ResultsA total of 66 patients were

Results
A total of 66 patients were recruited for this study. Only 1
patient had ever before received allopurinol (27 months
earlier). As there were 6 study dropouts (allopurinol n  2,
placebo n  4), 60 underwent FMD and applanation tonometry
while 55 patients completed CMR (Fig. 1, Table 1).
Treatment with high-dose allopurinol significantly reduced
LVM (change in LVM: allopurinol group
5.2 
5.8 g vs. placebo group
1.3  4.48 g; p  0.007) and
LVMI (change in LVMI: allopurinol group
2.2  2.78
g/m2 vs. placebo group
0.53  2.5 g/m2; p  0.023) (Fig. 2).
The absolute mean difference between the groups for
change in LVM was
3.89 g (95% confidence interval:

1.1 to
6.7) and
1.67 g/m2 (95% confidence interval:

0.23 to
3.1) for change in LVMI. The change in LVM
in the allopurinol group remained statistically significant
even after correcting for baseline LVM (p 0.013). Furthermore,
the within-group changes in LVM and LVMI
were significant in the allopurinol group (p  0.001 for

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลลัพธ์จำนวนผู้ป่วย 66 ถูกพิจารณาสำหรับการศึกษานี้ 1 เท่านั้นผู้ป่วยมีเคยได้รับ allopurinol (27 เดือนก่อนหน้านี้) ขณะที่มีการตกการศึกษา 6 (allopurinol n 2ยาหลอก n 4), 60 รับ FMD และ applanation tonometryในขณะที่ผู้ป่วย 55 เสร็จ CMR (Fig. 1 ตารางที่ 1)รักษา ด้วยสูงยา allopurinol ลดลงอย่างมีนัยสำคัญLVM (เปลี่ยนใน LVM: กลุ่ม allopurinol 5.25.8 กรัมเทียบกับยาหลอกกลุ่ม 1.3 4.48 g p 0.007) และLVMI (การเปลี่ยนแปลง LVMI: allopurinol กลุ่ม 2.2 2.78g/m2 เทียบกับยาหลอกกลุ่ม 0.53 2.5 g/m2 p 0.023) (Fig. 2)ความแตกต่างเฉลี่ยสัมบูรณ์ระหว่างกลุ่มสำหรับเปลี่ยนแปลงใน LVM เป็น 3.89 g (95% ช่วงความเชื่อมั่น:1.1 การ 6.7) และ 1.67 g/m2 (95% ช่วงความเชื่อมั่น:0.23 ถึง 3.1) การเปลี่ยนแปลงใน LVMI การเปลี่ยนแปลงใน LVMใน allopurinol ใน กลุ่มยังคงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติแม้หลังจากการแก้ไขสำหรับพื้นฐาน LVM (p 0.013) นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงภายในกลุ่มใน LVM และ LVMIสำคัญในกลุ่ม allopurinol (p 0.001 สำหรับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผล
รวมของ 66 ผู้ป่วยที่ได้รับคัดเลือกในการศึกษานี้ เพียง 1
ผู้ป่วยเคยได้รับก่อนที่จะ allopurinol (27 เดือน
ก่อนหน้านี้) เท่าที่มีอยู่ 6 dropouts ศึกษา (allopurinol n? 2
ได้รับยาหลอก 4 n?) 60 ขนาน FMD และ Applanation tonometry
ในขณะที่ 55 ผู้ป่วยเสร็จ CMR (รูป. 1 ตารางที่ 1).
การรักษาด้วย allopurinol ขนาดสูงอย่างมีนัยสำคัญลดลง
LVM (การเปลี่ยนแปลงใน LVM: กลุ่ม allopurinol 5.2?
5.8 กรัมเทียบกับกลุ่มยาหลอก 1.3 4.48 กรัม; P 0.007) และ?
LVMI (การเปลี่ยนแปลงใน LVMI? กลุ่ม allopurinol 2.2 2.78
g / m2 เทียบกับกลุ่มยาหลอก 0.53 2.5 g / m2? ?..; P 0.023) (รูปที่ 2)
ความแตกต่างของค่าเฉลี่ยระหว่างกลุ่มที่แน่นอนสำหรับ
การเปลี่ยนแปลงใน LVM เป็น 3.89 กรัม (95% ช่วงความเชื่อมั่น:
1.1 ถึง 6.7) และ 1.67 g / m2 (95% ช่วงความเชื่อมั่น:???
? 0.23 เพื่อ? 3.1) สำหรับการเปลี่ยนแปลงใน LVMI การเปลี่ยนแปลงใน LVM
ในกลุ่ม allopurinol ยังคงอยู่อย่างมีนัยสำคัญ
แม้หลังจากการแก้ไขสำหรับพื้นฐาน LVM (P? 0.013) นอกจากนี้
การเปลี่ยนแปลงภายในกลุ่มใน LVM และ LVMI
อย่างมีนัยสำคัญในกลุ่ม allopurinol (P? 0.001 สำหรับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลลัพธ์
รวม 66 รายถูกเลือกมาศึกษา ผู้ป่วยเพียง 1
เคยก่อนได้รับยา ( 27 เดือน
ก่อนหน้านี้ ) เป็นมี 6 ศึกษาเรียนไม่จบ ( Allopurinol N  2
3 N  4 ) , 60 และได้รับการปรับปรุง applanation tonometry
ตอนที่ 55 ผู้ป่วยเสร็จ CMR ( รูปที่ 1 ตารางที่ 1 ) การรักษาด้วยยา Allopurinol ลดลง

ไม่ทัน ( เปลี่ยนไม่ทัน : กลุ่มยา
52 
5.8 กรัมและกลุ่มยาหลอก
1.3  4.48 กรัม ; P  0.007 ) และ
lvmi ( เปลี่ยนใน lvmi : กลุ่มยา
2.2  2.78
g / m2 และกลุ่มยาหลอก
0.53  2.5 g / m2 ; P  0.023 ) ( รูปที่ 2 ) .
สัมบูรณ์หมายถึงความแตกต่างระหว่างกลุ่ม เพื่อเปลี่ยนเป็น

ไม่ทัน 3.89 กรัม ( ช่วงความเชื่อมั่น 95% :

1.1 เพื่อ
6.7 ) และ
1.67 กรัม / ตารางเมตร ( ช่วงความเชื่อมั่น 95% :

0.23
3.1 ) เพื่อการเปลี่ยนแปลงใน lvmi . เปลี่ยนไม่ทัน
ในกลุ่มยายังคงอยู่แม้หลังจากการแก้ไขอย่างมีนัยสำคัญ
เส้นฐานไม่ทัน ( P  0.013 ) นอกจากนี้ ภายในกลุ่มการเปลี่ยนแปลงไม่ทัน

และ lvmi อย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มยา ( p  0.001 สำหรับ