In terms of state formation in Thai

In terms of state formation in Thailand, the 1932 revolution was a defining moment as suggested by Songchai na Yala’s framework. The shift to the nation-state means that sovereignty rested with representatives of the nation, the bourgeoisie. One crucial feature is that the bourgeoisie made decision on the direction of capitalist development. The Thai elite (Phibun) shared an aspiration with Indonesian leaders in developing indigenous industries in opposition to Western domination. [For the discussion of Phibun’s nationalism concerning Thai industry see Matthew Philip…..] Hence came the beginning of industrial capitalism in Southeast Asia.
Finally, if we look around countries in Southeast Asia they are all haphazardly moving towards democratization. Thailand, on the strength of Lieberman parallel development, is also in the same process. Furthermore, if one is allowed to extend Lieberman’s logic that state development was a linear phenomenon to present period, we can say with confidence that there is no turning back to previous state formation. This contradicts Thongchai’s argument that the present Thai state is laden with characteristics of absolutist monarchy. The reason for his conclusion was the prominent place of the Thai monarch and military in society which were major social forces in the absolutist state. The way in which the monarchy has been allowed to slowly but consistency build up its position since the American era was a revival of feudal ceremonies and practices. One can see that Thongchai misunderstands the state transformation in Thailand. Note that under the absolutist state many state ceremonies were rationalized and scaled down, crouching was prohibited. Other features of the monarchy’s role in the society calls for future studies. In our opinion, the Thai state is capitalist nation-state with the interregnum which signifies conflicts between the conservative and liberal capitalists as well as greater participation of the lower classes in the political process. That is the reason why it needs further study of the new social forces in the political process, liberal capitalists and lower classes.
What we have is absolutely not an absolutist state but a nation-state which appears to be suffering from quite frequent interregna in the military coup d’état and popular revolt. With the increasing role of new social forces and the growing strength of the belated popular nationalist movement, the end of the present interregnum can be expected.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในแง่ของการก่อตัวของรัฐในประเทศไทย การปฏิวัติ 1932 ถูกช่วงนี้แนะนำโดยภัทรานายะลากรอบ กะจะศิวิไลซ์หมายความ ว่า อำนาจอธิปไตยวางกับตัวแทนของประเทศ bourgeoisie คุณลักษณะที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ ว่า bourgeoisie การตัดสินใจทิศทางการพัฒนาทุนนิยม Elite ไทย (พิบูลย์) ประณิธานที่ใช้ร่วมกันกับผู้นำอินโดนีเซียในการพัฒนาอุตสาหกรรมพื้นเมืองในการต่อต้านการปกครองแบบตะวันตก [สำหรับคำอธิบายของลัทธิชาตินิยมของพิบูลย์ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมไทยดูฟิลิปมัทธิว...] ดังนั้น มาเริ่มต้นของระบบทุนนิยมอุตสาหกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในที่สุด ถ้าเราดูประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ทั้งหมดผิด ๆ ถูก ๆ เคลื่อนไปสู่ประชาธิปไตย ประเทศไทย ความแข็งแรงพัฒนาลี ยังอยู่ในกระบวนการเดียวกัน นอกจากนี้ ถ้าหนึ่งไม่มีการขยายของลีตรรกะพัฒนาสถานะว่าเป็นปรากฏการณ์เชิงเส้นกับระยะเวลาปัจจุบัน เราสามารถพูด ด้วยความมั่นใจว่าหันหลังกลับไม่ไปก่อสถานะก่อนหน้า นี้ขัดแย้งกับที่รัฐไทยปัจจุบันเป็นภาระกับลักษณะของกษัตริย์ absolutist อาร์กิวเมนต์ของธงชัย เหตุผลในการสรุปของเขาเป็นโดดเด่นของพระมหากษัตริย์ไทยและทหารในสังคมซึ่งเป็นกองกำลังสำคัญที่สังคมในสถานะ absolutist ทางซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ได้รับอนุญาตให้ช้า ๆ แต่สม่ำเสมอสร้างขึ้นตำแหน่งตั้งแต่อเมริกันยุค ฟื้นฟูของศักดินาพิธีและการปฏิบัติ หนึ่งสามารถดูว่า ธงชัย misunderstands การแปลงรัฐในประเทศไทย หมายเหตุว่า ภายใต้รัฐ absolutist rationalized หลายรัฐพิธี และลง หมอบถูกห้าม คุณสมบัติอื่น ๆ ของบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมเรียกสำหรับการศึกษาในอนาคต ในความคิดของเรา รัฐไทยจะศิวิไลซ์ทุนนิยมกับราชวงศ์ซึ่งหมายถึงความขัดแย้งระหว่างทุนเสรีนิยม และอนุรักษ์นิยมรวมทั้งมีส่วนร่วมมากขึ้นของชนชั้นล่างในทางการเมือง นั่นคือเหตุผลที่ทำไมต้องการศึกษาต่อของการบังคับทางสังคมใหม่ในกระบวนการทางการเมือง ทุนเสรีนิยม และชนชั้นล่าง เรามีไม่ได้เป็นสถานะ absolutist แต่ศิวิไลซ์ซึ่งปรากฏที่จะทุกข์ทรมานจาก interregna ค่อนข้างบ่อยในทหารประหารและปฏิวัติ มีบทบาทเพิ่มขึ้นของพลังทางสังคมใหม่และความแข็งแรงเจริญเติบโตของการสายนิยมการเคลื่อนไหว จุดสิ้นสุดของราชวงศ์ปัจจุบันสามารถคาดหวัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในแง่ของการก่อตัวของรัฐในประเทศไทยการปฏิวัติ 1932 เป็นช่วงเวลาที่กำหนดตามข้อเสนอแนะกรอบทรงชัยนายะลา กะกับรัฐชาติหมายความว่าอำนาจอธิปไตยที่วางอยู่กับตัวแทนของประเทศสังคม หนึ่งคุณลักษณะที่สำคัญคือการที่ชนชั้นกลางได้ตัดสินใจในทิศทางของการพัฒนาทุนนิยม ชนชั้นนำไทย (พิบูลย์) แชร์ความทะเยอทะยานกับผู้นำอินโดนีเซียในการพัฒนาอุตสาหกรรมของชนพื้นเมืองในการต่อต้านการปกครองของตะวันตก [สำหรับการอภิปรายของลัทธิชาตินิยมพิบูลย์ของที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไทยดูมัทธิวฟิลิป ... .. ] ดังนั้นมาจุดเริ่มต้นของทุนนิยมอุตสาหกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.
สุดท้ายหากเรามองไปรอบ ๆ ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พวกเขาทั้งหมดส่งเดชมุ่งไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย ประเทศไทยกับความแรงของการพัฒนาขนานลีเบอร์แมนที่ยังอยู่ในกระบวนการเดียวกัน นอกจากนี้หากใครได้รับอนุญาตที่จะขยายตรรกะลีเบอร์แมนที่การพัฒนาของรัฐเป็นปรากฏการณ์เชิงเส้นที่จะนำเสนอช่วงเวลาที่เราสามารถพูดด้วยความมั่นใจว่าไม่มีการหันหลังกลับไปสู่การก่อสถานะก่อนหน้า นี้ขัดแย้งกับข้อโต้แย้งธงชัยที่รัฐไทยในปัจจุบันเป็นภาระกับลักษณะของสถาบันพระมหากษัตริย์สมบูรณาญา เหตุผลสำหรับข้อสรุปของเขาเป็นสถานที่สำคัญของพระมหากษัตริย์ไทยและทหารในสังคมซึ่งเป็นกองกำลังทางสังคมที่สำคัญในรัฐสมบูรณาญา วิธีการที่สถาบันพระมหากษัตริย์ได้รับอนุญาตให้ช้า แต่สอดคล้องสร้างตำแหน่งตั้งแต่ยุคอเมริกันเป็นพิธีกรการฟื้นตัวของระบบศักดินาและการปฏิบัติ หนึ่งจะเห็นว่าธงชัย misunderstands การเปลี่ยนแปลงของรัฐในประเทศไทย ทราบว่าภายใต้รัฐสมบูรณาญาพิธีรัฐหลายคนให้เหตุผลและลดขนาดลงหมอบไม่ได้รับอนุญาต คุณสมบัติอื่น ๆ ของบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมเรียกร้องให้มีการศึกษาในอนาคต ในความเห็นของเรารัฐไทยเป็นทุนนิยมรัฐชาติกับหัวเลี้ยวหัวต่อซึ่งหมายถึงความขัดแย้งระหว่างนายทุนอนุรักษ์นิยมและเสรีนิยมเช่นเดียวกับการมีส่วนร่วมมากขึ้นของคนชั้นต่ำในกระบวนการทางการเมือง นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมมันต้องศึกษาต่อไปของกองกำลังทางสังคมใหม่ในกระบวนการทางการเมืองนายทุนเสรีนิยมและชั้นต่ำ.
สิ่งที่เราได้เป็นอย่างไม่เป็นรัฐสมบูรณาญา แต่รัฐชาติซึ่งดูเหมือนจะทุกข์ทรมานจาก interregna ค่อนข้างบ่อยใน ทหารรัฐประหารและการประท้วงที่นิยม กับบทบาทที่เพิ่มขึ้นของกองกำลังทางสังคมใหม่และความแรงของการเจริญเติบโตของขบวนการชาตินิยมล่าช้าที่นิยมในตอนท้ายของว่างในปัจจุบันที่สามารถคาดหวัง