Hamsters are rodents belonging to t

Hamsters are rodents belonging to the subfamily Cricetinae. The subfamily contains about 25 species, classified in six or seven genera.

In the wild, hamsters are crepuscular and remain underground during the day to avoid being caught by predators. They feed primarily on seeds, fruits, and vegetation, and will occasionally eat burrowing insects. They have elongated cheek pouches extending to their shoulders in which they carry food back to their burrows.

Hamster behavior varies depending on their environment, genetics, and interaction with people.
Hamsters are typically stout-bodied, with tails shorter than body length, and have small, furry ears, short, stocky legs, and wide feet. They have thick, silky fur, which can be long or short, colored black, grey, honey, white, brown, yellow, red, or a mix, depending on the species. Two species of hamster belonging to the genus Phodopus, Campbell's dwarf hamster and the Djungarian hamster and two of the genus Cricetulus, the Chinese striped hamster and the Chinese hamster have a dark stripe down their heads to their tails. The species of genus Phodopus are the smallest, with bodies 5.5 to 10.5 cm long; the largest is the European hamster , measuring up to 34 cm long, not including a short tail of up to 6 cm . The Angora hamster, also known as the long-haired or teddy bear hamster, which is a type of the golden hamster is the second-largest hamster breed, measuring up to 18 cm .


A white Syrian hamster showing large incisors
The hamster tail can be difficult to see, as it is usually not very long , with the exception of the Chinese dwarf hamster, which has a tail the same length as the body. One rodent characteristic that can be highly visible in hamsters is their sharp incisors; they have an upper pair and lower pair which grow continuously throughout life, so must be regularly worn down. Hamsters are very flexible, but their bones are somewhat fragile. They are extremely susceptible to rapid temperature changes and drafts, as well as extreme heat or cold

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แฮมสเตอร์เป็นสัตว์ฟันแทะที่เป็นของอนุวงศ์ Cricetinae อนุวงศ์มีประมาณ 25 ชนิดจำแนกในหกหรือเจ็ดจำพวก. ในป่าแฮมสเตอร์เป็น crepuscular และยังคงใต้ดินในระหว่างวันเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับโดยผู้ล่า พวกเขากินหลักในเมล็ดผลไม้และพืชผักและบางครั้งจะกินแมลงขุด พวกเขาได้ยืดกระเป๋าแก้มขยายไปยังไหล่ของพวกเขาที่พวกเขาดำเนินการอาหารกลับไปที่โพรงของพวกเขา. พฤติกรรมของหนูแฮมสเตอร์แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของพันธุศาสตร์และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน. แฮมสเตอร์มักจะอ้วนฉกรรจ์กว่าที่มีหางสั้นความยาวลำตัวและมีการ ขนาดเล็กขนยาวหูสั้นขาแข็งแรงและฟุตกว้าง พวกเขามีความหนาขนอ่อนนุ่มซึ่งอาจจะยาวหรือสั้นสีดำ, สีเทา, น้ำผึ้ง, สีขาว, สีน้ำตาล, สีเหลือง, สีแดง, หรือผสมขึ้นอยู่กับชนิด สองสายพันธุ์ของหนูแฮมสเตอร์ที่อยู่ในสกุล Phodopus หนูแฮมสเตอร์แคระแคมป์เบลและหนูแฮมสเตอร์ Djungarian และสองของ Cricetulus จำพวกหนูแฮมสเตอร์ลายจีนและหนูแฮมสเตอร์จีนมีแถบสีเข้มลงหัวของพวกเขาที่จะหางของพวกเขา ชนิดของพืชและสัตว์ Phodopus มีขนาดเล็กที่สุดกับร่างกาย 5.5-10.5 เซนติเมตรยาว; ที่ใหญ่ที่สุดเป็นหนูแฮมสเตอร์ยุโรปวัดได้ถึง 34 เซนติเมตรยาวไม่รวมหางสั้นถึง 6 ซม. หนูแฮมสเตอร์ Angora ยังเป็นที่รู้จักผมยาวหรือตุ๊กตาหมีหนูแฮมสเตอร์ซึ่งเป็นชนิดของหนูแฮมสเตอร์สีทองเป็นสายพันธุ์หนูแฮมสเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดที่สองวัดได้ถึง 18 ซม. หนูแฮมสเตอร์ซีเรียสีขาวขนาดใหญ่แสดงให้เห็นฟันหางหนูแฮมสเตอร์สามารถ ยากที่จะเห็นตามที่มันมักจะไม่นานมากด้วยข้อยกเว้นของหนูแฮมสเตอร์แคระจีนซึ่งมีหางมีความยาวเช่นเดียวกับร่างกาย ลักษณะหนูหนึ่งที่สามารถมองเห็นได้ในสูงแฮมสเตอร์เป็นฟันคมของพวกเขา พวกเขามีคู่บนและล่างคู่ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตดังนั้นต้องสวมใส่เป็นประจำลง แฮมสเตอร์จะมีความยืดหยุ่นมาก แต่กระดูกของพวกเขาค่อนข้างมีความเปราะบาง พวกเขามีความอ่อนไหวอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วและร่างเช่นเดียวกับความร้อนสูงหรือเย็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ถึงแม้ว่าแฮมสเตอร์ซีเรียหรือหนูแฮมสเตอร์สีทอง ( mesocricetus auratus ) เป็นครั้งแรกที่อธิบายทางวิทยาศาสตร์โดยจอร์จโรเบิร์ต วอเตอร์เฮาส์ ใน พ.ศ. 1839 , นักวิจัยยังสามารถผสมพันธุ์และเลี้ยงแฮมสเตอร์จนถึงค.ศ. [ 2 ] ปฏิบัติการทั้งหมด และเลี้ยงประชากรของซีเรียนแฮมสเตอร์ปรากฏเป็นลูกหลานของพี่ชายน้องสาวคู่เดียว .และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ถึงแม้ว่าแฮมสเตอร์ซีเรียหรือหนูแฮมสเตอร์สีทอง ( mesocricetus auratus ) เป็นครั้งแรกที่อธิบายทางวิทยาศาสตร์โดยจอร์จโรเบิร์ต วอเตอร์เฮาส์ ใน พ.ศ. 1839 , นักวิจัยยังสามารถผสมพันธุ์และเลี้ยงแฮมสเตอร์จนถึงค.ศ. [ 2 ] ปฏิบัติการทั้งหมด และเลี้ยงประชากรของซีเรียนแฮมสเตอร์ปรากฏเป็นลูกหลานของพี่ชายน้องสาวคู่เดียว .และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ถึงแม้ว่าแฮมสเตอร์ซีเรียหรือหนูแฮมสเตอร์สีทอง ( mesocricetus auratus ) เป็นครั้งแรกที่อธิบายทางวิทยาศาสตร์โดยจอร์จโรเบิร์ต วอเตอร์เฮาส์ ใน พ.ศ. 1839 , นักวิจัยยังสามารถผสมพันธุ์และเลี้ยงแฮมสเตอร์จนถึงค.ศ. [ 2 ] ปฏิบัติการทั้งหมด และเลี้ยงประชากรของซีเรียนแฮมสเตอร์ปรากฏเป็นลูกหลานของพี่ชายน้องสาวคู่เดียว .และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ถึงแม้ว่าแฮมสเตอร์ซีเรียหรือหนูแฮมสเตอร์สีทอง ( mesocricetus auratus ) เป็นครั้งแรกที่อธิบายทางวิทยาศาสตร์โดยจอร์จโรเบิร์ต วอเตอร์เฮาส์ ใน พ.ศ. 1839 , นักวิจัยยังสามารถผสมพันธุ์และเลี้ยงแฮมสเตอร์จนถึงค.ศ. [ 2 ] ปฏิบัติการทั้งหมด และเลี้ยงประชากรของซีเรียนแฮมสเตอร์ปรากฏเป็นลูกหลานของพี่ชายน้องสาวคู่เดียว .และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ถึงแม้ว่าแฮมสเตอร์ซีเรียหรือหนูแฮมสเตอร์สีทอง ( mesocricetus auratus ) เป็นครั้งแรกที่อธิบายทางวิทยาศาสตร์โดยจอร์จโรเบิร์ต วอเตอร์เฮาส์ ใน พ.ศ. 1839 , นักวิจัยยังสามารถผสมพันธุ์และเลี้ยงแฮมสเตอร์จนถึงค.ศ. [ 2 ] ปฏิบัติการทั้งหมด และเลี้ยงประชากรของซีเรียนแฮมสเตอร์ปรากฏเป็นลูกหลานของพี่ชายน้องสาวคู่เดียว .และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
ถึงแม้ว่าแฮมสเตอร์ซีเรียหรือหนูแฮมสเตอร์สีทอง ( mesocricetus auratus ) เป็นครั้งแรกที่อธิบายทางวิทยาศาสตร์โดยจอร์จโรเบิร์ต วอเตอร์เฮาส์ ใน พ.ศ. 1839 , นักวิจัยยังสามารถผสมพันธุ์และเลี้ยงแฮมสเตอร์จนถึงค.ศ. [ 2 ] ปฏิบัติการทั้งหมด และเลี้ยงประชากรของซีเรียนแฮมสเตอร์ปรากฏเป็นลูกหลานของพี่ชายน้องสาวคู่เดียว .