Aim. The aim of this research was t

Aim. The aim of this research was to explore the experiences of informal caregivers providing care in the home to a family
member with chronic obstructive pulmonary disease.
Background. Advances in chronic obstructive pulmonary disease treatment, increasing emphasis on early discharge and homebased
care programmes enable those with advanced chronic obstructive pulmonary disease to remain at home. However, little is
known about the consequences of these initiatives for informal caregivers.
Design. A qualitative exploratory approach.
Methods. Semi-structured interviews with 11 family caregivers of people with advanced chronic obstructive pulmonary disease.
Results. Six core themes emerged including ‘then and now’ reflecting caregivers’ sense of loss and enmeshment with the illness
experience and burden. The caregivers’ experience of illness burden included symptom, cultural and lifeworld meanings.
Relationships between formal health care and healthcare professionals were rendered difficult by their perceived failure to look
beyond acute exacerbations as discrete events rather than integral to the illness trajectory as a whole.
Conclusion. In failing to actively engage with caregivers, our current approaches to supporting persons with advanced chronic
obstructive pulmonary disease may compound the care and illness burden experienced by family caregivers.
Relevance to practice. This study illustrates the potential for nursing to increase or lessen the caregiver burden through
understanding the illness experience as one that is shared by both caregiver and care recipient.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมาย จุดมุ่งหมายของการวิจัยนี้คือการสำรวจประสบการณ์ของผู้ดูแลระบบให้การดูแลในบ้านที่มีครอบครัว
สมาชิกเรื้อรังโรคปอดอุดกั้น.
พื้นหลัง ความก้าวหน้าในการอุดกั้นเรื้อรังการรักษาโรคปอดโรคเพิ่มขึ้นโดยเน้นการปล่อยต้นและ HOMEBASED
โปรแกรมช่วยให้การดูแลผู้ที่มีโรคปอดเรื้อรังอุดกั้นขั้นสูงที่จะอยู่ที่บ้านแต่น้อยเป็นที่รู้จักกัน
เกี่ยวกับผลกระทบของการริเริ่มเหล่านี้สำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยนอก.
ออกแบบ วิธีการสำรวจเชิงคุณภาพ.
วิธีการ การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างกับ 11 ผู้ดูแลในครอบครัวของผู้ที่มีโรคปอดเรื้อรังขั้นสูงอุดกั้น.
ผล หกรูปแบบหลักที่โผล่ออกมารวมทั้ง 'แล้วและตอนนี้' สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกของผู้ดูแลของการสูญเสียและ enmeshment กับความเจ็บป่วย
ประสบการณ์และภาระ ประสบการณ์ผู้ดูแลผู้ป่วยของภาระโรครวมถึงอาการทางวัฒนธรรมและความหมาย lifeworld.
ความสัมพันธ์ระหว่างการดูแลสุขภาพและการดูแลสุขภาพมืออาชีพอย่างเป็นทางการได้รับการแสดงที่ยากจากความล้มเหลวของพวกเขารับรู้ที่จะมอง
เกินกำเริบเฉียบพลันเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องมากกว่าหนึ่งที่จะโคจรเจ็บป่วยโดยรวม .
ข้อสรุปในความล้มเหลวในงานมีส่วนร่วมกับผู้ดูแลผู้ป่วยวิธีการในปัจจุบันของเราที่จะสนับสนุนบุคคลที่มีเรื้อรัง
โรคปอดอุดกั้นสูงอาจสารประกอบการดูแลและความเจ็บป่วยภาระประสบการณ์โดยผู้ดูแลในครอบครัว.
ความเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติ การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการพยาบาลเพื่อเพิ่มหรือลดภาระของผู้ดูแลผ่าน
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับประสบการณ์การเจ็บป่วยเป็นหนึ่งที่มีการใช้ร่วมกันโดยทั้งผู้ดูแลและผู้รับการดูแล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมาย จุดมุ่งหมายของการวิจัยนี้เป็นการ สำรวจประสบการณ์ของเรื้อรังไม่ดูแลบ้านให้ครอบครัว
สมาชิกกับเรื้อรังผิวสวยภายใต้ระบบทางเดินหายใจโรค.
พื้นหลัง ความก้าวหน้าในการรักษาโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังอุปสรรค เพิ่มเน้นจำหน่ายต้นและ homebased
ดูแลโปรแกรมเปิดใช้งานที่ มีขั้นสูงผิวสวยภายใต้ระบบทางเดินหายใจโรคยังคงอยู่ที่บ้าน อย่างไรก็ตาม น้อยเป็น
รู้จักผลกระทบของโครงการเหล่านี้สำหรับเป็นเรื้อรัง
ออกแบบ เป็นเชิงคุณภาพเชิงบุกเบิกวิธีการ
วิธีการ สัมภาษณ์กึ่งมีโครงสร้างกับเรื้อรัง 11 ครอบครัวบุคคลขั้นสูงเรื้อรังผิวสวยภายใต้ระบบทางเดินหายใจโรค.
ผลลัพธ์ เกิดรูปหลักหกรวมถึง 'แล้ว และตอนนี้' สะท้อนเรื้อรังความสูญเสียและ enmeshment กับเจ็บป่วย
ประสบการณ์และภาระงาน รวมประสบการณ์ภาระโรคเรื้อรังของอาการ วัฒนธรรมและความหมาย lifeworld.
ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เชี่ยวชาญดูแลสุขภาพ และดูแลสุขภาพอย่างเป็นทางที่แสดงยาก โดยความล้มเหลวของพวกเขารับรู้มอง
เกิน exacerbations เฉียบพลันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ต่อเนื่องแทนที่ไปวิถีป่วยเป็นทั้งการ
สรุป ขั้นในการล้มเหลวในการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับเรื้อรัง แนวทางปัจจุบันของเราสนับสนุนคนสูงเรื้อรัง
อุปสรรคโรคระบบทางเดินหายใจอาจผสมภาระการเจ็บป่วยและการดูแลที่มีประสบการณ์ โดยครอบครัวเรื้อรังได้
เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน การศึกษานี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการพยาบาลเพื่อเพิ่ม หรือลดภาระภูมิปัญญาผ่าน
เจ็บป่วยที่พบเป็นที่เข้าใจร่วมกัน โดยภูมิปัญญาและดูแลผู้รับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป้าหมาย. เป้าหมายของการวิจัยนี้เป็นการสำรวจประสบการณ์ของผู้ดูแลเด็กในแบบซึ่งไม่เป็นทางการจัดให้บริการการดูแลที่บ้านกับครอบครัว
สมาชิกด้วยโรคปอดเรื้อรังขวาง.
พื้นหลังที่ ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีในการรักษาโรคปอดเรื้อรังขวางการเน้นย้ำการเพิ่มในโปรแกรม homebased
ซึ่งจะช่วยดูแลและการปฏิบัติก่อนเปิดใช้งานผู้ที่มีโรคปอดเรื้อรังขวางขั้นสูงจะอยู่บ้านแต่ถึงอย่างไรก็ตามยังมีอยู่น้อย
ซึ่งจะช่วยในเรื่องผลที่เกิดขึ้นจากความคิดริเริ่มนี้สำหรับผู้ดูแลในแบบซึ่งไม่เป็นทางการ.
การออกแบบ วิธีการเชิง คุณภาพ exploratory A .
วิธีใดวิธีหนึ่ง. บท สัมภาษณ์ แบบกึ่งระบบพร้อมด้วย 11 ผู้ดูแลครอบครัวของท่านพร้อมด้วยโรคปอดเรื้อรังขวางขั้นสูง.
ผล. 6 ธีมหลักออกมารวมถึง'แล้วและตอนนี้'สะท้อนถึงความรู้สึกของผู้ดูแลเด็กของ enmeshment และการสูญเสียเจ็บป่วยที่
ภาระ และรับประสบการณ์. ที่ผู้ดูแลของประสบการณ์ในการป่วยลด ภาระ รวมถึงอาการและวัฒนธรรม"ความหมาย.
ความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างการดูแล สุขภาพ และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแล สุขภาพ ได้ทำให้ยากขึ้นโดยการรับรู้ความล้มเหลวในการดู
ซึ่งจะช่วยมากกว่าโรค exacerbations เป็นแบบแยกต่างหากเหตุการณ์มากกว่าส่วนประกอบสำคัญของการที่เจ็บป่วยวิถีกระสุนทั้งหมด. N .ในความล้มเหลวในการเข้าร่วมกับผู้ดูแลเด็กอย่างจริงจังแนวทางในปัจจุบันของเราให้กับคนที่สนับสนุนด้วยโรคปอดเรื้อรัง
ขวางขั้นสูงสามารถผสม ภาระ จากการเจ็บป่วยและการดูแลที่มีประสบการณ์โดยเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลครอบครัวได้
มีความสอดคล้องกับการปฏิบัติ การศึกษานี้แสดงถึงความเป็นไปได้ของพยาบาลเพื่อเพิ่มหรือลด ภาระ ผู้ดูแลที่ผ่าน
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับประสบการณ์การเจ็บป่วยจากที่เป็นคนหนึ่งที่จะใช้ร่วมกันโดยผู้ดูแลและผู้รับดูแลทั้งสอง