Indonesia's high population and rap

Indonesia's high population and rapid industrialization present serious environmental issues, which are often given a lower priority due to high poverty levels and weak, under-resourced governance.[109] Issues include large-scale deforestation (much of it illegal) and related wildfires causing heavy smog over parts of western Indonesia, Malaysia and Singapore; over-exploitation of marine resources; and environmental problems associated with rapid urbanization and economic development, including air pollution, traffic congestion, garbage management, and reliable water and waste water services.[109] Deforestation and the destruction of peatlands make Indonesia the world's third largest emitter of greenhouse gases.[110] Habitat destruction threatens the survival of indigenous and endemic species, including 140 species of mammals identified by the World Conservation Union (IUCN) as threatened, and 15 identified as critically endangered, including Bali Starling,[111] Sumatran Orangutan,[112] and Javan Rhinoceros.[111] Much of Indonesia's deforestation is caused by forest clearing for the palm oil Industry, which has cleared 18 million hectares of forest for palm oil expansion. Palm oil expansion requires land reallocation as well as changes to the local and natural ecosystems. Palm oil expansion can generate wealth for local communities if done right. If down wrong it can degrade ecosystems and cause social conflicts.[113]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประชากรสูงของอินโดนีเซียและทวีความรุนแรงมากอย่างรวดเร็วปัจจุบันร้ายแรงปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งมักจะให้ความสำคัญต่ำกว่าระดับสูงความยากจนและอ่อนแอ resourced ภายใต้การกำกับดูแลกิจการ[109] ปัญหารวมถึงการทำลายป่าขนาดใหญ่ (มากของมันไม่ถูกต้อง) และ wildfires ที่เกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดหมอกควันหนากว่าส่วนของอินโดนีเซีย มาเลเซีย และ สิงคโปร์ ตะวันตก ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเล มากกว่า สิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ มลพิษอากาศ จราจรที่ติดขัด การ จัดการขยะ และน้ำเชื่อ และน้ำเสียบริการและความเป็นเมืองอย่างรวดเร็ว[109] ตัดไม้ทำลายป่าและทำลาย peatlands ให้อินโดนีเซียตัวส่งที่สามที่ใหญ่ที่สุดในโลกของก๊าซเรือนกระจกความอยู่รอดของพันธุ์พื้นเมือง และยุง รวมพันธุ์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ระบุโดยโลกอนุรักษ์ร่วม (เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ) เป็นคุกคาม 140 และ 15 เป็นเหลือใกล้สูญพันธุ์ นกกิ้งโครงบาหลี, [111] รวมทั้งข่มขู่ทำลายถิ่นฐานธรรมชาติ [110] อุรังอุตังสุมาตรา, [112] และ แรดชวา[111] เกิดจากล้างน้ำมันปาล์มอุตสาหกรรม ป่าการทำลายป่ามากของอินโดนีเซีย ซึ่งได้เลือก 18 ล้านไร่ป่าสำหรับการขยายตัวของน้ำมันปาล์ม ปาล์มน้ำมันขยายตัวต้องการปันส่วนที่ดิน ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศในท้องถิ่น และธรรมชาติ ปาล์มน้ำมันขยายตัวสามารถสร้างให้เลือกมากมายในชุมชนถ้าสิ่งที่ถูก ถ้าลงไม่ถูกต้อง จะสามารถย่อยสลายระบบนิเวศ และเกิดความขัดแย้งทางสังคม[113]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อินโดนีเซียประชากรสูงและอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วในปัจจุบันปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรงซึ่งมักจะให้ความสำคัญลดลงเนื่องจากระดับความยากจนสูงและอ่อนแอภายใต้ทรัพยากรธรรมาภิ. [109] ปัญหารวมถึงการตัดไม้ทำลายป่าขนาดใหญ่ (มากของมันผิดกฎหมาย) และไฟป่าที่เกี่ยวข้องกับการก่อให้เกิด หมอกควันหนักกว่าส่วนของภาคตะวันตกของอินโดนีเซียมาเลเซียและสิงคโปร์ มากกว่าการแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเล; และปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็วและการพัฒนาเศรษฐกิจรวมทั้งมลพิษทางอากาศการจราจรแออัดการจัดการขยะและน้ำมีความน่าเชื่อถือและการบริการน้ำเสีย. [109] ตัดไม้ทำลายป่าและการทำลายป่าพรุทำให้อินโดนีเซียอีซีแอลที่ใหญ่ที่สุดอันดับสามของโลกของก๊าซเรือนกระจก. [ 110] ที่อยู่อาศัยถูกทำลายคุกคามความอยู่รอดของสายพันธุ์พื้นเมืองและเฉพาะถิ่นรวมถึง 140 สายพันธุ์ที่เลี้ยงลูกด้วยนมระบุสหภาพอนุรักษ์โลก (IUCN) ว่าเป็นภัยคุกคามและ 15 ระบุว่าเป็นอันตรายรวมทั้งบาหลีสตาร์ลิ่ [111] อุรังอุตังสุมาตรา [112] และแรดชวา. [111] มากตัดไม้ทำลายป่าของอินโดนีเซียเกิดจากการล้างป่าสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มที่มีการล้าง 18 ล้านเฮคเตอร์ของป่าสำหรับการขยายตัวน้ำมันปาล์ม การขยายตัวของน้ำมันปาล์มต้องจัดสรรที่ดินรวมทั้งการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศในท้องถิ่นและเป็นธรรมชาติ การขยายตัวของน้ำมันปาล์มที่สามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับชุมชนท้องถิ่นหากทำถูกต้อง หากไม่ถูกต้องลงก็สามารถลดระบบนิเวศและทำให้เกิดความขัดแย้งทางสังคม. [113]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อินโดนีเซียสูงประชากรและอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ร้ายแรงซึ่งมักจะให้ความสำคัญต่ำลงจากระดับความยากจนสูงและอ่อนแอ ภายใต้ปกครองผู้อื่น ประเด็น [ 109 ] รวมถึงป่าไม้ขนาดใหญ่มาก มันผิดกฏหมาย ) และที่ก่อให้เกิดหมอกควันไฟป่าหนักกว่าส่วนตะวันตกของอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ผ่านการใช้ประโยชน์ของทรัพยากรทางทะเล และปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างรวดเร็วทางเศรษฐกิจ ได้แก่ มลพิษในอากาศ การจราจรแออัด การจัดการขยะ และน้ำที่น่าเชื่อถือและบริการบำบัดน้ำเสีย [ 109 ] การตัดไม้ทำลายป่า และการทำลายของ Peatlands ให้อินโดนีเซียของโลกที่สามที่ใหญ่ที่สุดในหัวปล่อยก๊าซเรือนกระจก[ 110 ] ทำลายสิ่งแวดล้อมคุกคามความอยู่รอดของประเทศ และเฉพาะถิ่นชนิด รวมถึง 140 ชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ระบุโดยสหภาพการอนุรักษ์โลก ( IUCN ) เป็นการข่มขู่ และ 15 ที่ระบุว่าเป็นวิกฤตที่ใกล้สูญพันธุ์ ได้แก่ นกสตาร์ลิ่งบาหลี [ 111 ] ลิงอุรังอุตังสุมาตรา [ 112 ] และแรดชวา [ 111 ] มากของอินโดนีเซียป่าไม้คือ เกิดจาก ถางป่า ปาล์ม น้ำมันอุตสาหกรรมซึ่งมีความชัดเจนว่า 18 ล้านเฮคเตอร์ของป่าขยายปาล์มน้ํามัน การจัดสรรน้ำมันปาล์มต้องใช้ที่ดินรวมทั้งการเปลี่ยนแปลงไปยังท้องถิ่นและระบบนิเวศธรรมชาติ ขยายปาล์มน้ำมันสามารถสร้างความมั่งคั่งสำหรับชุมชนท้องถิ่น ถ้าทำถูกต้อง ถ้าลงผิดก็สามารถทำลายระบบนิเวศและก่อให้เกิดความขัดแย้งทางสังคม [ 113 ]