Babbitt later became interested in

Babbitt later became interested in electronic music. He was hired by RCA as consultant composer to work with their RCA Mark II Synthesizer at the Columbia-Princeton Electronic Music Center (known since 1996 as the Columbia University Computer Music Center), and in 1961 produced his Composition for Synthesizer. Babbitt was less interested in producing new timbres than in the rhythmic precision he could achieve using the Mark II synthesizer, a degree of precision previously unobtainable in live performances

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Babbitt ภายหลังกลายเป็นสนใจในดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ เขาถูกว่าจ้าง โดย RCA เป็นนักประพันธ์ที่ปรึกษาการทำงานกับตน RCA Mark II ซินธิไซเซอร์ที่ศูนย์ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์โคลัมเบียปรินซ์ตัน (รู้จักกันตั้งแต่ปี 1996 เป็นศูนย์ดนตรีคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย), และในปี 1961 ผลิตองค์ประกอบของเขาสำหรับสังเคราะห์ Babbitt ถูกสนใจน้อยในการผลิตใหม่ timbres เทียบในความแม่นยำของจังหวะ เขาใช้ซินธิไซเซอร์ Mark II ระดับของความแม่นยำที่ unobtainable ก่อนหน้านี้ในการแสดงสด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หน้าเลือดต่อมากลายเป็นที่สนใจในดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ เขาได้รับการว่าจ้างจากอาร์ซีเอในฐานะผู้ประพันธ์ที่ปรึกษาในการทำงานกับพวกเขาอาร์ซีเอ Mark II Synthesizer ที่โคลัมเบียพรินซ์ตันศูนย์อิเล็กทรอนิกส์เพลง (รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 1996 เป็นมหาวิทยาลัยโคลัมเบียศูนย์ดนตรีคอมพิวเตอร์) และในปี 1961 ผลิตองค์ประกอบของเขาสำหรับการสังเคราะห์ หน้าเลือดก็ให้ความสนใจในการผลิตน้อย timbres ใหม่กว่าในความแม่นยำจังหวะที่เขาจะประสบความสำเร็จโดยใช้สังเคราะห์ Mark II ระดับของความแม่นยำก่อนหน้านี้หาไม่ได้ในการแสดงสด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แบบบิตต่อมากลายเป็นที่สนใจในเพลงอิเล็กทรอนิกส์ เขาถูกจ้างโดย RCA เป็นนักแต่งเพลงที่จะทำงานกับที่ปรึกษาของ RCA Mark II ซินที่โคลัมเบียปรินซ์ตันเพลงอิเล็กทรอนิกส์ศูนย์ ( ที่รู้จักกันตั้งแต่ปี 1996 เป็นศูนย์คอมพิวเตอร์ดนตรีมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ) และในปี 1961 ผลิตองค์ประกอบของเขาเพื่อสังเคราะห์ . แบบบิตน้อยที่สนใจในการผลิตประทับใหม่กว่าในจังหวะที่ต้องการเขาจะบรรลุการใช้ Mark II ซิน , ระดับความแม่นยำก่อนหน้านี้หาไม่ได้ในการแสดงสด