Both of these games were great. Bli

Both of these games were great. Blizzard did a fantastic job on the original and also made a valuable expansion set. But was the expansion set good enough in all apects?

Now, the expansion set offered a superb gameplay and there is no way to argue about that. The increased stash size, zillions of new items and a new act, set in Barbarian homeland. Now that was great but in terms of storyline I think Lord of Destruction was not as strong as the main game. In Diablo II, we had a mysterious story going on in every act which was fun to follow through the quests and even gossips, especially Tal Rasha and his mysterious tombs were all fascinating. Cienmatic sequences were magnificent. I was keen to complete the act to see what happens next to Marius and the Dark Wanderer but in the mean time I was totally blown away with the storyline of each act in same time. The music were skillfully done, each act had its own music style which not only brought the dark atomosphere of the game but it didn't get annoying as it played over and over.

However these were not the same for Lord of Destruction. Ok, the fact that Baal had escaped and we had to go after him was a nice start. But the game took this approach a bit differently. I mean, we start out from the gates of Horragath and going through numerious monsters to kill Shank the overseer. The siege just doens't look real and it looks more like a maze. Of course that is the sign that we're playing an RPG game but it doesn't make sense with the idea of a siege.

They could have places some caves through the act like the first or third act but instead they made portals to hell. This is nice for gameplay but hey, we're in mountains. How can we have so little amount of caves?

Another thing was the idea that Nilhathak made a deal with Baal by giving him the relic of ancients. Now, dealing with a prime evil sounds a bit wiered. If the prime evils just want to perish the mankind then what is this idea? Couldn't they just give Diablo something to stop him in the first place?

The idea of Throne of Destruction was also strange. Ok, Baal is protected with some kind of shield and we have to fight his minions first before steping forward to the final battle in the world stone chamber. Couldn't they just have the monsters coming from that protal instead of having Baal standing up and summoning them? That is not a bad idea but what happens to that shield of Baal when he goes through the portal then? This shield idea is not really clear.

The music was very nice. Matt Uelmen used an orchestra to bring us the atmosphere of Barbarian homelands (and I think he also tried to be abit respectful to Basil Poldouris's score for Conan movies) but the problem was, the music got abit boring as it played over and over and it didn't provide a dark atmosphere same as the original game. I mean, when I played Diablo II and entered the Chaos santuary, the music really gave me the jibblies. But the World Stone Keep game me the feeling as if I was listening to documentary of how the Lord of Destruction was defeated.

Finally, as for the cinematic sequences, I think only the finale followed the same procedure of Diablo II. The opening cinematic was just wasting time. Sure Blizzard's cinematics are brilliant but whereas we begun following a great, mysterious story in the opening Diablo II, LOD just shows us Baal, killing a barbarian who asks him to turn back. The idea of having a single person asking a prime evil to turn back is abit stupid. If he was to listen then ok, I would shout DIABLO! TURN BACK! YOU SHALL NOT REACH THE MORTAL WORLD! There are several seconds of this cinematic sequence wasted for showing how Baal is going to kill this barbarian. There is nothing special about this, just abit of wind and havng Baal moving his hands...

Overall, I think despite of the new, great gameplay it offered, Diablo II: Lord of Destruction didn't really follow the path of the original game. I would call it a superb game if it wasn't a follow up, because when speaking of the former, the idea of is expanding what was originally introduced and while they did try to do that, I personally didn't feel I was continuing my role as the hero whom I played as in Diablo II.

I made lots of arguments here. I love both Diablo II and Lord of Destruction but these factors were a bit dissapointing for me. Now, I haven't spend all this time writting these up to ask you to appriciate it. Share your thoughts of the expansion set as well. If I mentioned something that you don't agree, shout it out. Let's see what everyone thinks.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกมเหล่านี้ทั้งสองมาก พายุหิมะได้งานที่ยอดเยี่ยมกับต้นฉบับ และทำขยายคุณค่าที่ตั้ง แต่มีการขยายตัวตั้งดีพอใน apects ทั้งหมดตอนนี้ ชุดขยายนำเสนอเกมที่ยอดเยี่ยม และมีวิธีการโต้แย้งว่า ขนาดซ่อนเพิ่ม zillions ของรายการใหม่และพระราชบัญญัติใหม่ ตั้งในโฮมแลนด์ในช่องว่าง ตอนนี้ที่ไม่ดี แต่ในแง่ ของเรื่องราว ผมคิดว่า พระเจ้าทำลายไม่แข็งแรงที่เกมหลัก ใน Diablo II เรามีเรื่องลึกลับเกิดขึ้นในทุกพระราชบัญญัติซึ่งก็สนุกไปตามเควสและ gossips แม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Rasha ทัลและสุสานลึกลับของเขาได้ทั้งหมดน่าสนใจ Cienmatic ลำดับสวยงาม ผมกระตือรือร้นที่จะทำพระราชบัญญัติเพื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้น Marius และหลงเข้ม แต่เวลาหมายความว่าฉันมีทั้งหมดพัดไปกับเรื่องราวของแต่ละการกระทำในเวลาเดียวกัน เพลงได้เก่งที่สุด พระราชบัญญัติแต่ละมีสไตล์เพลงของตัวเองซึ่งไม่เพียงแต่ นำ atomosphere เข้มของเกม แต่ไม่ได้รำคาญกับมันเล่นซ้ำ ๆอย่างไรก็ตาม เหล่านี้ได้ไม่เหมือนกันสำหรับพระเจ้าทำลาย ตกลง ความจริงที่ว่าบาอัลได้หลบหนีไป และเราได้ไปหลังจากเขา ถูกเริ่มต้นดี แต่เกมเอาวิธีการนี้แตกต่างกันเล็กน้อย ผมหมายถึง เราเริ่มต้นจากประตูของ Horragath ผ่าน numerious มอนสเตอร์จำพวก overseer ที่ฆ่า ล้อมเพียงดูไม่จริง และดูเหมือนเขาวงกต แน่นอนที่เป็นเครื่องหมายว่า เรากำลังเล่นเกม RPG แต่มันไม่เหมาะสมกับความคิดของการปิดล้อมไม่มีสถานบางถ้ำผ่านบัญญัติเช่นบัญญัติแรก หรือสาม แต่แทน ที่พวกเขาทำการพอร์ทัลนรก นี้เหมาะ สำหรับเล่นเกม แต่เดี๋ยวก่อน เราอยู่ในภูเขา วิธีใดเราจึงสามารถมีจำนวนน้อยมากของถ้ำอีกสิ่งหนึ่งมีความคิดที่ Nilhathak ทำข้อตกลงกับบาอัลให้เขาระลึก ancients ตอนนี้ จัดการกับความชั่วร้ายที่สำคัญเสียง wiered บิต หากความชั่วร้ายนายกต้องถึงคราวมนุษย์ แล้วคืออะไรความคิดนี้หรือไม่ ไม่สามารถจะให้ Diablo เพื่อหยุดเขาแรกความคิดของบัลลังก์ทำลายแปลกยังได้ บาอัลได้รับการป้องกัน ด้วยโล่บางประการ และเราต้องต่อสู้เขาตกลง สมุนก่อน steping ก่อนส่งต่อไปยังการต่อสู้ขั้นสุดท้ายในห้องหินโลก ไม่เพียงมีมอนสเตอร์มาจาก protal แทนบาอัลยืนขึ้น และอัญเชิญเหล่านั้น ที่ไม่ใช่ความคิดที่ดีแต่สิ่งที่เกิดขึ้นไปที่โล่ของบาอัลเมื่อเขาไปผ่านทางเว็บไซต์แล้วหรือไม่ ความคิดนี้โล่ได้ชัดเจนจริง ๆเพลงเป็นอย่างดี Matt Uelmen ใช้วงออเครสต้าร์นำเราอัน homelands ในช่องว่าง (และคิดว่า เขายังพยายามจะ เคารพโหระพา Poldouris คะแนนสำหรับภาพยนตร์โคนันโรงแรม) แต่ปัญหาคือ เพลงมีโรงแรมน่าเบื่อมันเล่นซ้ำ ๆ และมันไม่ได้มีบรรยากาศมืดเหมือนกับเกมต้นฉบับ ผมหมายถึง เมื่อเล่น Diablo II และป้อน Chaos santuary เพลงจริง ๆ ให้ผมที่ jibblies แต่โลกหินให้เกมฉันรู้สึกว่าฉันได้ฟังสารคดีของวิธีพระเจ้าทำลายไม่แพ้ในที่สุด กับลำดับผลงานชิ้น คิดเฉพาะ finale ตามกระบวนการเดียวกันของ Diablo II เปิดตัวผลงานชิ้นไม่เพียงเสียเวลา แน่ cinematics ของหิมะจะสดใส แต่ในขณะที่เราเริ่มต่อดี เรื่องลี้ลับในเปิด Diablo II ลอดเพียงแสดง เราบาอัล ฆ่าเป็นอนารยชนผู้ถามเขากลับ ความคิดของการมีคนเดียวขอให้ร้ายนายกจะเป็นโรงแรมที่โง่ ถ้าเขาฟังแล้วตกลง ฉันจะตะโกน DIABLO กลับ คุณจะมาถึงโลกมนุษย์ หลายวินาทีนี้ลำดับผลงานชิ้นที่เสียสำหรับแสดงว่าบาอัลจะไปฆ่าช่องว่างนี้ได้ ไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับโรงแรมนี้ เพียงลมและ havng บาอัลย้ายมือของเขา...โดยรวม ผมคิดว่า แม้มีของใหม่ เล่นเกมมากก็เสนอ Diablo II: พระเจ้าทำลายไม่ได้จริง ๆ ตามเส้นทางของเกมต้นฉบับ ผมจะเรียกว่าเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมถ้ามันไม่ตามแบบ เนื่องจากเมื่อพูดของอดีต ความคิดในการขยายสิ่งถูกนำมาใช้ครั้งแรก และในขณะที่พวกเขาได้พยายามที่จะทำ ผมเองไม่รู้สึกผมถูกต่อบทบาทของฉันเป็นพระเอกที่ผมเล่นใน Diablo IIฉันทำของอาร์กิวเมนต์ที่นี่ ชอบ Diablo II และพระเจ้าทำลาย แต่ปัจจัยเหล่านี้ได้สบายบิตสำหรับฉัน ตอนนี้ ฉันไม่ได้ใช้เวลานี้เขียนเหล่านี้จะถามคุณเพื่อ appriciate ทั้งหมดก็ แบ่งปันความคิดของคุณขยายตัวตั้งเช่น ถ้าผมกล่าวถึงสิ่งที่คุณไม่เห็น ตะโกนออกมา ลองดูสิ่งที่ทุกคนคิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทั้งสองของเกมเหล่านี้ได้ดี พายุหิมะได้งานที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับเดิมและยังทำชุดการขยายตัวที่มีคุณค่า แต่ได้รับการขยายตัวของการตั้งค่าที่ดีพอใน apects ทั้งหมดหรือไม่ตอนนี้ชุดการขยายตัวที่นำเสนอการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมและมีวิธีการเกี่ยวกับการโต้แย้งว่าไม่มี ขนาดสะสมเพิ่มขึ้น zillions ของรายการใหม่และการกระทำใหม่ที่ตั้งอยู่ในบ้านเกิดเถื่อน ตอนนี้เป็นที่ดี แต่ในแง่ของเค้าผมคิดว่าพระเจ้าแห่งการทำลายล้างไม่ได้เป็นที่แข็งแกร่งเป็นเกมหลัก ใน Diablo II เรามีเรื่องลึกลับที่เกิดขึ้นในการกระทำซึ่งเป็นความสนุกสนานในการปฏิบัติตามผ่านเควสและแม้กระทั่งการซุบซิบนินทาทุกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Tal Rasha และสุสานลึกลับของเขาเป็นที่น่าสนใจทั้งหมด ลำดับ Cienmatic มีความงดงาม ผมรู้สึกกระตือรือร้นที่จะดำเนินการกระทำที่จะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปที่ Marius และ Wanderer เข้ม แต่ในเวลาเฉลี่ยที่ฉันถูกพัดออกไปโดยสิ้นเชิงกับโครงเรื่องของการกระทำในแต่ละเวลาเดียวกัน เพลงได้ทำชำนาญการกระทำแต่ละคนก็มีสไตล์เพลงเป็นของตัวเองซึ่งไม่เพียง แต่นำ atomosphere มืดของเกม แต่มันก็ไม่ได้น่ารำคาญในขณะที่มันเล่นซ้ำแล้วซ้ำ. อย่างไรก็ตามเหล่านี้ไม่ได้เหมือนกันสำหรับพระเจ้าแห่งการทำลายล้าง ตกลงความจริงที่ว่าพระบาอัลได้หลบหนีและเราได้ไปหลังจากที่เขาเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่เกมเอาวิธีการนี้แตกต่างกันเล็กน้อย ผมหมายความว่าเราเริ่มต้นออกจากประตูของ Horragath และจะผ่านมอนสเตอร์ที่จะฆ่า numerious Shank ดูแล ล้อมเพียง doens't ดูจริงและมันมีลักษณะเหมือนเขาวงกต แน่นอนว่าเป็นสัญญาณว่าเรากำลังเล่นเกม RPG แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกกับความคิดของการล้อม. พวกเขาอาจจะมีสถานที่ถ้ำบางส่วนผ่านการกระทำเช่นการกระทำครั้งแรกหรือครั้งที่สาม แต่พวกเขาทำพอร์ทัลไปลงนรก . นี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับการเล่นเกม แต่เดี๋ยวก่อนเราอยู่ในภูเขา วิธีที่เราสามารถมีจำนวนเงินที่น้อยมากของถ้ำ? อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นความคิดที่ว่า Nilhathak ทำข้อตกลงกับบาอัลโดยให้เขาระลึกของคนโบราณ ตอนนี้จัดการกับเสียงความชั่วร้ายที่สำคัญ wiered บิต หากความชั่วร้ายที่สำคัญเพียงแค่ต้องการที่จะพินาศมนุษยชาติแล้วสิ่งที่เป็นความคิดนี้หรือไม่? ไม่สามารถที่พวกเขาเพียงแค่ให้ Diablo บางสิ่งบางอย่างที่จะหยุดเขาในสถานที่แรก? ความคิดในการครองสิริราชสมบัติแห่งการทำลายล้างก็ยังแปลก ตกลงบาอัลได้รับการคุ้มครองกับชนิดของโล่บางและเราจะต้องต่อสู้กับสมุนของเขาก่อนที่จะ steping ไปข้างหน้าเพื่อการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในห้องหินโลก ไม่สามารถที่พวกเขาเพียงแค่มีมอนสเตอร์ที่มาจากหน้าหลักว่าแทนที่จะมีพระบาอัลลุกขึ้นยืนและเรียกพวกเขา? ที่ไม่ได้เป็นความคิดที่ดี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับโล่ของพระบาอัลว่าเมื่อเขาจะไปผ่านทางพอร์ทัลแล้ว? ความคิดนี้เป็นโล่ไม่ชัดเจนจริงๆ. เพลงได้ดีมาก แมตต์ Uelmen ใช้วงออเคสตราจะนำเราบรรยากาศของบ้านเกิดเถื่อน (และผมคิดว่าเขายังพยายามที่จะเคารพ ABIT คะแนนเพรา Poldouris สำหรับภาพยนตร์โคนัน) แต่ปัญหาคือเพลงได้น่าเบื่อ ABIT ขณะที่มันเล่นมากกว่าและเหนือและมัน ไม่ได้ให้บรรยากาศที่มืดเช่นเดียวกับเกมเดิม ผมหมายถึงเมื่อผมเล่น Diablo II และเข้าไปในความโกลาหล Santuary เพลงจริงๆให้ฉัน jibblies แต่หินโลกให้เกมผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมได้รับฟังสารคดีของวิธีการที่พระเจ้าแห่งการทำลายล้างก็พ่ายแพ้. สุดท้ายเป็นลำดับในโรงภาพยนตร์เท่านั้นผมคิดว่าตอนจบตามขั้นตอนเดียวกันของ Diablo II โรงภาพยนตร์เปิดเป็นเพียงเสียเวลา cinematics แน่ใจว่าพายุหิมะจะสดใส แต่ในขณะที่เราเริ่มต้นดังต่อไปนี้ดีเรื่องลึกลับในการเปิด Diablo II, LOD เพียงแค่แสดงให้เราเห็นพระบาอัลฆ่าคนเถื่อนที่ถามว่าเขาจะหันหลังกลับ ความคิดของการมีคนเพียงคนเดียวขอให้ความชั่วร้ายที่สำคัญจะหันหลังกลับคือโง่ ABIT ถ้าเขาจะฟัง ok แล้วผมจะตะโกน DIABLO! หันหลังกลับ! อย่า REACH MORTAL โลก! มีหลายวินาทีของลำดับนี้ในโรงภาพยนตร์ที่สูญเสียไปเพื่อแสดงให้เห็นว่าพระบาอัลจะไปฆ่าคนเถื่อนนี้ ไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นเพียง ABIT ของลมและ havng บาอัลย้ายมือของเขา ... โดยรวมผมคิดว่าแม้จะมีของใหม่เพลย์ที่ดีก็เสนอ Diablo II: พระเจ้าแห่งการทำลายล้างไม่ได้จริงๆตามเส้นทางเดิม เกม ฉันจะเรียกมันเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมถ้ามันไม่ได้ติดตามเพราะเมื่อพูดถึงอดีตความคิดของการมีการขยายสิ่งที่ได้รับการแนะนำมา แต่เดิมและในขณะที่พวกเขาพยายามที่จะทำอย่างนั้นผมเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าผมได้รับการอย่างต่อเนื่อง บทบาทของผมในฐานะวีรบุรุษผู้ที่ฉันเล่นใน Diablo II. ฉันทำจำนวนมากของการขัดแย้งที่นี่ ฉันรักทั้ง Diablo II และลอร์ดแห่งการทำลายล้าง แต่ปัจจัยเหล่านี้เป็นบิต Dissapointing สำหรับฉัน ตอนนี้ผมยังไม่ได้ใช้เวลาทั้งหมดนี้ writting เหล่านี้ขึ้นขอให้คุณ appriciate มัน แบ่งปันความคิดของคุณของการตั้งค่าการขยายตัวได้เป็นอย่างดี ถ้าผมกล่าวถึงสิ่งที่คุณไม่เห็นด้วยตะโกนมันออก ลองดูสิ่งที่ทุกคนคิดว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทั้งสองของเกมเหล่านี้อย่างมาก พายุหิมะได้งานที่ยอดเยี่ยมในต้นฉบับ และสร้างชุดการขยายตัวที่มีคุณค่า แต่คือการตั้งค่าที่ดีพอใน apects ?

ตอนนี้การตั้งค่าได้รับการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมและไม่มีทางที่จะทะเลาะกันเรื่องนี้ การเพิ่มของขนาด zillions ของรายการใหม่และการกระทำใหม่ ตั้งอยู่ในบ้านเกิดของคนเถื่อนตอนนี้มันเยี่ยมมาก แต่ในแง่ของเรื่องราวที่ฉันคิดว่า พระผู้เป็นเจ้าแห่งการทำลายก็ไม่เป็นที่แข็งแกร่งเป็นเกมหลัก ใน Diablo II , เรามีเรื่องราวลึกลับที่เกิดขึ้นในทุกหน้าที่ที่สนุกมากที่จะปฏิบัติตามผ่านเควส และแม้ค่ะ ราชาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Tal และสุสานลึกลับของเขาทั้งหมดที่น่าสนใจ cienmatic ลำดับได้งดงามผมก็อยากให้ทำเพื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปจะมาริและคนเร่ร่อน มืด แต่ในตอนนี้ฉันแทบปลิวไปกับเรื่องราวของกฎหมายแต่ละในเวลาเดียวกัน ใช้เพลงถนัดทำ ทำแต่ละคนมีสไตล์ของตัวเอง เพลงที่ไม่เพียง แต่นำภาพบรรยากาศมืดของเกม แต่ก็ไม่ได้น่ารำคาญเหมือนเล่นมากกว่า

อย่างไรก็ตามเหล่านี้ไม่เหมือนกับพระเจ้าแห่งการทำลาย โอเค ความจริงที่บาอัลได้และเราก็จะตามเขาไป เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่เกมที่เอาวิธีการนี้เป็นบิตที่แตกต่างกัน ฉันหมายถึง เราเริ่มออก จากประตูของ horragath และผ่านการฆ่ามอนสเตอร์ numerious ก้านที่หัวหน้า ล้อมแค่ doens ไม่ได้ดูจริง และดูเหมือนเขาวงกตแน่นอน นั่นเป็นสัญญาณว่าเรากำลังเล่นเกม RPG แต่มันไม่ได้ให้ความรู้สึกกับความคิดของล้อม

อาจจะมีบางสถานที่ถ้ำผ่านเหมือนท่าแรก หรือที่สาม แต่พวกเขาทำให้ประตูสู่นรก นี้จะดีสำหรับการเล่นเกม แต่นี่ เราอยู่ในภูเขา ทำไมเราได้น้อยมาก ปริมาณของถ้ำ ?

อีกอย่างคือความคิดที่ nilhathak ทำข้อตกลงกับพระบาอัล โดยการให้เขาวัตถุโบราณของโบราณ . ตอนนี้จัดการกับความชั่วร้ายนายกเสียงบิต wiered . ถ้าท่านต้องการแค่ชั่วตายมนุษย์แล้ว ความคิดนี้ ? พวกเขาไม่เพียงให้ Diablo บางอย่างเพื่อหยุดเขาในสถานที่แรก ?

ความคิดของบัลลังก์แห่งการทำลายก็แปลก โอเคบาอัลได้รับการป้องกัน ด้วยบางชนิดของโล่ และเราต้องต่อสู้กับสมุนของเขาก่อนจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อศึกสุดท้ายในโลกหินในห้อง พวกเขาไม่เพียงมีมอนสเตอร์ที่มาจาก protal แทนที่จะพระบาอัลยืนและเรียกพวกเขา นั่นเป็นความคิดที่ไม่เลว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับที่โล่ของพระบาอัลเมื่อเขาไปถึงประตูแล้วนี้โล่คิดไม่ชัดเจนจริงๆ

เพลงก็ดีมากแล้ว แมท uelmen ใช้วงออเครสตร้า เอาบรรยากาศของอนารยชน บ้านเกิด ( และฉันคิดว่าเขาพยายามจะ abit เคารพเบซิล poldouris คะแนนสำหรับโคนันหนัง ) แต่ปัญหาคือ ดนตรีมี abit น่าเบื่อมันเล่นซ้ำไปซ้ำมา มันไม่ได้ช่วยให้บรรยากาศมืดเหมือนเกมต้นฉบับ ฉันหมายถึงตอนที่ผมเล่น Diablo II และเข้ามาวุ่นวายแซนทัวอารี , เพลงจริงๆ ให้ jibblies . แต่โลกหินเก็บเกมผมรู้สึกเป็นถ้าฉันได้ฟังเรื่องของวิธีการที่พระเจ้าทรงทำลายแพ้

ในที่สุด สำหรับลำดับภาพยนตร์ ฉันคิดว่าแค่ฉากสุดท้ายตามขั้นตอนเดียวกันของ Diablo II เปิดตัวภาพยนตร์ แค่เสียเวลาแน่ใจว่า พายุหิมะจะสดใส แต่ในขณะที่เราเริ่ม cinematics ต่อไปนี้ดี เรื่องลึกลับใน Diablo II โลด แค่เปิด , แสดงให้เราเห็นพระบาอัล ฆ่าคนเถื่อนที่ถามเขากลับไป ความคิดของการมีใครสักคนถามร้ายนายกกลับมาเป็น abit โง่ ถ้าเขาฟังแล้วโอเค ฉันจะตะโกน Diablo ! หันหลังกลับ คุณจะไม่ได้ไปที่โลกมนุษย์ !มีหลายวินาทีของลำดับภาพยนตร์นี้เสียเพื่อแสดงให้เห็นว่าพระบาอัลจะฆ่าป่าเถื่อนนี้ ไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้เพียง abit ของลม และ havng พระบาอัลย้ายมือของเขา . . . . . . .

โดยรวมแล้วผมคิดว่าแม้ของใหม่ , เกมที่ดีมันเสนอ , Diablo II : พระเจ้าแห่งการทำลายไม่ได้จริง ๆตามเส้นทางของเกมต้นฉบับผมจะเรียกมันเป็นเกมที่ยอดเยี่ยม ถ้าไม่ได้ติดตาม เพราะเมื่อพูดถึงอดีต ความคิดคือการขยายสิ่งที่เป็นที่รู้จักเดิม และในขณะที่พวกเขาไม่ได้พยายามที่จะทำอย่างนั้น ผมเองไม่ได้รู้สึกว่าผมต่อบทบาทของฉันเป็นฮีโร่ที่ผมเล่นเป็นใน Diablo II .

ฉันทำให้จำนวนของอาร์กิวเมนต์ที่นี่เลยผมรักทั้ง Diablo II และพระเจ้าแห่งการทำลาย แต่ปัจจัยเหล่านี้เป็นบิตผิดหวังสำหรับฉัน ตอนนี้ผมยังไม่ได้ใช้จ่ายตลอดเวลาเขียนเหล่านี้ขึ้นเพื่อขอให้คุณซาบซึ้ง . แบ่งปันความคิดของคุณของการขยายตัวไว้ได้เป็นอย่างดี ถ้าผมกล่าวอะไรที่คุณไม่เห็นด้วยก็ตะโกนออกมา เรามาดูสิ่งที่ทุกคนคิด