ลัทธิคอมมิวนิสต์ เป็นขบวนการปฏิบัติสังคมนิยมเพื่อสถาปนาระเบียบสังคมที่ปราศจากชนชั้น เงินและรัฐ โดยตั้งอยู่บนการเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตร่วมกัน เช่นเดียวกับอุดมการณ์ทางสังคม การเมืองและเศรษฐกิจซึ่งมุ่งสถาปนาระเบียบสังคมนี้
ความเป็นมาของ Communism
ในสมัยกรีก คอมมิวนิสต์ถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับตำนานเกี่ยวกับยุคทองของมนุษยชาติ ที่ ๆ สังคมอยู่ด้วยกันด้วยความสามัคคีปรองดองกันเสียก่อน จึงร่วมกันสร้างความงอกงามทางวัตถุในภายหลัง แต่บางคนก็แย้งว่า ตำราสาธารณรัฐ (The Republic) ของเพลโตและผลงานอื่นๆ ของนักทฤษฎีรัฐศาสตร์ในยุคโบราณ เพียงแค่สนับสนุนลัทธิคอมมิวนิสต์ในด้านการอยู่รวมกันในสังคมอย่างปรองดองเท่านั้น มีหลายลัทธิและหลายกลุ่ม ที่ปฏิบัติตามแนวคิดของลัทธิคอมมิวนิสต์ว่าด้วยการอยู่ด้วยกันเป็นสังคมและครอบครองวัตถุร่วมกัน โดยลัทธิมาร์กซ์ เป็นตัวแปลสำคัญให้คอมมิวนิสต์มีวิวัฒนาการ
ลัทธิมาร์กซ์
มาร์กซ์ กล่าวเกี่ยวกับคอมมิวนิสต์ว่า คือสิ่งที่มนุษย์ต้องการ เพราะนำมาซึ่งความหยั่งรู้ และอิสรภาพที่แท้จริง มิใช่การใช้อำนาจควบคุม แต่มีศีลธรรมด้วยตัวเอง และเมื่อทุกคนชนชั้นเท่าเทียม ก็จะไม่มีใครคิดจะแสวงหาผลประโยชน์ซึ่งแตกต่างจาก เฮเกลคิดถึงการใช้ชีวิตตามหลักจรรยา ผ่านมโนภาพที่ยิ่งใหญ่ แต่สำหรับมาร์กซ์แล้ว คอมมิวนิสต์นั้นเกิดขึ้นได้จากวัตถุและผลิตผล โดยเฉพาะการพัฒนารายได้ที่ประชาชนจะได้รับจากการผลิต สรุปคือ ลัทธิมาร์กซ์ เชื่อในการอยู่ร่วมกันอย่างสามัคคีในสังคม
ข้อดีข้อเสียของคอมมิวนิสต์
คอมมิวนิสต์สามารถแก้ไข้ปัญหาในประเทศได้อย่างรวดเร็ว และทำให้ประชาชนอยู่เสมอภาคกันมากขึ้น แต่ข้อเสียที่เห็นได้ชัดคือประเทศขาดการพัฒนา เกิดการต่อต้านเพราะประชาชนรู้สึกถูกกดขี่ ขัดขวางเสรีภาพ เศรษฐกิจถดถอย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็มีประเทศที่กลายมาเป็นมหาอำนาจเพราะเล็งเห็นความสำคัญของระบบคอมมิวนิสต์ เช่น จีนเป็นต้น