Accordingly, Roscher opines that ta

Accordingly, Roscher opines that task of the social sciences is to uncover laws of historical development on the basis of inductive procedures.
In his Leben, Werk und Zeitalter der Thukydides, he aims at clarifying the epistemological status of the social sciences and provides a naturalistic account of the methods of the social and natural sciences. These views are much inspired by Bacon's ideas. Like all inductivists, Roscher holds that genuine new scientific knowledge can be obtained by inductive procedures only. In order to explain these procedures, he introduces a passive psychology of knowledge. According to that theory, the human mind is a digestive system which processes the incoming flow of sense data obtained by sense organs. He explains that the results of intellectual activities are the products of this process.
He links that passive psychology phylogenetic theory explaining the development of cognitive faculties and distinguishes four different stages according to the different intellectual products resulting in each stage. Intellectual products such as utterances and gestures characterize the first and most basic stage of this development process; the products of art and music characterize the second one; scientific theories the third one; and philosophical systems the fourth and highest stage. Whereas the analysis of the first two stages runs in Psychological terms, the third one runs in sociological terms providing a "naturalistic" account of the methodology of the social sciences. In this account, Roscher simply translates his passive psychological theory into a description of scientific activities and distinguishes between "historical craftsmen" and "matters of history". Historical craftsmen have the task of collecting data and facts that constitute the empirical basis from which the masters of history infer social and historical laws by content-enlarging and truth-preserving inferences. Whereas historical craftsmen are capable only of collecting and perhaps of organizing data, the masters of history select the relevant data and facts and process them into theories by discovering regularities and similarities. This naturalistic description of social science methodology provides the simple Baconian inductivist picture of science according to which science starts from unprejudiced observations which form the basis for inferring absolutely certain and proven true theories by inductive methods.
Roscher's analysis encounters several difficulties. The most important one here is demarcation problem. It results from his theory that all products of human intellectual activities like art, science and philosophy are an outcome of inductive procedures. In order to demarcate empirical science from other realms of human inquiry, he proposes a very rudimentary correspondence theory of truth. In contrast to science, philosophy and art have to meet different standards: philosophy for instance logical consistency and the products of art certain laws of aesthetical sentiment. Another difficulty here is the applicability of inductive methods in the social sciences. Like many other inductivists, Roscher as well believes that the possibility of repeated observations is a precondition for applying inductive methods in his view, the natural sciences do not meet any difficulties here. Ontologically the natural universe is characterized by the so-called principle of the uniformity of nature which guarantees the possibility of repeated observations. In contrast, the ontological characteristic of the social universe is change and seemingly renders the making of repeated observations and the application of inductive methods impossible.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามลำดับ Roscher ไปงานของสังคมวิทยาคือการ ค้นพบกฎของการพัฒนาทางประวัติศาสตร์โดยใช้วิธีเชิงอุปนัยในเขา Leben แดน Werk Zeitalter der Thukydides เขามีวัตถุประสงค์เพื่อทำสถานะ epistemological ของสังคมศาสตร์ และบัญชี naturalistic วิธีของสังคมและวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ มุมมองเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจมากตามความคิดของเบคอน เช่น inductivists ทั้งหมด Roscher ถือว่า ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ใหม่แท้สามารถได้รับ โดยเฉพาะกระบวนการเหนี่ยว เพื่ออธิบายขั้นตอนเหล่านี้ เขาแนะนำจิตวิทยาแฝงความรู้ ตามทฤษฎีนั้น จิตใจมนุษย์เป็นระบบย่อยอาหารซึ่งกระบวนการไหลเข้าของข้อมูลความรู้สึกได้ ด้วยอวัยวะสัมผัส เขาอธิบายถึงผลลัพธ์ของกิจกรรมทางปัญญาใช้ผลิตภัณฑ์ของกระบวนการนี้เขาเชื่อมโยงทฤษฎีว่า phylogenetic แฝงจิตวิทยาอธิบายการพัฒนาของคณะที่รับรู้ และแยกสี่ขั้นตอนแตกต่างกันตามผลิตภัณฑ์ทางปัญญาแตกต่างกันในแต่ละขั้นตอน ผลิตภัณฑ์ทางปัญญาเช่น utterances และรูปแบบลายเส้นลักษณะระยะแรก และพื้นฐานของกระบวนการพัฒนานี้ ด้านศิลปะและดนตรีแห่งหนึ่งสอง ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ได้ที่สาม และขั้นตอนของระบบปรัชญาสี่ และสูงสุด ในขณะที่การวิเคราะห์ขั้นสองทำงานในแง่จิตวิทยา หนึ่งสามทำงานในแง่สังคมวิทยาให้เป็นบัญชี "naturalistic" ของระเบียบวิธีของสังคมศาสตร์ บัญชี Roscher เพียงแค่แปลทฤษฎีจิตวิทยาของเขาแฝงเป็นคำอธิบายของกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ และแยกแยะ "หลังประวัติศาสตร์" และ "เรื่องของประวัติศาสตร์" งานรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เป็นพื้นฐานของประจักษ์ซึ่งแบบประวัติศาสตร์เข้าใจสังคม และประวัติศาสตร์กฎหมาย โดย ขยายเนื้อหา และความจริงสงวน inferences หลังประวัติศาสตร์ได้ ในขณะที่หลังประวัติศาสตร์มีความสามารถเพียงเก็บรวบรวม และอาจจะจัดระเบียบข้อมูล แบบประวัติศาสตร์เลือกข้อมูลที่เกี่ยวข้องและข้อเท็จจริง และกระบวนการเป็นทฤษฎี โดยค้นพบ regularities และความเหมือน อธิบาย naturalistic ของระเบียบวิธีของสังคมศาสตร์ให้ภาพ Baconian inductivist เรื่องของวิทยาศาสตร์ตามที่วิทยาศาสตร์เริ่มต้นจากสังเกต unprejudiced ซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับ inferring แน่ใจและทฤษฎีพิสูจน์ความจริง โดยวิธีเชิงอุปนัยRoscher's analysis encounters several difficulties. The most important one here is demarcation problem. It results from his theory that all products of human intellectual activities like art, science and philosophy are an outcome of inductive procedures. In order to demarcate empirical science from other realms of human inquiry, he proposes a very rudimentary correspondence theory of truth. In contrast to science, philosophy and art have to meet different standards: philosophy for instance logical consistency and the products of art certain laws of aesthetical sentiment. Another difficulty here is the applicability of inductive methods in the social sciences. Like many other inductivists, Roscher as well believes that the possibility of repeated observations is a precondition for applying inductive methods in his view, the natural sciences do not meet any difficulties here. Ontologically the natural universe is characterized by the so-called principle of the uniformity of nature which guarantees the possibility of repeated observations. In contrast, the ontological characteristic of the social universe is change and seemingly renders the making of repeated observations and the application of inductive methods impossible.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดังนั้น Roscher เห็นว่างานของวิทยาศาสตร์ทางสังคมคือการค้นพบกฎของประวัติศาสตร์การพัฒนาบนพื้นฐานของวิธีการอุปนัย.
ใน Leben เขา Werk และ Zeitalter เดอร์ Thukydides เขามีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนสถานะญาณวิทยาของสังคมศาสตร์และให้บัญชีของธรรมชาติ วิธีการของวิทยาศาสตร์สังคมและธรรมชาติ มุมมองเหล่านี้มีแรงบันดาลใจมากจากความคิดของเบคอน เช่นเดียวกับ inductivists ทุก Roscher ถือได้ว่าความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของแท้ใหม่สามารถหาได้โดยวิธีการอุปนัยเท่านั้น เพื่อที่จะอธิบายขั้นตอนเหล่านี้เขาแนะนำจิตวิทยาที่แฝงความรู้ ตามทฤษฎีที่จิตใจมนุษย์เป็นระบบย่อยอาหารซึ่งกระบวนการการไหลเข้ามาของข้อมูลความรู้สึกที่ได้รับจากอวัยวะความรู้สึก เขาอธิบายว่าผลของกิจกรรมทางปัญญาเป็นผลิตภัณฑ์ของกระบวนการนี้.
เขาเชื่อมโยงว่าจิตวิทยาเรื่อย ๆ ทฤษฎีวิวัฒนาการอธิบายการพัฒนาองค์ความรู้และปัญญาที่แตกต่างสี่ขั้นตอนที่แตกต่างกันไปตามผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันทางปัญญาที่เกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอน ผลิตภัณฑ์ทางปัญญาเช่นคำพูดและท่าทางลักษณะขั้นตอนแรกและขั้นพื้นฐานที่สุดของการพัฒนานี้ ผลิตภัณฑ์ของศิลปะและดนตรีลักษณะที่สอง; ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่สามหนึ่ง และระบบปรัชญาที่สี่และขั้นตอนที่สูงที่สุด ในขณะที่การวิเคราะห์ของทั้งสองขั้นตอนการทำงานในแง่จิตวิทยาหนึ่งในสามวิ่งในแง่สังคมวิทยาให้เป็น "ธรรมชาติ" บัญชีของวิธีการของวิทยาศาสตร์สังคม ในบัญชีนี้ Roscher ก็แปลทฤษฎีทางจิตวิทยาของเขาเรื่อย ๆ ลงไปในรายละเอียดของกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์และความแตกต่างระหว่าง "ช่างฝีมือประวัติศาสตร์" และ "เรื่องของประวัติศาสตร์" ช่างฝีมือประวัติศาสตร์มีงานของการเก็บรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เป็นพื้นฐานเชิงประจักษ์จากการที่เจ้านายของประวัติศาสตร์สรุปกฎหมายสังคมและประวัติศาสตร์โดยเนื้อหาการขยายและการหาข้อสรุปความจริงการรักษาที่ ในขณะที่ช่างฝีมือทางประวัติศาสตร์ที่มีความสามารถเฉพาะของการเก็บรวบรวมและบางทีอาจจะในการจัดระเบียบข้อมูลต้นแบบของประวัติศาสตร์เลือกข้อมูลที่เกี่ยวข้องและข้อเท็จจริงและประมวลผลพวกเขาเข้าไปในทฤษฎีโดยการค้นพบแบบแผนและความคล้ายคลึงกัน นี้คำอธิบายธรรมชาติของวิธีการทางสังคมศาสตร์ให้ภาพ inductivist ง่ายเบคอนของวิทยาศาสตร์ตามที่วิทยาศาสตร์จะเริ่มต้นจากการสังเกตไม่มีอคติเป็นพื้นฐานของการอนุมานบางอย่างและพิสูจน์ทฤษฎีที่แท้จริงโดยวิธีการอุปนัย.
การวิเคราะห์ของ Roscher พบความยากลำบากหลาย หนึ่งที่สำคัญที่สุดที่นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นแบ่งเขต มันเป็นผลมาจากทฤษฎีของเขาว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของกิจกรรมทางปัญญาของมนุษย์เช่นศิลปะวิทยาศาสตร์และปรัชญาเป็นผลที่ได้จากขั้นตอนการอุปนัย เพื่อที่จะแบ่งแยกวิทยาศาสตร์เชิงประจักษ์จากอาณาจักรอื่น ๆ ของการสอบสวนของมนุษย์เขาเสนอทฤษฎีการติดต่อพื้นฐานของความเป็นจริงมาก ในทางตรงกันข้ามกับวิทยาศาสตร์ปรัชญาและศิลปะจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่แตกต่างกัน: ปรัชญาเช่นความสอดคล้องเชิงตรรกะและผลิตภัณฑ์ของศิลปะกฎหมายบางอย่างของความเชื่อมั่นสุนทรียภาพ ความยากลำบากอีกนี่คือการประยุกต์ใช้วิธีการอุปนัยในสังคมศาสตร์ เช่นเดียวกับ inductivists อื่น ๆ อีกมากมาย Roscher เช่นกันเชื่อว่าเป็นไปได้ของการสังเกตซ้ำเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการใช้วิธีการอุปนัยในมุมมองของเขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติไม่ตรงกับความยากลำบากใด ๆ ที่นี่ ontologically จักรวาลธรรมชาติที่โดดเด่นด้วยหลักการที่เรียกว่าของความสม่ำเสมอของธรรมชาติซึ่งรับประกันความเป็นไปได้ของการสังเกตซ้ำ ในทางตรงกันข้ามลักษณะ ontological ของจักรวาลคือการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและดูเหมือนจะแสดงผลการทำซ้ำการสังเกตและการประยุกต์ใช้วิธีการอุปนัยเป็นไปไม่ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดังนั้น roscher มีความเห็นว่า งานของสังคมศาสตร์คือการค้นพบกฎของประวัติศาสตร์การพัฒนาบนพื้นฐานของวิธีการอุปนัย .
ในลีเบนของเขา เวิร์ก และ zeitalter เดอทิวซิดิดีส เขามีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงสถานภาพทางญาณวิทยาของวิทยาศาสตร์สังคมและมีบัญชีในสภาพธรรมชาติของวิธีการสังคมและวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ มุมมองเหล่านี้มีมากที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเบคอนของความคิดชอบทุก inductivists roscher ของแท้ , ถือที่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ใหม่ได้โดยวิธีการอุปนัยเท่านั้น เพื่ออธิบายขั้นตอนเหล่านี้ , เขาแนะนำจิตวิทยาเรื่อยๆของความรู้ ตามทฤษฎีนั้น จิตใจของมนุษย์ คือ ระบบการย่อยอาหาร ซึ่งกระบวนการการไหลเข้ามาของความรู้สึกข้อมูลโดยอวัยวะความรู้สึกเขาอธิบายว่า ผลลัพธ์ของกิจกรรมทางปัญญาเป็นผลิตภัณฑ์ของกระบวนการนี้
เขาลิงค์เรื่อยๆทฤษฎีจิตวิทยาวิวัฒนาการอธิบายการพัฒนาของคณะ และการรับรู้แตกต่างสี่ขั้นตอนที่แตกต่างกันไปตามความแตกต่างด้านผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอนผลิตภัณฑ์ทางปัญญา เช่น คำพูดและท่าทางลักษณะขั้นตอนแรกและพื้นฐานที่สุดของกระบวนการพัฒนานี้ ผลิตภัณฑ์ของศิลปะและดนตรีเป็นลักษณะที่สอง ; วิทยาศาสตร์ทฤษฎีอันที่สาม และสี่ และสูงสุดระบบเวทีทางปรัชญา ส่วนการวิเคราะห์สองขั้นตอนแรกวิ่งในแง่จิตวิทยาคนที่สามวิ่งในแง่สังคมวิทยาให้บัญชี " ด " ของวิธีการของวิทยาศาสตร์สังคม ในบัญชีนี้ roscher เพียงแค่แปลทฤษฎีจิตวิทยาของเขาเรื่อยๆเข้าไปในรายละเอียดของกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์และแตกต่างระหว่าง " และ " หลัง " ประวัติศาสตร์สำคัญของประวัติศาสตร์ "หลังทางประวัติศาสตร์มีงานของการรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เป็นข้อมูลพื้นฐานเชิงประจักษ์ซึ่งต้นแบบของประวัติศาสตร์สรุปกฎหมายสังคมและประวัติศาสตร์ โดยเนื้อหาการขยายและความจริงการใช้ . ส่วนช่างที่มีความสามารถเฉพาะทาง และบางทีการจัดเก็บข้อมูลอาจารย์ของประวัติศาสตร์เลือกข้อมูลที่เกี่ยวข้องและข้อเท็จจริงและกระบวนการพวกเขาเป็นโดยการค้นพบและทฤษฎีเกี่ยวกับความคล้ายคลึงกันรายละเอียดในสภาพธรรมชาติของวิธีวิทยาทางสังคมศาสตร์ให้ง่าย baconian inductivist ภาพวิทยาศาสตร์ตามที่วิทยาศาสตร์เริ่มจากความไม่ลำเอียง ) ซึ่งรูปแบบพื้นฐานสำหรับการแน่นอน และพิสูจน์ความจริงทฤษฎีโดยวิธีอุปนัย คือ พบปัญหา roscher
การวิเคราะห์หลาย ที่สำคัญที่สุดที่นี่คือปัญหาการปักปันเขตแดน .ผลจากทฤษฎีของเขาว่า ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของกิจกรรมทางปัญญาของมนุษย์ เช่น ศิลปะ วิทยาศาสตร์และปรัชญา เป็นผลของวิธีการอุปนัย เพื่อของวิทยาศาสตร์เชิงประจักษ์จากอาณาจักรอื่น ๆของการสอบถามของมนุษย์ เขาได้เสนอทฤษฎีพื้นฐานการมากจริง ในทางตรงกันข้ามกับวิทยาศาสตร์ ปรัชญาและศิลปะ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่แตกต่างกัน :ปรัชญาเช่นตรรกะความสอดคล้องและผลิตภัณฑ์ศิลปะกฎหมายบางความรู้สึกสุนทรียะ . อีกปัญหาคือการประยุกต์ใช้วิธีการเชิงอุปนัยในสังคมศาสตร์ ชอบ inductivists อื่น ๆอีกมากมาย roscher เช่นกัน เชื่อว่าโอกาสของการสังเกตซ้ำ เป็นเงื่อนไขสำหรับการประยุกต์ใช้วิธีการเชิงอุปนัยในมุมมองของเขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ไม่พบปัญหาใด ๆ ที่นี่ ontologically จักรวาลธรรมชาติเป็น characterized โดยหลักการที่เรียกว่าของความสม่ำเสมอของธรรมชาติซึ่งรับประกันโอกาสซ้ำ การสังเกต ในทางตรงกันข้ามลักษณะทางสังคมเป็นภววิทยาของจักรวาล และดูเหมือนจะแสดงการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลซ้ำและการประยุกต์ใช้วิธีการที่เป็นไปไม่ได้
อุปนัย