Vitamin A deficiency is a major pub

Vitamin A deficiency is a major public health problem in the developing world affecting 190 million children under 5 years old, particularly in sub-Saharan Africa and southeast Asia (WHO, 2009).
Vitamin A deficiency leads to impaired vision, diminishes the ability to fight infections and decreases growth rate and bone development, and in severe cases can be fatal for children under 6 years of age (WHO, 2004).
The prevalence of vitamin A deficiency in the Democratic Republic of Congo (DRC) and Burundi was estimated at 42.2% and 42.6%, respectively, in 2007, and is classified as a ‘‘severe public health problem’’ by the United Nations’ Standing Committee on Nutrition (SCN, 2010).
Vitamin A deficiency primarily affects children and women and hinders the development of human potential, with effects on social and economic development (Ruel, 2001).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขาดวิตามินเอเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ ในการพัฒนาโลก affecting 190 ล้านเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในแอฟริกาซาฮาราและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผู้ 2009) ขาดวิตามินเอให้ผู้ที่มีวิสัยทัศน์ ความสามารถในการต่อสู้กับการติดเชื้อและลดการเจริญเติบโตอัตราและกระดูกพัฒนาค่อย ๆ หายไป แล้วรุนแรงได้อย่างร้ายแรงสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีของอายุผู้ 2004) ความชุกของการขาดวิตามินเอในประชาธิปไตยสาธารณรัฐของสาธารณรัฐคองโก (DRC) และบุรุนดีได้ประมาณที่ 42.2% และ 42.6% ตามลำดับ ในปี 2007 และถูกจัดประเภทเป็น ''รุนแรงสาธารณสุขปัญหา '' โดยสหประชาชาติตั้งคณะกรรมการโภชนาการ (SCN, 2010) ขาดวิตามินเอมีผลต่อเด็กและผู้หญิงเป็นหลัก และทำการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม (Ruel, 2001)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การขาดวิตามินเอ เป็นปัญหาทางสาธารณสุขในประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกมีผลต่อ 190 ล้านเด็กอายุ 5 ขวบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในซับซาฮาแอฟริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( 2009 )
วิตามินเอไปสู่วิสัยทัศน์ความบกพร่องลดน้อยลงความสามารถในการต่อสู้กับการติดเชื้อ และลดอัตราการเติบโตและการพัฒนาของกระดูกและในรายที่รุนแรงอาจถึงแก่ชีวิตได้สำหรับเด็กอายุ 6 ขวบ ( ปี 2004 )
ความชุกของการขาดวิตามินเอ ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ( DRC ) และประเทศพม่าประมาณ 42.2 % และ 42.6% ตามลำดับ ในปี 2007 และจัดเป็นปัญหาสาธารณสุข 'severe ' ' โดยคณะกรรมาธิการสหประชาชาติว่าด้วยโภชนาการ ( SCN , 2010 )
วิตามินเอเป็นหลักส่งผลกระทบต่อเด็กและผู้หญิง และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ ที่มีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ( Ruel , 2001 )