the ‘wire mesh light’ by osaka and

the ‘wire mesh light’ by osaka and malmö-based studio kenji fukushima design is a round pendant lamp that projects an intricate pattern across its surroundings. the piece fuses modern metal spinning manufacturing with a traditional kanaami technique, which was originally used for making cookware used in kyoto cuisine from the heian period in japan (ad 794 -1185).

the lampshade is made from copper and different methods were applied to create the upper and lower parts. the top piece conceals the light source within it, which is radiated through the mesh piece below.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

'ลวดตาข่ายไฟ' โดยสตูดิโออยู่ malmö และโอซาก้า ฟุกุชิมะเคนจิออกแบบเป็นโคมไฟระย้ารอบที่มีรูปแบบที่ซับซ้อนในสภาพแวดล้อม ชิ้น fuses ผลิตหมุนโลหะสมัยใหม่ ด้วยเทคนิคแบบ kanaami ใช้ทำเครื่องครัวที่ใช้ในอาหารเกียวโตจากยุคเฮอังในญี่ปุ่น (โฆษณา 794-1185) เป็นการทำจากทองแดง และใช้วิธีการสร้างส่วนบน และล่าง ชิ้นบนสุด conceals แหล่งกำเนิดแสงอยู่ภายใน ที่ radiated ผ่านชิ้นตาข่ายด้านล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

'แสงลวดตาข่ายโดยโอซาก้าและMalmöตามการออกแบบของสตูดิโอเคนจิฟูกูชิม่าเป็นโคมไฟรอบที่โครงการรูปแบบที่ซับซ้อนในสภาพแวดล้อม ชิ้นฟิวส์ปั่นการผลิตโลหะที่ทันสมัยด้วยเทคนิค kanaami แบบดั้งเดิมซึ่ง แต่เดิมที่ใช้สำหรับการทำเครื่องครัวที่ใช้ในการทำอาหารจากเกียวโตละช่วงในประเทศญี่ปุ่น (โฆษณา 794 -1185) โคมไฟที่ทำจากทองแดงและวิธีการที่แตกต่างกันถูกนำไปใช้ในการสร้าง ส่วนบนและล่าง ชิ้นส่วนด้านบนปกปิดแหล่งกำเนิดแสงอยู่ภายในซึ่งจะแผ่ผ่านชิ้นตาข่ายด้านล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ลวดตาข่ายแสง ' ' โดยโอซาก้าและลุมเมน สตูดิโอ เคนจิฟูออกแบบโดยใช้เป็นรอบโคมไฟโครงการที่ซับซ้อนแบบข้ามสภาพแวดล้อม ส่วนฟิวส์ทันสมัยโลหะหมุนผลิตด้วยเทคนิค kanaami ดั้งเดิม ซึ่งแต่เดิมใช้ทำเครื่องครัวใช้ในเกียวโต อาหารจากญี่ปุ่นในยุคเฮอัน ( ค.ศ. 794 - 1185 ) .

โป๊ะทำจากทองแดง และวิธีการต่าง ๆเพื่อใช้ในการสร้างส่วนบนและส่วนล่าง ชิ้นส่วนด้านบนบังแหล่งกำเนิดแสงอยู่ภายใน ซึ่งแผ่ผ่านแผ่นตาข่ายด้านล่าง