ment, as in Figure 6-10, the bendin

ment, as in Figure 6-10, the bending is toward the nor¬mal to hie interface. Bending away from the normal oc¬curs when the beam passes from a more dense to a less dense medium.
The extent of refraction is given by Snell’s law:

6.12

If Ml in Figure 6-10 is a vacuum, Vi is equal to c, and T|j is unity (see Equation 6-11); with rearrangement, Equa¬tion 6-12 simplifies to
6.13
The refractive indexes of substance M2 can then be computed from measurements of (0i)vac and 02- For convenience, refractive indexes are usually measured and reported with air, rather than a vacuum, as the refer-ence. The refractive index is then
6.14
Most compilations of refractive indexes provide data in terms of Equation 6-14. Such data are readily converted to refractive indexes with vacuum as a refer¬ence by multiplying by the refractive index of air rela¬tive to a vacuum. That is,

6B-9 Reflection of Radiation
When radiation crosses an interface between media that differ in refractive index, reflection always occurs. The fraction of radiation reflected becomes greater with in¬creasing differences in refractive index. For a beam that enters an interface at right angles, the fraction reflected is given by
6.15
where Io is the intensity of the incident beam and Ir is the reflected intensity; T|1 and าๅ2 are the refractive in-dexes of the two media.

EXAMPLE 6-2
Calculate the percent loss of intensity due to reflec¬tion of a perpendicular beam of yellow light as it passes through a glass cell that contains water. As¬sume that for yellow radiation the refractive index of glass is 1.50, of water is 1.33, and of air is 1.00.
The total reflective loss will be the sum of the losses occurring at each of the interfaces. For the first interface (air to glass), we can write

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ติดขัด อยู่ในรูปที่ 6-10 การดัดได้ไป nor¬mal hie ส่วนติดต่อ ดัดจาก oc¬curs ปกติเมื่อคานผ่านจากความหนาแน่นมากปานกลางน้อยหนาแน่นขอบเขตของการหักเหได้ตามกฎหมายของเซี:6.12ถ้าในรูป 6-10 Ml สุญญากาศ Vi มีค่าเท่ากับ c และ T|j สามัคคี (ดูสมการ 6-11); มี rearrangement, Equa¬tion 6-12 ช่วยให้ง่าย6.13ดัชนี refractive ของสาร M2 สามารถแล้วถูกคำนวณจากวัด vac (0i) และ 02-สะดวก ดัชนี refractive มักวัด และรายงานอากาศ มากกว่าสุญญากาศ เป็น ence ดู ดรรชนีหักเหเป็นแล้ว6.14รวมส่วนใหญ่ของ refractive ดัชนีให้ข้อมูลในรูปแบบของสมการ 6-14 ข้อมูลดังกล่าวพร้อมแปลงเป็นดัชนี refractive ด้วยสุญญากาศเป็น refer¬ence การคูณโดยดรรชนีหักเหของอากาศ rela¬tive การสุญญากาศ นั่นก็คือ6B-9 สะท้อนรังสีเมื่อรังสีตัดอินเทอร์เฟซระหว่างสื่อที่แตกต่างในดรรชนี สะท้อนเสมอเกิดขึ้น เศษส่วนของรังสีที่สะท้อนออกมาจะยิ่ง มีความแตกต่างของ in¬creasing ในดรรชนี สำหรับแสงที่ป้อนอินเทอร์เฟซที่มุมขวา เศษส่วนผลถูกกำหนดโดย6.15ที่ Io เป็นความเข้มของแสงเหตุการณ์และ Ir คือ ความเข้มสะท้อน T|1 และ าๅ2 มีการหักเหใน-dexes สื่อสองตัวอย่างที่ 6-2คำนวณเปอร์เซ็นต์สูญเสียความเข้มเนื่องจาก reflec¬tion เป็นเส้นแสงสีเหลืองผ่านเซลล์แก้วที่ประกอบด้วยน้ำ As¬sume ที่สำหรับรังสีสีเหลืองดรรชนีหักเหของแก้ว 1.50 น้ำ เป็น 1.33 และอากาศเป็น 1.00ยอดขาดทุนสะท้อนแสงจะมีผลรวมของการสูญเสียที่เกิดขึ้นในแต่ละอินเทอร์เฟส แรกอินเทอร์เฟซ (อากาศกับแก้ว), เราสามารถเขียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ment เช่นเดียวกับในรูปที่ 6-10 ดัดเป็นต่อnor¬malเพื่อ HIE อินเตอร์เฟซ .
ดัดห่างจากoc¬cursปกติเมื่อลำแสงผ่านจากหนาแน่นมากขึ้นในการสื่อความหนาแน่นน้อยกว่าขอบเขตของการหักเหของแสงจะได้รับตามกฎหมายปราดเปรื่องของ: 6.12 หาก Ml ในรูปที่ 6-10 เป็นสูญญากาศ Vi เท่ากับ C, และ T | ญคือความสามัคคี (ดูสม 6-11); ที่มีการปรับปรุงใหม่, Equa¬tion 6-12 ช่วยลดความยุ่งยากในการ6.13 ดัชนีหักเหของสาร M2 แล้วสามารถคำนวณได้จากการตรวจวัด (0i) 02- VAC และเพื่อความสะดวกของดัชนีการหักเหของแสงที่วัดและมักจะรายงานกับอากาศมากกว่าสูญญากาศ ในขณะที่ดู-ence ดัชนีการหักเหของแสงแล้ว6.14 รวบรวมที่สุดของดัชนีการหักเหของแสงให้ข้อมูลในแง่ของสมการ 6-14 ข้อมูลดังกล่าวจะถูกแปลงพร้อมที่จะให้การจัดทำดัชนีการหักเหของแสงที่มีสูญญากาศเป็นrefer¬enceโดยคูณโดยดัชนีหักเหของrela¬tiveอากาศสูญญากาศ นั่นคือ6B-9 สะท้อนรังสีเมื่อรังสีข้ามเชื่อมต่อระหว่างสื่อที่แตกต่างกันในดัชนีหักเหที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นเสมอ ส่วนของรังสีสะท้อนให้เห็นจะกลายเป็นมากขึ้นมีความแตกต่างในin¬creasingดัชนีหักเห สำหรับแสงที่เข้าสู่อินเตอร์เฟซที่มุมด้านขวาเป็นส่วนสะท้อนให้เห็นจะได้รับจาก6.15 ที่ไอโอคือความเข้มของลำแสงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและ Ir เป็นความเข้มสะท้อนให้เห็น; T | าๅที่ 1 และ 2 มีการหักเหของแสงใน dexes ของทั้งสองสื่อ. ตัวอย่าง 6-2 คำนวณการสูญเสียร้อยละของความรุนแรงอันเนื่องมาจากreflec¬tionของลำแสงตั้งฉากของแสงสีเหลืองขณะที่มันผ่านเซลล์แก้วที่มีน้ำ As¬sumeว่ารังสีเหลืองดัชนีหักเหของแก้วเป็น 1.50, น้ำคือ 1.33 และอากาศ 1.00. การสูญเสียสะท้อนแสงรวมจะเป็นผลรวมของการสูญเสียที่เกิดขึ้นในแต่ละของอินเตอร์เฟซที่ สำหรับอินเตอร์เฟซเป็นครั้งแรก (อากาศแก้ว) เราสามารถเขียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ment ในรูปที่ 6-10 , โค้งไปทางหรือ¬มัลต้องเร่งรีบอินเตอร์เฟซ โค้งไปจากปกติ OC ¬คำสาปเมื่อลำแสงผ่านจากมากขึ้นหนาแน่นไปกลางหนาแน่นน้อยกว่า
ขอบเขตของการหักเหของแสง ให้ผู้ขนส่ง :



ถ้ามล รูปที่ 6.12 6-10 เป็นสูญญากาศ ไวเท่ากับ C และ T | J คือความสามัคคี ( ดูสมการ 6-11 ) ; กับรูปแบบ¬ equa tion , 6-12 ง่าย


6.13ดัชนีการหักเหของสาร M2 แล้วคำนวณได้จากการวัด ( 0i ) VAC และ 02 - เพื่อความสะดวก , ดัชนี refractive มักจะวัด และรายงานกับอากาศแทนที่จะเป็นสุญญากาศ เป็นการอ้างอิง ENCE . ดัชนีการหักเหเป็นแล้ว

ส่วนใหญ่ของดัชนีการหักเห 6.14 การรวบรวมข้อมูลในแง่ของสมการ 6-14 .ข้อมูลดังกล่าวจะแปลงพร้อมกับดัชนีการหักเหของแสงด้วยเครื่องดูดฝุ่นเป็นอ้างอิง¬ ENCE โดยการคูณด้วยดรรชนีหักเหของอากาศจริง¬ tive กับสูญญากาศ นั่นคือ

6b-9 การสะท้อนของรังสี
เมื่อรังสีผ่านอินเตอร์เฟซระหว่างสื่อที่แตกต่างกันในดัชนีการหักเหของแสงสะท้อนที่มักจะเกิดขึ้นส่วนของรังสีสะท้อนจะมากขึ้นด้วยใน¬ creasing ความแตกต่างของดัชนีการหักเห . สำหรับแสงที่เข้าสู่อินเตอร์เฟซที่มุมด้านขวา ส่วนสะท้อนให้

ที่ 6.15 IO เป็นความรุนแรงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสะท้อนความเข้มแสง IR ; t | 1 และาๅ 2 เป็นสายตาใน dexes ของทั้งสองสื่อ ตัวอย่างที่ 2