Stack Loss: Stack TemperatureBy mod

Stack Loss: Stack Temperature
By modern standards, furnaces built in the 1960s and early 1970s typically have low
efficiencies, commonly with stack temperatures between 400 and 550 °F. Figure 9.3
shows thermal efficiency (lower heating value—LHV basis and higher heating value—
HHV basis) as a function of stack temperature, at typical operating conditions of 2% O2
at the top of fire box and 1.5% heat loss through the walls, with two different fuel
mixes—90 mol% methane/10 mol% hydrogen and 20 mol% methane/80 mol% hydrogen.
As shown in the graph, the overall thermal efficiency of a furnace does not change
much over a wide range of fuel gas compositions.
The absorption of heat from stack gases is limited by the heat exchange area
(discussed in the next section) and metallurgy limits of the furnace components, which
are usually related to the condensation temperature of the acid components of the
combustion products—the acid gas dew point. Many modern furnaces have a net (LHV)
efficiency above 94%, with a stack temperature of about 230 °F (110 °C) for furnaces that
burn clean fuel gas, the water dew point being 212 °F. If there is any sulfur in the fuel, it
increases the acid dew point of the flue gas. Even a small amount of sulfur increases the
dew point significantly, as shown in Figure 9.4.
Every licensor of olefins or other furnaces will design for the lowest possible stack
temperature to maximize efficiency, within the constraints of plant-specific feed and
utility temperatures and fuel gas composition. Economics and available stream temperatures
determine the approach between the stack and process inlet temperatures. For example, if the feed comes into the convection section at 230 °F at the top, the minimum
economical stack temperature, a tradeoff between the cost of additional heat recovery
surface area and the benefit of the recovered heat, is typically 260–270 °F.
Boiler stack temperatures are usually in the range of 320–500 °F, with a typical best
efficiency of about 85%. Stack loss is the biggest limit on efficiency and is typically in
excess of 10% in boilers. Many older boilers have stack losses as high as 20–30%.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กองขาดทุน: อุณหภูมิของกองโดยมาตรฐานที่ทันสมัย เตาเผาที่สร้างขึ้นในปี 1960 และต้นทศวรรษ 1970 โดยทั่วไปมีมากประสิทธิภาพ โดยทั่วไป มีอุณหภูมิระหว่างกองระหว่าง 400 และ 550 องศาเอฟ รูปที่ 9.3แสดงประสิทธิภาพเชิงความร้อน (ความร้อนค่าต่ำ — LHV พื้นฐานและความร้อนค่าสูง —พื้นฐาน HHV) เป็นฟังก์ชันของอุณหภูมิกอง ที่ทั่วไปปฏิบัติการ 2% O2ด้านบนของไฟกล่องและ 1.5% สูญเสียความร้อนผ่านผนัง เชื้อเพลิงที่แตกต่างกันสองออกแบบผสมผสานเช่นโมล% มีเทน/10 โมล%ไฮโดรเจนและโมล 20% มีเทน/80 โมล%ไฮโดรเจน 90ดังแสดงในกราฟ ประสิทธิภาพเตาความร้อนโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลงมากมากกว่าความหลากหลายของเชื้อเพลิงก๊าซองค์ดูดซึมความร้อนจากก๊าซกองถูกจำกัด ด้วยพื้นที่แลกเปลี่ยนความร้อน(กล่าวถึงในส่วนถัดไป) และโลหะจำกัดประกอบเตา ที่มักจะเกี่ยวข้องกับอุณหภูมิควบแน่นของส่วนประกอบของกรดเผาไหม้ผลิตภัณฑ์ — จุด dew ก๊าซกรด เตาเผาที่ทันสมัยมากมีราคาสุทธิ (LHV)ประสิทธิภาพสูงกว่า 94% มีไข้กองประมาณ 230 ° F (110 ° C) ในเตาเผาที่เผาไหม้ก๊าซเชื้อเพลิงที่สะอาด จุด dew น้ำ 212 องศาเอฟ ถ้าไม่มีกำมะถันในน้ำมันเชื้อเพลิง มันเพิ่มจุด dew กรดแก๊สชำระล้างกรด แม้แต่เล็กน้อยของกำมะถันเพิ่มขึ้นdew จุดมาก ดังที่แสดงในรูปที่ 9.4ทุกผู้อนุญาตของโอเลฟินส์หรือเตาเผาอื่น ๆ จะออกแบบสำหรับกองได้ต่ำอุณหภูมิการเพิ่มประสิทธิภาพ ภายในข้อจำกัดของพืชเฉพาะอาหาร และยูทิลิตี้อุณหภูมิและองค์ประกอบของก๊าซเชื้อเพลิง เศรษฐกิจและกระแสมีอุณหภูมิกำหนดวิธีระหว่างอุณหภูมิทางเข้าของกองและกระบวนการ ตัวอย่างเช่น ถ้าตัวดึงข้อมูลมาส่วนการพาที่ 230 ° F ที่ด้านบนสุด ต่ำสุดประหยัดกองอุณหภูมิ ข้อดีข้อเสียระหว่างต้นทุนของการกู้คืนความร้อนเพิ่มเติมพื้นผิวตั้งและประโยชน์ของความร้อนคืน โดยปกติ 260 – 270 องศาเอฟอุณหภูมิหม้อน้ำกองมักอยู่ในช่วงของ 320-500 ° F กับส่วนที่ปกติประสิทธิภาพประมาณ 85% กองขาดทุนจำกัดที่ใหญ่ที่สุดประสิทธิภาพ และโดยปกติในเกิน 10% ในหม้อไอน้ำ หม้อไอน้ำเก่าจำนวนมากมีกองขาดทุนสูงถึง 20 – 30%

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การสูญเสียกอง:
อุณหภูมิกองตามมาตรฐานที่ทันสมัยเตาเผาที่สร้างขึ้นในทศวรรษที่1960 และต้นปี 1970
ที่ต่ำมักจะมีประสิทธิภาพโดยทั่วไปกับสแต็คอุณหภูมิระหว่าง400 และ 550 ° F รูปที่ 9.3
แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพเชิงความร้อน (มูลค่าพื้นฐาน LHV
ความร้อนต่ำและความร้อนที่สูงกว่ามูลค่าพื้นฐานHHV) เป็นหน้าที่ของกองอุณหภูมิในสภาพการใช้งานปกติของ 2% O2
ที่ด้านบนของกล่องไฟและสูญเสียความร้อน 1.5% ผ่านผนัง
กับสองเชื้อเพลิงที่แตกต่างกันมีเทนผสม-90 mol% / 10 mol% ไฮโดรเจนและมีเทน 20 mol% / 80 mol% ไฮโดรเจน. ดังแสดงในกราฟที่มีประสิทธิภาพการระบายความร้อนโดยรวมของเตาเผาจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนักในช่วงที่กว้างของก๊าซเชื้อเพลิงองค์ประกอบ. การดูดซึมของความร้อนจากก๊าซสแต็คจะถูก จำกัด พื้นที่แลกเปลี่ยนความร้อน(กล่าวถึงในส่วนถัดไป) และข้อ จำกัด โลหะชิ้นส่วนเตาเผาซึ่งมีความสัมพันธ์ปกติอุณหภูมิควบแน่นขององค์ประกอบกรดของการเผาไหม้ผลิตภัณฑ์กรดก๊าซจุดน้ำค้าง เตาเผาที่ทันสมัยจำนวนมากมีสุทธิ (LHV) ประสิทธิภาพดังกล่าวข้างต้น 94% โดยมีอุณหภูมิสแต็คของประมาณ 230 ° F (110 ° C) สำหรับเตาเผาที่เผาไหม้ก๊าซเชื้อเพลิงสะอาดจุดน้ำค้างน้ำเป็น212 ° F หากมีกำมะถันในน้ำมันเชื้อเพลิงใด ๆ ก็เพิ่มจุดน้ำค้างกรดของก๊าซไอเสีย แม้เพียงเล็กน้อยของกำมะถันเพิ่มจุดน้ำค้างอย่างมีนัยสำคัญดังแสดงในรูปที่ 9.4. ทุกอนุญาตของโอเลฟินหรือเตาเผาอื่น ๆ จะออกแบบสำหรับกองที่เป็นไปได้ต่ำสุดของอุณหภูมิในการเพิ่มประสิทธิภาพภายในข้อจำกัด ของอาหารจากพืชที่เฉพาะเจาะจงและอุณหภูมิสาธารณูปโภคและน้ำมันเชื้อเพลิงองค์ประกอบของก๊าซ เศรษฐศาสตร์และอุณหภูมิกระแสที่มีอยู่ตรวจสอบวิธีการระหว่างกองอุณหภูมิและขั้นตอนการเข้า ตัวอย่างเช่นถ้าฟีดเข้ามาในส่วนของการพาความร้อนที่ 230 ° F ที่ด้านบนขั้นต่ำอุณหภูมิสแต็คประหยัดถ่วงดุลอำนาจระหว่างค่าใช้จ่ายในการกู้คืนความร้อนเพิ่มขึ้นของพื้นที่ผิวและประโยชน์ของการกู้คืนความร้อนที่เป็นปกติ260-270 ° เอฟอุณหภูมิสแต็บอยเลอร์มักจะอยู่ในช่วงของ320-500 ° F มีที่ดีที่สุดโดยทั่วไปมีประสิทธิภาพประมาณ85% การสูญเสียสแต็คเป็นขีด จำกัด ที่ใหญ่ที่สุดในประสิทธิภาพและเป็นปกติในส่วนที่เกินจาก10% ในหม้อไอน้ำ หลายหม้อไอน้ำเก่าที่มีการสูญเสียสแต็คสูงถึง 20-30%

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กองร่วง :
อุณหภูมิกองตามมาตรฐานที่ทันสมัย โรงงานสร้างขึ้นในปี 1960 และต้นทศวรรษ 1970 โดยทั่วไปจะมีประสิทธิภาพต่ำ
ปกติกับสแต็คอุณหภูมิระหว่าง 400 และ 550 องศา F . รูปที่ 9.3
แสดงประสิทธิภาพเชิงความร้อน ( ค่าความร้อนต่ำ lhv พื้นฐานและสูงกว่าค่าความร้อนของเชื้อเพลิง -
พื้นฐาน ) เป็นฟังก์ชันของอุณหภูมิกอง , ในทั่วไป สภาวะที่ 2 % O2
ที่ด้านบนของกล่องไฟ 15 % การสูญเสียความร้อนผ่านผนัง กับสองแตกต่างกันเชื้อเพลิง
mixes-90 โมล % มีเทน / 10 mol % ไฮโดรเจนและ 20 โมล % มีเทน / 80 mol % ไฮโดรเจน
ดังแสดงในกราฟประสิทธิภาพ เชิงความร้อนโดยรวมของเตาไม่เปลี่ยนแปลง
มากมากกว่าที่หลากหลายของเชื้อเพลิงก๊าซองค์ประกอบ .
การดูดซึมความร้อนจากกองก๊าซถูกจำกัดด้วยพื้นที่แลกเปลี่ยนความร้อน
( กล่าวถึงในส่วนถัดไป ) และข้อจำกัดของเตาหลอมโลหะ ส่วนประกอบ ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับ
อุณหภูมิควบแน่นของกรด องค์ประกอบของการเผาไหม้ผลิตภัณฑ์กรดแก๊ส
น้ำค้างจุด เตาเผาทันสมัยมากมีสุทธิ ( lhv )
ประสิทธิภาพเหนือ 94 กับกองที่อุณหภูมิ 230 องศา F ( 110 ° C ) สําหรับเตาเผาที่เผาเชื้อเพลิงแก๊ส
สะอาดน้ำจุดน้ำค้างเป็น 212 ° Fหากมีกำมะถันในเชื้อเพลิงมัน
เพิ่มจุดน้ำค้างกรดของก๊าซ . แม้จำนวนเล็ก ๆของกำมะถันเพิ่ม
จุดน้ำค้างอย่างมาก ดังแสดงในรูปที่ 9.4 .
ทุกผู้อนุญาตของบริษัท หรือ เตาอื่นจะออกแบบสแต็ค
อุณหภูมิต่ําสุดที่เป็นไปได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพภายในข้อจำกัดของพืชเฉพาะอาหารและสาธารณูปโภคและองค์ประกอบของก๊าซเชื้อเพลิงอุณหภูมิ
.เศรษฐศาสตร์ของกระแสและอุณหภูมิ
กำหนดแนวคิดระหว่างสแต็คและอุณหภูมิที่ปากน้ำ ตัวอย่างเช่น ถ้าป้อนเข้ามาในส่วนการพาความร้อนที่ 230 องศา F ที่ด้านบนสุด
อุณหภูมิกองประหยัด เป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างต้นทุนของการกู้คืนความร้อน
เพิ่มพื้นที่ผิว และประโยชน์ของการกู้คืนความร้อนเป็นปกติ 260 270 องศา F .
)boiler stack temperatures are usually in และระบบของ 320 – 500 ° f , ฉัน
efficiency เบต้าผมเป็น 85 % . กองการสูญเสียที่ใหญ่ที่สุด จำกัด ประสิทธิภาพและเป็นปกติในส่วนที่เกิน 10% ใน boilers
. หม้อเก่ามากมีกองขาดทุนสูง 20 - 30 %