When you read a book, you have to r

When you read a book, you have to remember an assortment of characters, their backgrounds, ambitions, history, and nuances, as well as the various arcs and sub-plots that weave their way through every story. That’s a fair bit to remember, but brains are marvellous things and can remember these things with relative ease. Amazingly enough, every new memory you create forges new synapses (brain pathways)and strengthens existing ones, which assists in short-term memory recall as well as stabilizing moods. How cool is that?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อคุณอ่านหนังสือ คุณต้องจำไว้ว่า การจัดประเภทของอักขระ พื้นหลังของพวกเขา ความทะเยอทะยาน ประวัติ และความแตก ต่าง เป็นเส้นโค้ง และต่าง ๆ ผืนย่อยที่ทอวิถีผ่านทุกเรื่องราว บิตเป็นธรรมจำเป็น แต่สมองสิ่งที่มกราคม และสามารถจดจำสิ่งเหล่านี้อย่างง่ายดายญาติ น่าอัศจรรย์พอ ทุกใหม่หน่วยความจำคุณสามารถสร้าง forges synapses (ทางเดินสมอง) และเพิ่มความแข็งแกร่งอยู่ เรียกคืน assists ใดในหน่วยความจำระยะสั้นและ stabilizing อารมณ์ วิธีเย็นคือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อคุณอ่านหนังสือที่คุณต้องจำไว้การแบ่งประเภทของตัวอักษร, พื้นหลังของพวกเขามีความทะเยอทะยานประวัติศาสตร์และความแตกต่างเช่นเดียวกับโค้งต่างๆและแปลงย่อยที่สานทางผ่านทุกเรื่องราว นั่นคือยุติธรรมบิตที่จะจำ แต่สมองเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และสามารถจำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายญาติ amazingly พอทุกหน่วยความจำใหม่ที่คุณสร้างเตาประสาทใหม่ (ทางเดินสมอง) และเสริมสร้างวัตถุที่มีอยู่ซึ่งช่วยในความทรงจำระยะสั้นเรียกคืนเช่นเดียวกับการรักษาเสถียรภาพของอารมณ์ความรู้สึก วิธีเย็นคือ?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อคุณอ่านหนังสือเล่มนี้ คุณต้องจำไว้ว่าการแบ่งประเภทของตัวอักษรของพวกเขา , พื้นหลัง , ความทะเยอทะยาน , ประวัติศาสตร์ และความแตกต่าง เช่นเดียวกับส่วนโค้งต่าง ๆและซับพล็อตที่สานทางของพวกเขาผ่านทุกเรื่องราว อย่างนี้มันยุติธรรมที่จะจำ แต่สมองเป็นสิ่งอัศจรรย์และสามารถจำสิ่งต่าง ๆเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายญาติ น่าแปลกที่พอทุกความทรงจำที่คุณได้สร้างใหม่ Forges ประสาทใหม่ ( สมองและเสริมสร้างวิถี ) ที่มีอยู่ ซึ่งช่วยในการเรียกคืนหน่วยความจำระยะสั้น ตลอดจนรักษาเสถียรภาพของอารมณ์ . เจ๋งไหมล่ะ