In Paris, Hemingway soon became a k

In Paris, Hemingway soon became a key part of what Gertrude Stein would famously call "The Lost Generation." With Stein as his mentor, Hemingway made the acquaintance of many of the great writers and artists of his generation, such as F. Scott Fitzgerald, Ezra Pound, Pablo Picasso and James Joyce. In 1923, Hemingway and Hadley had a son, John Hadley Nicanor Hemingway. By this time the writer had also begun frequenting the famous Festival of San Fermin in Pamplona, Spain.

In 1925, the couple, joining a group of British and American expatriates, took a trip to the festival that would later provided the basis of Hemingway's first novel, The Sun Also Rises. The novel is widely considered Hemingway's greatest work, artfully examining the postwar disillusionment of his generation.

Soon after the publication of The Sun Also Rises, Hemingway and Hadley divorced, due in part to his affair with a woman named Pauline Pfeiffer, who would become Hemingway's second wife shortly after his divorce from Hadley was finalized. The author continued to work on his book of short stories, Men Without Women.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปารีส เฮมิงเวย์จนกลายเป็น ส่วนสำคัญของสิ่ง Gertrude สไตน์จะซึ่งเรียก "การหายกิน" มีสไตน์เป็นที่ปรึกษาของเขา เฮมิงเวย์ได้ความใกล้ชิดของผู้เขียนมากมายและศิลปินรุ่น ห้องเอฟสก็อตต์ ปอนด์ Ezra ปาโบลปีกัสโซ และ James Joyce พี่ เฮมิงเวย์และ Hadley มีลูกชาย จอห์น Hadley Nicanor เฮมิงเวย์ โดยขณะนี้ ผู้เขียนยังเริ่ม frequenting มีชื่อเสียงเทศกาลของ San Fermin ในแปมโปลนา สเปนใน 1925 คู่ รวมกลุ่มของชาวอังกฤษ และอเมริกันชาวต่างชาติ ใช้เดินทางในเทศกาลที่จะให้ข้อมูลพื้นฐานของนวนิยายแรกของเฮมิงเวย์ เดอะซันยังเพิ่มขึ้นในภายหลัง นวนิยายเป็นอย่างกว้างขวางถือเป็นงานยิ่งใหญ่ที่สุดของเฮมิงเวย์ artfully ตรวจ disillusionment พ้นรุ่นหลังจากการประกาศของเดอะซันตะวันก็ฉายแสง เฮมิงเวย์และ Hadley หย่าแล้ว ผลบางส่วนไปเรื่องของเขากับผู้หญิงชื่อสาวเชลล์ไฟฟ์เฟอร์ ที่จะเป็นภรรยาของเฮมิงเวย์ในไม่ช้าหลังจากที่เขาหย่าจาก Hadley ที่ขั้นสุดท้าย ผู้เขียนยังคงทำงานในหนังสือของเขาเรื่องราวสั้น ผู้ชายไม่มีผู้หญิง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปารีส, Hemingway ไม่ช้าก็กลายเป็นส่วนสำคัญของสิ่งที่สไตน์ที่มีชื่อเสียงจะเรียกว่า "หลงยุค". ด้วยสไตน์เป็นที่ปรึกษาของเขาเฮมมิงได้รู้จักของหลายนักเขียนที่ดีและศิลปินในยุคของเขาเช่นเอฟสกอตต์ฟิตซ์เจอรัลด์เอซร่าปอนด์ Pablo Picasso และเจมส์จอยซ์ ในปี 1923, Hemingway และนายอำเภอมีลูกชายคนหนึ่งจอห์นแฮดลีย์ Nicanor Hemingway โดยครั้งนี้ผู้เขียนก็เริ่มบ่อยเทศกาลที่มีชื่อเสียงของ San Fermin ใน Pamplona, ​​สเปน. ในปี 1925 ทั้งคู่ร่วมกลุ่มของชาวต่างชาติอังกฤษและอเมริกันเอาการเดินทางไปงานเทศกาลที่จะต่อมาให้พื้นฐานของเฮมมิงเป็นครั้งแรก นวนิยายอาทิตย์ยังเพิ่มขึ้น นวนิยายเรื่องนี้ถือว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเฮมมิง, สวยการตรวจสอบความท้อแท้หลังสงครามในยุคของเขา. เร็ว ๆ นี้หลังจากการประกาศของพระอาทิตย์ยังขึ้น, Hemingway และนายอำเภอหย่าเนื่องจากในส่วนที่สัมพันธ์กับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อพอลลีนไฟฟ์เฟอร์ที่จะกลายเป็นเฮมมิง ภรรยาคนที่สองไม่นานหลังจากการหย่าร้างของเขาจากนายอำเภอสรุป ผู้เขียนยังคงทำงานในหนังสือของเขาเรื่องสั้นคนไม่มีสตรี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปารีส , Hemingway ในไม่ช้าก็กลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของสิ่งที่เรียกว่า " เกอร์ทรูดสไตน์จะได้หายรุ่น " กับ Stein เป็นพี่เลี้ยงของเขา เฮมมิงทำให้คนรู้จักหลายคนเขียนดี และศิลปินในรุ่นของเขา เช่น เอฟ. สกอตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์ เอซร่าปอนด์ , ปาโบลปีกัสโซและเจมส์จอยซ์ ในปี 1923 , Hemingway และแฮดลีย์ได้ลูกชาย จอห์น แฮดลีย์นิกานอร์ เฮมมิ่งเวย์โดยในครั้งนี้ผู้เขียนก็เริ่มบ่อยของเทศกาลที่มีชื่อเสียงของซาน เฟร์มินใน Pamplona สเปน

ใน 2468 , คู่ , เข้าร่วมกลุ่มผู้อพยพชาวอังกฤษและอเมริกัน พาเที่ยวเทศกาลที่ภายหลังจะให้พื้นฐานของนวนิยายเรื่องแรกของเฮมิงเวย์ ดวงอาทิตย์ยังเพิ่มขึ้น นวนิยายเป็นกันอย่างแพร่หลาย ถือว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Hemingway ,artfully ตรวจสอบความท้อแท้สงครามในยุคของเขา

หลังจากสิ่งพิมพ์ของดวงอาทิตย์ยังเพิ่มขึ้น , Hemingway และแฮดลีย์หย่า เนื่องจากในส่วนของความสัมพันธ์ของเขากับผู้หญิงที่ชื่อพอลลีน ไฟเฟอร์ , ผู้ที่จะเป็นเฮมิงเวย์ภรรยาคนที่สองหลังจากการหย่าของเขาจากแฮดลีย์จะเสร็จสมบูรณ์ ผู้เขียนยังคงทำงานในหนังสือเรื่องสั้น ผู้ชาย ไม่มีผู้หญิง