เซิ้งกระติ๊บเป็นการแสดงของภาคอีสานที่เป็นที่รู้จักกันดี และแพร่หลายที่ การแปล - เซิ้งกระติ๊บเป็นการแสดงของภาคอีสานที่เป็นที่รู้จักกันดี และแพร่หลายที่ ไทย วิธีการพูด

เซิ้งกระติ๊บเป็นการแสดงของภาคอีสานท

เซิ้งกระติ๊บ

เป็นการแสดงของภาคอีสานที่เป็นที่รู้จักกันดี และแพร่หลายที่สุดชุดหนึ่ง จนทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่า การแสดงของภาคอีสานมีลักษณะเป็นการรำเซิ้งเพียงอย่างเดียว เซิ้งกระติบข้าวได้แบบอย่างมาจากการเซิ้งบั้งไฟ ซึ่งแต่เดิมเซิ้งอีสานจริงๆ ไม่มีท่าทางอะไร มีแต่กินเหล้ายกมือไม้สะเปะสะปะให้เข้ากับจังหวะเสียงกลองไปตามใจ (มีผู้นิยามว่า ฟ้อนตามแบบกรมสรรพสามิต) โดยไม่ได้คำนึงถึงความสวยงาม นอกจากให้เข้าจังหวะกลอง ตบมือไปตามเรื่องตามฤทธิ์เหล้าในราว พ.ศ. 2507 สมเด็จพระบรมราชินีนาถต้องการการแสดงของภาคอีสาน เพื่อต้อนรับสมเด็จพระนางเจ้าอะเลียนา และเจ้าหญิงบีทริกซ์ แห่งประเทศเนเธอแลนด์ จึงมีการนำเอาเพลงอีสานคือ หมอลำจังหวะช้าเร็ว โดยมีท่าถวายบังคม ท่านกบิน ท่าเดิน ท่าดูดาว ท่าม้วนตัว ท่าสนุกสนาน ท่าปั้นข้าวเหนียว ท่าโปรยดอกไม้ ท่าบังแสงอาทิตย์ ท่าเตี้ย (รำเตี้ย) และในการแต่งกายครั้งแรกนั้นจะนุ่งผ้าซิ่นห่มผ้าสไบ เกล้าผมสูง แต่ไม่มีใครยอมห้อยกระติบข้าวเพราะเห็นว่ารุงรัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทอดพระเนตร พระองค์จึงรับสั่งให้ใครสักคนหนึ่งลองรำดูว่า ถ้าไม่ห้อยกระติบข้าว หรือห้อยกระติบข้าวแล้วจะเป็นอย่างไร ? คุณหญิงเบญจวรรณ อรวรรณ เป็นผู้ทดลองรำดู ครั้งแรกไม่ห้อยกระติบข้าวก็น่ารักดี ครั้งที่สองรำโดยห้อยกระติบข้าวทุกคนก็คิดว่ากำลังน่ารัก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งคำเดียวว่า "น่าเอ็นดูดีนี่" ผู้รำทุกคนก็พากันรีบห้อยกระติบข้าวกันใหญ่ทางไหล่ขวาทุกคน การเซิ้งครั้งนั้น ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค เรียกชื่อว่า "เซิ้งอีสาน" ต่อมามีผู้นำเซิ้งอีสานไปแสดงกันทั่วไปแต่เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า "เซิ้งกระติบข้าว"เครื่องแต่งกาย ผู้แสดงใช้ผู้หญิงล้วน สวมเสื้อแขนกระบอกคอกลมสีพื้น นุ่งผ้าซิ่นมัดหมี่ ห่มผ้าสไบเฉียง ผมเกล้ามวยทัดดอกไม้ห้อยกระติบข้าวทางไหล่ขวาเครื่องดนตรี ใช้ดนตรีพื้นเมืองอีสาน ทำนองเซิ้งอุปกรณ์การแสดง กระติบข้าว


0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
เซิ้งกระติ๊บเป็นการแสดงของภาคอีสานที่เป็นที่รู้จักกันดีและแพร่หลายที่สุดชุดหนึ่งจนทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่าการแสดงของภาคอีสานมีลักษณะเป็นการรำเซิ้งเพียงอย่างเดียวเซิ้งกระติบข้าวได้แบบอย่างมาจากการเซิ้งบั้งไฟซึ่งแต่เดิมเซิ้งอีสานจริง ๆ ไม่มีท่าทางอะไรมีแต่กินเหล้ายกมือไม้สะเปะสะปะให้เข้ากับจังหวะเสียงกลองไปตามใจ (มีผู้นิยามว่าฟ้อนตามแบบกรมสรรพสามิต) โดยไม่ได้คำนึงถึงความสวยงามนอกจากให้เข้าจังหวะกลองตบมือไปตามเรื่องตามฤทธิ์เหล้าในราวพ.ศ. 2507 สมเด็จพระบรมราชินีนาถต้องการการแสดงของภาคอีสานเพื่อต้อนรับสมเด็จพระนางเจ้าอะเลียนาและเจ้าหญิงบีทริกซ์แห่งประเทศเนเธอแลนด์จึงมีการนำเอาเพลงอีสานคือหมอลำจังหวะช้าเร็วโดยมีท่าถวายบังคมท่านกบินท่าเดินท่าดูดาวท่าม้วนตัวท่าสนุกสนานท่าปั้นข้าวเหนียวท่าโปรยดอกไม้ท่าบังแสงอาทิตยโทรศัพท์ท่าเตี้ย (รำเตี้ย) และในการแต่งกายครั้งแรกนั้นจะนุ่งผ้าซิ่นห่มผ้าสไบเกล้าผมสูงแต่ไม่มีใครยอมห้อยกระติบข้าวเพราะเห็นว่ารุงรังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทอดพระเนตรพระองค์จึงรับสั่งให้ใครสักคนหนึ่งลองรำดูว่าถ้าไม่ห้อยกระติบข้าวห้อยกระติบข้าวแล้วจะเป็นอย่างไร คุณหญิงเบญจวรรณอรวรรณเป็นผู้ทดลองรำดูครั้งแรกไม่ห้อยกระติบข้าวก็น่ารักดีครั้งที่สองรำโดยห้อยกระติบข้าวทุกคนก็คิดว่ากำลังน่ารักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งคำเดียวว่า "น่าเอ็นดูดีนี่" ผู้รำทุกคนก็พากันรีบห้อยกระติบข้าวกันใหญ่ทางไหล่ขวาทุกคนการเซิ้งครั้งนั้นท่านผู้หญิงมณีรัตน์บุนนาคเรียกชื่อว่า "เซิ้งอีสาน" ต่อมามีผู้นำเซิ้งอีสานไปแสดงกันทั่วไปแต่เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า "เซิ้งกระติบข้าว" เครื่องแต่งกายผู้แสดงใช้ผู้หญิงล้วนสวมเสื้อแขนกระบอกคอกลมสีพื้นนุ่งผ้าซิ่นมัดหมี่ห่มผ้าสไบเฉียงผมเกล้ามวยทัดดอกไม้ห้อยกระติบข้าวทางไหล่ขวาเครื่องดนตรีใช้ดนตรีพื้นเมืองอีสานทำนองเซิ้งอุปกรณ์การแสดงกระติบข้าว
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
เซิ้งกระติ๊บ

เป็นการแสดงของภาคอีสานที่เป็นที่รู้จักกันดี และแพร่หลายที่สุดชุดหนึ่ง จนทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่า การแสดงของภาคอีสานมีลักษณะเป็นการรำเซิ้งเพียงอย่างเดียว เซิ้งกระติบข้าวได้แบบอย่างมาจากการเซิ้งบั้งไฟ ซึ่งแต่เดิมเซิ้งอีสานจริงๆ ไม่มีท่าทางอะไร มีแต่กินเหล้ายกมือไม้สะเปะสะปะให้เข้ากับจังหวะเสียงกลองไปตามใจ (มีผู้นิยามว่า ฟ้อนตามแบบกรมสรรพสามิต) โดยไม่ได้คำนึงถึงความสวยงาม นอกจากให้เข้าจังหวะกลอง ตบมือไปตามเรื่องตามฤทธิ์เหล้าในราว พ.ศ. 2507 สมเด็จพระบรมราชินีนาถต้องการการแสดงของภาคอีสาน เพื่อต้อนรับสมเด็จพระนางเจ้าอะเลียนา และเจ้าหญิงบีทริกซ์ แห่งประเทศเนเธอแลนด์ จึงมีการนำเอาเพลงอีสานคือ หมอลำจังหวะช้าเร็ว โดยมีท่าถวายบังคม ท่านกบิน ท่าเดิน ท่าดูดาว ท่าม้วนตัว ท่าสนุกสนาน ท่าปั้นข้าวเหนียว ท่าโปรยดอกไม้ ท่าบังแสงอาทิตย์ ท่าเตี้ย (รำเตี้ย) และในการแต่งกายครั้งแรกนั้นจะนุ่งผ้าซิ่นห่มผ้าสไบ เกล้าผมสูง แต่ไม่มีใครยอมห้อยกระติบข้าวเพราะเห็นว่ารุงรัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทอดพระเนตร พระองค์จึงรับสั่งให้ใครสักคนหนึ่งลองรำดูว่า ถ้าไม่ห้อยกระติบข้าว หรือห้อยกระติบข้าวแล้วจะเป็นอย่างไร ? คุณหญิงเบญจวรรณ อรวรรณ เป็นผู้ทดลองรำดู ครั้งแรกไม่ห้อยกระติบข้าวก็น่ารักดี ครั้งที่สองรำโดยห้อยกระติบข้าวทุกคนก็คิดว่ากำลังน่ารัก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งคำเดียวว่า "น่าเอ็นดูดีนี่" ผู้รำทุกคนก็พากันรีบห้อยกระติบข้าวกันใหญ่ทางไหล่ขวาทุกคน การเซิ้งครั้งนั้น ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค เรียกชื่อว่า "เซิ้งอีสาน" ต่อมามีผู้นำเซิ้งอีสานไปแสดงกันทั่วไปแต่เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า "เซิ้งกระติบข้าว"เครื่องแต่งกาย ผู้แสดงใช้ผู้หญิงล้วน สวมเสื้อแขนกระบอกคอกลมสีพื้น นุ่งผ้าซิ่นมัดหมี่ ห่มผ้าสไบเฉียง ผมเกล้ามวยทัดดอกไม้ห้อยกระติบข้าวทางไหล่ขวาเครื่องดนตรี ใช้ดนตรีพื้นเมืองอีสาน ทำนองเซิ้งอุปกรณ์การแสดง กระติบข้าว


การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
เซิ้งกระติ๊บ

เป็นการแสดงของภาคอีสานที่เป็นที่รู้จักกันดีและแพร่หลายที่สุดชุดหนึ่งจนทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่าการแสดงของภาคอีสานมีลักษณะเป็นการรำเซิ้งเพียงอย่างเดียวเซิ้งกระติบข้าวได้แบบอย่างมาจากการเซิ้งบั้งไฟไม่มีท่าทางอะไรมีแต่กินเหล้ายกมือไม้สะเปะสะปะให้เข้ากับจังหวะเสียงกลองไปตามใจ ( มีผู้นิยามว่าฟ้อนตามแบบกรมสรรพสามิต ) โดยไม่ได้คำนึงถึงความสวยงามนอกจากให้เข้าจังหวะกลองพ .ศ .2507 สมเด็จพระบรมราชินีนาถต้องการการแสดงของภาคอีสานเพื่อต้อนรับสมเด็จพระนางเจ้าอะเลียนาและเจ้าหญิงบีทริกซ์แห่งประเทศเนเธอแลนด์จึงมีการนำเอาเพลงอีสานคือหมอลำจังหวะช้าเร็วโดยมีท่าถวายบังคมท่านกบินท่าดูดาวท่าม้วนตัวท่าสนุกสนานท่าปั้นข้าวเหนียวท่าโปรยดอกไม้ท่าบังแสงอาทิตย์ท่าเตี้ย ( รำเตี้ย ) และในการแต่งกายครั้งแรกนั้นจะนุ่งผ้าซิ่นห่มผ้าสไบเกล้าผมสูงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทอดพระเนตรพระองค์จึงรับสั่งให้ใครสักคนหนึ่งลองรำดูว่าถ้าไม่ห้อยกระติบข้าวหรือห้อยกระติบข้าวแล้วจะเป็นอย่างไร ?คุณหญิงเบญจวรรณอรวรรณเป็นผู้ทดลองรำดูครั้งแรกไม่ห้อยกระติบข้าวก็น่ารักดีครั้งที่สองรำโดยห้อยกระติบข้าวทุกคนก็คิดว่ากำลังน่ารักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งคำเดียวว่า " น่าเอ็นดูดีนี่ "การเซิ้งครั้งนั้นท่านผู้หญิงมณีรัตน์บุนนาคเรียกชื่อว่า " เซิ้งอีสาน " ต่อมามีผู้นำเซิ้งอีสานไปแสดงกันทั่วไปแต่เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า " เซิ้งกระติบข้าว " เครื่องแต่งกายผู้แสดงใช้ผู้หญิงล้วนนุ่งผ้าซิ่นมัดหมี่ห่มผ้าสไบเฉียงผมเกล้ามวยทัดดอกไม้ห้อยกระติบข้าวทางไหล่ขวาเครื่องดนตรีใช้ดนตรีพื้นเมืองอีสานทำนองเซิ้งอุปกรณ์การแสดงกระติบข้าว


การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: