้ให้เวลาสำหรับการสำรวจ.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สำหรับชาวตะวันตกที่ บางทีหนึ่งด้านอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นของพระพุทธศาสนาคือประเพณีของรอยเท้าพระ วัดต่าง ๆ จะมีธนบัตรเท้าพระ ที่ใช้ในการแสดง 108 "มงคลสัญลักษณ์" โดยที่พวกเขาสามารถรับรู้ ตัวอย่างที่ดีเหล่านี้คือเท้าของนอนพบพระในวัดกรุงเทพมหานครที่เรียกกันทั่วไปว่าวัดโพธิ์กัน
แต่ส่วนอยากรู้อยากเห็นเป็นประเพณีที่พบรอยเท้าจริงในชนบท ประเพณีนี้ถือว่า พระพุทธเจ้า หรือลงที่เรียกว่า "พระในอนาคต" จากคำแนะนำธรรมเหล่านี้ เนื่องจากส่วนใหญ่ของรอยเท้าเหล่านี้มีขนาดของอ่างอาบน้ำ อนาคตพระเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนจะยุ่งกับการ
เมื่อพบในธรรมชาติ ธาตุเหล่านี้อยู่ภายใต้การ scrutiny มากเพื่อประกันเหล่านั้นมีป้ายขวา แล้วก็กลายเป็นศาสนสถาน มีจริงหลายพระพุทธบาทจำลองวัดในประเทศไทย แต่สำคัญที่สุดของเหล่านี้เป็นวัดพระ Puddhabat ในจังหวัดสระบุรี ภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์ของคลาสบแรก
แม้ว่าบิตออกติดตามท่องเที่ยว เป็นวัดที่อยู่ของการแสวงบุญที่ยุติธรรมในเดือนมกราคม/กุมภาพันธ์และมีนาคม เราเข้าวัดในช่วงแฟร์จัดขึ้นในเดือนมกราคมของ 2002.
รอยอยู่เป็นหิน outcropping 25 กิโลเมตรจากตัวเมืองสระบุรี รอยเท้าตัวเองถูกปกคลุม โดยอาคารที่หรูหรา อัญมณีเหมือนที่เรียกว่า mondop เป็น ผนังภายนอกจะครอบคลุมในกระเบื้องมิเรอร์สีน้ำเงิน และสีเขียว และทองคำเปลว เราสามารถคิดเดียวอื่น ๆ สถานที่ที่คุณจะเห็นชนิดของโครงสร้างทางศาสนา และที่อยู่ในวัดพระแก้วในกรุงเทพมหานคร Mondop ที่จะเปิดวันหนึ่งปี บน 6 เมษายน และบ้านรูปภาพของพระมหากษัตริย์ของราชวงศ์จักรี

คุณสามารถสักการะพระพุทธบาทจำลองในวันใด ๆ แต่ถ้าเป็นวันจาริกแสวงบุญเตรียมฝูงชน ผ่านแม่ของเพิร์ล inlaid ประตู รอยใช้ตัวอาคารเล็ก ผนังภายในมี laquer แดงกับทองคำเปลว ฝาครอบที่ครอบคลุมในทองและกระจกอยู่เหนือรอย
แม้รอยค้นพบประมาณ 1624 เพื่อ 1628, mondop และฝาครอบวันจากปีก่อน ต้นฉบับถูกทำลาย โดย brigands ระหว่างความสับสนที่เกิดจาก sacking ของอยุธยาในปลายพุทธศตวรรษที่ จากทางเข้าหลัก คุณปีนบันไดยาวได้ mondop ไม่ต้องกังวล เป็นทางการ "เข้า" ความเจียมเนื้อเจียมตัวสูง ไม่มีขั้นตอน 300 ทดสอบความทนทานเช่นพบที่วัดบางไทย.
Mondop ตั้งอยู่บนแพลตฟอร์มที่สร้างเหนือเชิงผาหินที่ประกอบด้วยรอยที่ฐานของเขา แม้ว่าหิน outcroppings ฤดูใบไม้ผลิจากแพลตฟอร์มในไม่กี่ ศาลเจ้าต่าง ๆ ลักษณะและขนาดจุดแพลตฟอร์มเช่นเดียวกับ outcroppings ความเยี่ยมยอดอินทรีย์วัดซับซ้อนที่ไม่เหมือนที่อื่นไม่มีเราเคยเห็นในประเทศไทย ควรให้เวลาสำหรับการสำรวจมากมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สำหรับชาวตะวันตกที่อาจเป็นหนึ่งในแง่มุมต่างๆอย่างประหลาดของพุทธศาสนาเป็นประเพณีของรอยเท้าพระพุทธเจ้า วัดจำนวนมากจะได้มีสำเนาไม่ว่าของพระพุทธรูปซึ่งจะใช้เพื่อแสดงให้เห็นถึง 108 "ป้ายมหามงคล"โดยที่พวกเขาได้ เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีเยี่ยมของเหล่านี้จะเป็นที่ของพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่พบในวัดกรุงเทพฯที่รู้จักกันโดยทั่วไปและวัด Po .
แต่ส่วนที่เป็นประเพณีที่ว่ารอยเท้าอย่างแท้จริงสามารถพบได้ในเขตพื้นที่ชนบท ประเพณีแบบนี้ถือว่าพระพุทธรูปที่หรือชาติที่รู้จักกันในชื่อของ"พระอนาคต"ทางด้านซ้ายนี้ในการนำทางเราจะให้ความสว่าง นับจากรอยเท้าเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีขนาดของอ่างอาบน้ำอ่างอาบน้ำที่พระพุทธเจ้าในอนาคตที่เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครบางคนทำด้วย.
เมื่อพบได้ในธรรมชาติอนุสรณ์สถานต่างๆเหล่านี้จะต้องตกอยู่ในการตรวจสอบอย่างละเอียด extreme ,เพื่อสร้างความมั่นใจว่าพวกเขาจะมีป้ายบอกทางด้านขวาทั้งหมดจากนั้นก็จะกลายเป็นสถานที่อันควรเคารพสักการะ มีวัดพระพุทธบาทพระจริงๆแล้วหลายบริษัทในประเทศไทยแต่ที่สำคัญที่สุดของเหล่านี้พระ puddhabat วัดในจังหวัดสระบุรี และยังต้องอยู่ ภายใต้ พระบรมราชู ปถัมภ์ ในระดับ first class ที่. N ถึงแม้ว่าจะค่อนข้างออกติดตามนักท่องเที่ยวที่เป็นวัดที่มีที่ตั้งของงานการแสวงบุญที่ในเดือนมกราคมและ กุมภาพันธ์ และมีนาคม เราจะเข้าเยี่ยมชมวัดในระหว่างงานที่จัดขึ้นในเดือนมกราคม 2002
เขตคลุมสัญญาณที่ตั้งอยู่บนหิน outcropping ประมาณ 25 กิโลเมตรอยู่ห่างจากด้านทิศเหนือของเมืองสระบุรี เขตคลุมสัญญาณที่ตัวของมันเองได้รับการคุ้มครอง ภายใต้ อาคารอัญมณี - เหมือนอย่างหรูหราที่เรียกว่ามณฑปครอบ ผนังด้านนอกที่มีอยู่ในพื้นกระเบื้องสีฟ้าและสีเขียวกระจกและใบไม้สีทองเราสามารถคิดว่าในสถานที่เดียวกันในที่ซึ่งคุณจะได้รับชม ประเภท นี้ของโครงสร้าง religous และที่อยู่ในวัดพระแก้วมรกตที่มีพระพุทธรูปที่อยู่ในกรุงเทพฯ มณฑปที่เปิดให้บริการเฉพาะวันหนึ่งปีที่บ้านในวันที่ 6 เมษายนและ ภาพ ของกษัตริย์ของราชวงศ์จักรีซึ่ง.

คุณสามารถจ่ายทุกประการของคุณในการใช้พื้นที่ในวันพระที่ใดก็ได้แต่หากเป็นวันแห่งการแสวงบุญที่มีการเตรียมตัวสำหรับคนที่การเดินทางผ่านแม่ของประตูตะลุ่ม Pearl เขตคลุมสัญญาณที่ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์กลางของอาคารขนาดเล็ก ผนังด้านในที่มีเคลือบเงามันวาวสีแดงที่มีใบไม้สีทอง ม่านประดับที่มีอยู่ในกระจกและสีทองคือสร้างขึ้นในระยะเวลามากกว่าเขตคลุมสัญญาณ.
แม้ว่าจะใช้พื้นที่ที่ได้รับการสำรวจพบประมาณ 1624 เพื่อ 1628 มีม่านประดับและมณฑปในวันที่เริ่มตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19ต้นฉบับที่ถูกทำลายโดย brigands ในระหว่างเกิดความสับสนที่เป็นผลมาจากในอยุธยาในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ได้ จากทางเข้าหลักที่คุณปีนขึ้นบันไดสู่มณฑปที่ ไม่ต้องกังวล"ทางเข้าที่สง่างาม"ของความสูงไม่มากนักแต่ก็ไม่ใช่ 300 การทดสอบความอดทนขั้นตอนเช่นพบที่วัดไทย.
ของรูปมณฑปตั้งอยู่บนแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเหนือผาหินที่มีพื้นที่ที่ที่ตั้งของเนินเขาถึงแม้ว่าหินยืนต้นบิดเบี้ยวแห้งตายออกมาของแพลตฟอร์มในสถานที่เพียงไม่กี่แห่งที่ เจดีย์มีขนาดและสไตล์ที่หลากหลายแพลตฟอร์มที่เป็นจุดรวมทั้งยืนต้นบิดเบี้ยวแห้งตายได้ คอมเพล็กซ์ประกอบรัฐธรรมนูญวัดอย่างน่ามหัศจรรย์ใจที่ไม่เหมือนที่อื่นๆที่เราเห็นในประเทศไทย ต้องแน่ใจว่าได้อนุญาตให้มีเวลามากมายเพื่อการสำรวจ.