First, in terms of cost, college is

First, in terms of cost, college is more expensive than high school because of tuition, living expenses, and books. Everybody who attend to college also pay fees, because there is free to attend high school. College tuition can start at roughly 6500 Bath per term. On the other hand, high school students do not have to pay for their education, because of government funds in high schools. In addition the cost of learning materials, such as textbooks. In college, students must buy textbooks for each course which they attend. These books are not cheap students have purchased the books for all their classes. High school students never have to worry about buying their textbooks because high schools always keep a set of books, which students use and then return at the end of the year, so the college students also have much more work to do once their bills have been paid.
Next, the workload in college is more challenging than the workload in high school. College students are faced with the task of having to complete an average of three to five assignments per week, whereas high school students average only one to three assignments per week. There are more assignments in college, and they are also more challenging and can take up to eight hours to complete successfully. In addition, the extra time that college students put into their work, students experience extra pressure because their final grades are based on each assignment. In high school, however, an assignment is worth only 5% to 20% of a student’s final grade. In college, an assignment is worth 25% or as much as 50% of a student’s final grade. College students are consistently placed under more academic pressure than high school students.
Finally, in college, there are more activities, sports, and clubs for students to participate in than in high school. College students have both the benefits of being able to join varsity sports teams as well as being able to use any athletic facilities the college has to offer, such as gyms, pools, and weight rooms. In contrast, most high schools often offer non-varsity sports teams, but very few high schools boast athletic facilities similar to those of a college. Athletic facilities show the college environment to be much more social than the high school environment.

In conclusion, academic, and social aspects, college is more cost, more academic challenging, and more social stimulate than high school. These differences come from my experience. If new post-secondary students are conscious of these differences, they will be more adequately prepared for the challenges that college can present.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

First, in terms of cost, college is more expensive than high school because of tuition, living expenses, and books. Everybody who attend to college also pay fees, because there is free to attend high school. College tuition can start at roughly 6500 Bath per term. On the other hand, high school students do not have to pay for their education, because of government funds in high schools. In addition the cost of learning materials, such as textbooks. In college, students must buy textbooks for each course which they attend. These books are not cheap students have purchased the books for all their classes. High school students never have to worry about buying their textbooks because high schools always keep a set of books, which students use and then return at the end of the year, so the college students also have much more work to do once their bills have been paid.Next, the workload in college is more challenging than the workload in high school. College students are faced with the task of having to complete an average of three to five assignments per week, whereas high school students average only one to three assignments per week. There are more assignments in college, and they are also more challenging and can take up to eight hours to complete successfully. In addition, the extra time that college students put into their work, students experience extra pressure because their final grades are based on each assignment. In high school, however, an assignment is worth only 5% to 20% of a student’s final grade. In college, an assignment is worth 25% or as much as 50% of a student’s final grade. College students are consistently placed under more academic pressure than high school students. Finally, in college, there are more activities, sports, and clubs for students to participate in than in high school. College students have both the benefits of being able to join varsity sports teams as well as being able to use any athletic facilities the college has to offer, such as gyms, pools, and weight rooms. In contrast, most high schools often offer non-varsity sports teams, but very few high schools boast athletic facilities similar to those of a college. Athletic facilities show the college environment to be much more social than the high school environment. ในบทสรุป ด้านวิชาการ และสังคม วิทยาลัยเป็นเรื่องต้นทุน เพิ่มเติมวิชาการท้าทาย และกระตุ้นสังคมเพิ่มเติมกว่ามัธยม ความแตกต่างเหล่านี้มาจากประสบการณ์ของผม ถ้านักศึกษาหลังมัธยมศึกษาใหม่มีจิตสำนึกของความแตกต่างเหล่านี้ พวกเขาจะมากขึ้นเพียงพอเตรียมสำหรับความท้าทายที่วิทยาลัยสามารถนำเสนอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ครั้งแรกในแง่ของต้นทุนวิทยาลัยมีราคาแพงกว่าโรงเรียนมัธยมเพราะค่าเล่าเรียนค่าครองชีพและหนังสือ ทุกคนที่เข้าร่วมกับวิทยาลัยยังจ่ายค่าเพราะมีอิสระที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนสูง ค่าเล่าเรียนสามารถเริ่มต้นที่ประมาณ 6500 บาทต่อระยะ บนมืออื่น ๆ ที่นักเรียนมัธยมจะได้ไม่ต้องจ่ายสำหรับการศึกษาของพวกเขาเพราะเงินของรัฐบาลในโรงเรียนมัธยม นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายของสื่อการเรียนรู้เช่นตำรา ในวิทยาลัยนักเรียนจะต้องซื้อหนังสือเรียนสำหรับแต่ละหลักสูตรที่พวกเขาเข้าร่วม หนังสือเหล่านี้จะไม่ได้รับนักเรียนราคาถูกได้สั่งซื้อหนังสือเรียนของพวกเขาทั้งหมด นักเรียนมัธยมไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการซื้อหนังสือเรียนของพวกเขาเพราะโรงเรียนมัธยมเสมอชุดของหนังสือที่นักเรียนใช้แล้วกลับในตอนท้ายของปีนี้เพื่อให้นักศึกษานอกจากนี้ยังมีงานอื่น ๆ อีกมากมายที่จะทำเมื่อค่าของพวกเขาได้รับ จ่าย.
ถัดไปภาระงานในวิทยาลัยเป็นสิ่งที่ท้าทายมากขึ้นกว่าภาระงานในโรงเรียนมัธยม นักศึกษาจะต้องเผชิญกับงานที่จะต้องดำเนินการโดยเฉลี่ย 3-5 ได้รับมอบหมายต่อสัปดาห์ในขณะที่นักเรียนโรงเรียนเฉลี่ยสูงเพียง 1-3 ได้รับมอบหมายต่อสัปดาห์ มีการมอบหมายงานอื่น ๆ ในวิทยาลัยและพวกเขายังมีความท้าทายมากขึ้นและสามารถใช้เวลาถึงแปดชั่วโมงเพื่อให้ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ในช่วงต่อเวลาพิเศษที่นักศึกษาใส่ลงไปในการทำงานของพวกเขานักเรียนได้สัมผัสกับความดันเพิ่มเพราะเกรดสุดท้ายของพวกเขาจะขึ้นอยู่กับแต่ละงาน ในโรงเรียนมัธยมอย่างไรก็ตามการกำหนดเป็นมูลค่าเพียง 5% ถึง 20% ของคะแนนปลายภาคของนักเรียน ในวิทยาลัยได้รับมอบหมายเป็นมูลค่า 25% หรือมากถึง 50% ของคะแนนปลายภาคของนักเรียน นักศึกษาจะถูกวางไว้อย่างต่อเนื่องภายใต้ความกดดันทางวิชาการมากกว่านักเรียนมัธยม.
สุดท้ายในวิทยาลัยนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย, กีฬา, และคลับสำหรับนักเรียนที่จะมีส่วนร่วมในกว่าในโรงเรียนมัธยม นักศึกษาวิทยาลัยมีทั้งประโยชน์ของความสามารถในการเข้าร่วมทีมตัวแทนนักกีฬาเช่นเดียวกับความสามารถในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ กีฬาวิทยาลัยมีให้เช่นโรงยิม, สระว่ายน้ำและห้องน้ำหนัก ในทางตรงกันข้ามส่วนใหญ่โรงเรียนมัธยมมักจะมีทีมกีฬาที่ไม่ใช่ตัวแทน แต่น้อยมากโรงเรียนมัธยมโม้กีฬาสถานที่คล้ายกับของวิทยาลัย สิ่งอำนวยความสะดวกติกแสดงสภาพแวดล้อมของวิทยาลัยที่จะมากขึ้นกว่าสภาพแวดล้อมทางสังคมที่โรงเรียนมัธยม.

ในข้อสรุปทางวิชาการและด้านสังคม, วิทยาลัยเป็นค่าใช้จ่ายมากขึ้นนักวิชาการที่ท้าทายมากขึ้นและสังคมมากขึ้นกว่ากระตุ้นโรงเรียนมัธยม ความแตกต่างเหล่านี้มาจากประสบการณ์ของผม หากนักเรียนระดับมัธยมศึกษาใหม่มีจิตสำนึกของความแตกต่างเหล่านี้พวกเขาจะต้องเตรียมพร้อมมากขึ้นเพียงพอสำหรับความท้าทายที่วิทยาลัยสามารถนำเสนอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ครั้งแรก ในแง่ของต้นทุน วิทยาลัยแพงกว่าโรงเรียนเพราะค่าเล่าเรียน , ค่าครองชีพ , และหนังสือ ทุกคนที่เข้าร่วมวิทยาลัยยังจ่ายค่าธรรมเนียม เพราะมีฟรีเพื่อเข้าร่วมประชุมโรงเรียนมัธยม ค่าเทอมเริ่มต้นที่ประมาณ 6 , 500 บาทต่อเทอม บนมืออื่น ๆที่นักเรียนไม่ต้องจ่ายสำหรับการศึกษาของพวกเขา เพราะเงินของรัฐบาลโรงเรียนมัธยม นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายของสื่อการเรียนรู้ เช่น หนังสือเรียน ในโรงเรียน นักเรียนต้องซื้อหนังสือเรียนสำหรับแต่ละหลักสูตรที่พวกเขาเข้าร่วม หนังสือเหล่านี้ไม่ได้เป็นนักศึกษาราคาถูกซื้อหนังสือสำหรับชั้นเรียนของพวกเขาทั้งหมด นักเรียน ม.ปลาย ไม่เคยต้องกังวลเกี่ยวกับการซื้อหนังสือเรียน เนื่องจากโรงเรียนอยู่เสมอชุดของหนังสือที่นักเรียนใช้แล้วส่งกลับที่ส่วนท้ายของปี ดังนั้น นักศึกษายังต้องทำงานมากขึ้นเพื่อทำเมื่อตั๋วของพวกเขาได้รับเงินต่อไป ภาระงานในวิทยาลัยเป็นสิ่งที่ท้าทายมากกว่าภาระงานในโรงเรียน นักศึกษาจะต้องเผชิญกับงานที่ต้องเสร็จเฉลี่ย 3-5 งานต่อสัปดาห์ ในขณะที่นักเรียนเฉลี่ยเพียงหนึ่งถึงสามงานต่อสัปดาห์ มีงานมากขึ้นในวิทยาลัย และพวกเขายังมีความท้าทายมากขึ้นและสามารถใช้เวลาถึงแปดชั่วโมงให้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ เวลาที่นักศึกษาใส่ลงไปในงานของพวกเขา ประสบการณ์นักเรียนเพิ่มความดัน เพราะคะแนนสุดท้ายของพวกเขาจะขึ้นอยู่กับแต่ละงาน โรงเรียนสูง อย่างไรก็ตาม งานมีมูลค่าเพียง 5% ถึง 20% ของคะแนนสุดท้ายของนักเรียน ในวิทยาลัย งานคือ 25% หรือเท่าที่ 50% ของเกรดสุดท้ายของนักเรียน นักศึกษาวิทยาลัยถูกวางไว้อย่างต่อเนื่องภายใต้ความกดดันทางวิชาการมากกว่านักเรียนในโรงเรียนมัธยมในที่สุด , ในมหาลัย มีกิจกรรมมากขึ้น กีฬา คลับ และให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกว่าในโรงเรียนมัธยม นักศึกษามีทั้งประโยชน์ของการได้เข้าร่วมเป็นตัวแทนทีมกีฬารวมทั้งสามารถใช้ใด ๆแข็งแรงเครื่องวิทยาลัยมีให้ เช่น ยิม , สระว่ายน้ำ , และน้ำหนักที่ห้องพัก ในทางตรงกันข้าม โรงเรียนส่วนใหญ่มักจะเสนอไม่ใช่ตัวแทนทีมกีฬา แต่โรงเรียนมัธยมมากน้อยโม้เครื่องแข็งแรงคล้ายกับบรรดาของวิทยาลัย เครื่องแข็งแรงแสดงสภาพแวดล้อมของวิทยาลัยมีสังคมมากกว่าโรงเรียนสิ่งแวดล้อมสรุป วิชาการ และด้านสังคม วิทยาลัยมีต้นทุนมากขึ้น งานที่ท้าทายและสังคมเพิ่มเติมกระตุ้นมากกว่าโรงเรียนมัธยม ความแตกต่างเหล่านี้มาจากประสบการณ์ของฉัน ถ้านักเรียนเตรียมอุดมใหม่ตระหนักถึงความแตกต่างเหล่านี้ พวกเขาจะมีเตรียมไว้อย่างเพียงพอ สำหรับความท้าทายที่วิทยาลัยสามารถปัจจุบัน