In March 2009, the airline reported

In March 2009, the airline reported a record full-year loss of HK$8.56 billion for 2008, which was also the carrier's first since the 1997 Asian Financial Crisis. The record loss included fuel-hedging losses of HK$7.6 billion and a HK$468 million charge for a price-fixing fine in the US It had to scrap its final dividend. The hedging losses were a result of locking in fuel prices at higher than prevailing market price. As of the end of 2008, Cathay Pacific has hedged about half of its fuel needs until the end of 2011. The airline at the time estimated that it would face no further cash costs from the hedges if the average market price stood at US$75, enabling it recoup provisions it made in 2008.
The flattening out of fuel prices resulted in Cathay Pacific recording a paper fuel hedging gain for its half-year reports for 2009. However, as a result of the global economic situation, the Group reported an operating loss. Given the current economic climate, and in line with the steps being taken by other major airlines around the world, the airline has undertaken a comprehensive review of all its routes and operations. This has resulted in frequencies being reduced to certain destinations, ad hoc cancellations on other routes, deferred capital expenditure, parked aircraft and introduced a Special Leave Scheme for staff to conserve money. According to CEO Tony Tyler, the yield from passengers was "hugely down" and the airline had lost "a lot of premium traffic". He noted that it could take 20 passengers in economy to make up for the lost revenue of one fewer first class passenger flying to New York from Hong Kong.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีนาคม 2552 สายการบินรายงานระเบียนทั้งปีขาดทุนของ HK$ 8.56 ล้าน 2551 ซึ่งยังเป็นผู้แรกตั้งแต่ปี 1997 วิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย สูญเสียบันทึกรวมขาดทุนของ hedging น้ำมัน 7.6 พันล้านเหรียญฮ่องกงและ HK$ 468 ล้านค่าธรรมเนียมสำหรับการ price-fixing ดีในสหรัฐอเมริกาจะมีของเสียของเงินปันผลขั้นสุดท้าย ขาดทุนจากการบริหารความเสี่ยงมีผลของการล็อกในราคาน้ำมันที่สูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน ณ สิ้นปี 2008, Cathay Pacific มี hedged ประมาณครึ่งหนึ่งของความต้องการเชื้อเพลิงจนถึงสิ้นปี 2554 สายการบินเวลาประมาณว่า มันจะหน้าไม่มีต้นทุนเงินสดเพิ่มเติมจากการประเมินค่าเฮดจ์ถ้าราคาตลาดเฉลี่ยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา $75 เปิดใช้งาน recoup บทบัญญัติที่จะทำในปี 2008 แบนจากราคาน้ำมันส่งผลให้ใน Cathay Pacific บันทึกน้ำมันกระดาษการ hedging กำไรสำหรับรายงานของครึ่งปี 2552 อย่างไรก็ตาม เป็นผลมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก กลุ่มรายงานขาดทุนการดำเนินงาน ให้สภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน และ ตามขั้นตอนที่ถูกนำมา โดยสายการบินอื่น ๆ หลักทั่วโลก สายการบินได้ดำเนินการตรวจสอบครอบคลุมทุกเส้นทางและการดำเนินงาน นี้ได้ส่งผลให้ความถี่ที่ถูกลดรูปเป็นบางสถานที่ท่องเที่ยว ยกเลิกกิจในเส้นทางอื่น ๆ เลื่อนเวลาจ่าย จอดเครื่องบิน และนำพิเศษออกแบบสำหรับพนักงานเพื่อประหยัดเงิน ตาม CEO โทนี่ไทเลอร์ ผลตอบแทนจากผู้โดยสารถูก "ลงอย่างมหาศาล" และสายการบินได้สูญเสีย "มากมายของพรีเมี่ยมจราจร" เขากล่าวว่า มันสามารถนำผู้โดยสาร 20 ในเศรษฐกิจจะจัดทำขึ้นสำหรับรายได้หายไปของผู้โดยสารชั้นน้อยที่เดินทางไปนิวยอร์กจาก Hong Kong

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในเดือนมีนาคมปี 2009 สายการบินที่มีการรายงานการสูญเสียทั้งปีบันทึกของ HK $ 8560000000 ในปี 2008 ซึ่งเป็นผู้ให้บริการครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1997 วิกฤติการเงินเอเชีย การสูญเสียการบันทึกรวมผลขาดทุนจากการทำประกันความเสี่ยงน้ำมันเชื้อเพลิงของ HK $ 7600000000 และ HK $ 468,000,000 ค่าใช้จ่ายสำหรับการตรึงราคาดีในสหรัฐอเมริกามันมีเรื่องที่สนใจการจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งสุดท้าย การสูญเสียการป้องกันความเสี่ยงเป็นผลมาจากการล็อคของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในราคาที่สูงกว่าตลาดในขณะนั้น ณ สิ้นปี 2008 ที่คาเธ่ย์แปซิฟิคได้ป้องกันความเสี่ยงประมาณครึ่งหนึ่งของน้ำมันเชื้อเพลิงความต้องการของจนถึงสิ้นปี 2011 สายการบินในเวลาประมาณว่ามันจะต้องเผชิญไม่มีค่าใช้จ่ายเงินสดต่อไปจากการป้องกันความเสี่ยงในกรณีที่ราคาในตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ US $ 75 ทำให้มันชดใช้บทบัญญัติมันทำให้ในปี 2008
แฟบจากราคาน้ำมันที่มีผลในคาเธ่ย์แปซิฟิกบันทึกกำไรประกันความเสี่ยงน้ำมันเชื้อเพลิงกระดาษสำหรับรายงานครึ่งปีของปี 2009 แต่เป็นผลมาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกของกลุ่ม บริษัท ที่มีการรายงานการดำเนินงาน การสูญเสีย ได้รับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันและสอดคล้องกับขั้นตอนจะดำเนินการโดยสายการบินอื่น ๆ ทั่วโลกสายการบินได้ดำเนินการตรวจสอบที่ครอบคลุมของทุกเส้นทางและการดำเนินงาน นี้มีผลในความถี่ที่ถูกลดลงไปสถานที่บางยกเลิกเฉพาะกิจในเส้นทางอื่น ๆ ค่าใช้จ่ายรอการตัดบัญชีเงินทุนจอดเครื่องบินและนำออกจากโครงการพิเศษสำหรับพนักงานเพื่อประหยัดเงิน ตามที่ซีอีโอโทนี่ไทเลอร์, อัตราผลตอบแทนจากผู้โดยสารเป็น "อย่างมหาศาลลง" สายการบินได้หายไป "จำนวนมากเข้าชมพรีเมี่ยม" เขาสังเกตเห็นว่ามันอาจจะใช้เวลา 20 ผู้โดยสารในระบบเศรษฐกิจที่จะทำให้รายได้ที่หายไปของผู้โดยสารชั้นหนึ่งหนึ่งน้อยบินไปนิวยอร์กจากฮ่องกง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในเดือนมีนาคม 2009 , สายการบินรายงานบันทึกเต็มปี การสูญเสียของ HK $ 8.56 พันล้านในปี 2008 ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแรกตั้งแต่ 1997 วิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย . การบันทึกขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงรวมเชื้อเพลิงของ HK $ 7.6 พันล้านดอลลาร์และ HK $ 468 ล้านบาท ค่าบริการราคาซ่อมดีในเรา มันมีเศษในปีสุดท้ายของความเสี่ยงขาดทุน คือผลของการล็อคในราคาเชื้อเพลิงที่สูงกว่าราคาตลาด . ณ สิ้นปี 2551 คาเธ่ย์แปซิฟิกมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงประมาณครึ่งหนึ่งของเชื้อเพลิงของมันจนกว่าจะสิ้นสุดของ 2011 สายการบินในเวลาประมาณว่ามันจะหน้าไม่ต่อต้นทุนที่เป็นเงินสดจากพุ่มไม้ ถ้าราคาตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ US $ 75 ทำให้มันฟื้นบทบัญญัติทำให้ในปี 2008
แฟบจากราคาเชื้อเพลิงมีผลทำให้คาเธ่ย์แปซิฟิคบันทึกกระดาษเชื้อเพลิง hedging ได้รับรายงานครึ่งปีของปี 2009 อย่างไรก็ตาม ผลของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก กลุ่มที่รายงานผลประกอบการขาดทุน ด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และสอดคล้องกับขั้นตอนถูกถ่ายโดยสายการบินรายใหญ่อื่น ๆทั่วโลกสายการบินมีปัญหาการตรวจสอบที่ครอบคลุมของเส้นทางและทั้งหมดของการดำเนินงาน นี้มีผลในการลดความถี่ในบางสถานที่ , เฉพาะกิจการยกเลิกในเส้นทางอื่น ๆ ค่าใช้จ่ายรอการตัดบัญชีทุน , จอดอากาศยานและแนะนำโครงการฝากพิเศษสำหรับพนักงานที่จะประหยัดเงิน ตามที่ซีอีโอโทนี่ ไทเลอร์ผลผลิตจากผู้โดยสาร " มหาศาล " ลงและสายการบินได้หายไป " รถติด " พรีเมี่ยม เขากล่าวว่ามันอาจใช้เวลาถึง 20 ผู้โดยสารชั้นประหยัด เพื่อชดเชยรายได้ที่สูญหายหนึ่งน้อยกว่าชั้นหนึ่งผู้โดยสารที่บินไปนิวยอร์ก จากฮ่องกง