After the Ayudthaya era, King Taksi

After the Ayudthaya era, King Taksin (1767-1782) reigned over a transitional kingdom at Thonburi(opposite the present day Bangkok). The most distinguishing feature of Rattanakosin (Bangkok) era coins is the mark of the chakra , the Buddhist Wheel of Law and symbol of the Chakri Dynasty. Ninety-five percent of Bangkok coins have the chakra as a dynastic mark, plus another personal mark. The stamping of the marks was done with the newly made bullet coin held in a mold in an elephant bone. Elephant bone was used because wood was too soft and would split, and iron was too hard and would flatten the coin.
Ayudhya Bullet MoneyThe old Thai monetary units were complicated. The largest denomination was a chung , that was used only for accounting purposes. Twenty tamlueng equaled one chung, four baht equaled one tamlueng , four salueng equaled one baht and two feungsequaled one salueng with further breakdowns into seeg ziew or paiutt and solot This system prevailed until 1897, when it was replaced with the current system of baht and satang (one hundred satang equals one baht).
Cowry shells from the Mekong River had been used as currency for small amounts since the Sukhothai period. Rama III (1824-1851) was the first king to consider the use of a flat coin. He did so not for the convenience of traders, but because he was disturbed that the creatures living in the cowry shells were killed. When he learned of the use of flat copper coins in Singapore in 1835, he contacted a Scottish trader, who had two types of experimental coins struck in England. However, the king rejected both designs. The name of the country put on these first coins wasMuang Thai , not Siam.
Flat coins were finally introduced for use in the Kingdom during the reign of King Mongkut, Rama IV (1851-1868), although bullet coins were still produced during the early years of his reign. The manufacture of bullet coins was slow; only 240 coins in a day could be produced by a single group of craftsmen. But commerce and trade were on the increase, creating a great need for more coins. A lot of poorly stamped and hammered bullet money was made during this time because the artisans were under constant pressure to speed up their work. Two experimental series of flat coins were issued, but the production of these coins by hand was even slower. Large numbers of foreign coins were coming into the Kingdom at this time, and the normal practice was to melt them down and manufacture bullet coins. This procedure was time-consuming, so King Rama IV issued a decree legalizing the use of foreign coins.
Thonburi Bullet MoneyMexican coins were especially popular for international use because Mexico was the biggest silver producer in the world, and large numbers of coins were exported, especially to China.Many merchants in Thailand were reluctant to accept the foreign silver coins, even after the Royaldecree in November 1857 that made the foreign coins legal tender. Because of this lack of acceptance, the king issued another decree, this time ordering the counter-stamping of the chakra and the crown on the Mexican coins. These markings clearly made them Thai coins. They soon became so popular and desired as jewelry that another decree was issued to prohibit the use of foreign coins as children's ornaments.
Also in 1857, England's Queen Victoria became aware of the coin shortage in Thailand and sent King Rama IV a coining machine as a gift. This was used to produce the first machine-made Thai coins. The first series of coins in gold and silver have the chakra and elephant on one side and the crown on the other. Stars are used to show the denominations. Because the machine was a gift, these are known asbanagarn (royal gift) coins. The machine was hand operated, so only a small total of coins was actually issued. The king was impressed by the minting technology, so he ordered a new minting machine from England, which cost three thousand pounds, and included an engineer's services as part of the purchase agreement. The machine arrived in Bangkok in 1858, but the engineer unfortunately died on arrival. Two replacement engineers were sent; one drowned, but the other set the minting machine up before he also died. Fortunately he had time to train a Thai engineer who was able to carry on.
Rattanakosin (Bangkok) Bullet MoneyKing Rama V continued the manufacture of flat coins and an occasional commemorative issue of bullet coins. In 1876 King Rama V introduced the first Thai coin with a king's portrait. This required special assurances to the people that they could handle the coins and put them in cash boxes without being guilty of lese majesty. To make sure policemen were not overzealous, the king proclaimed that any policeman arresting a person for this offense would himself be punished. Bullet coins continued in use for many years, and were finally withdrawn from circulation in October 1904. Thailand can be proud of its old coins, a heritage that proves that a monetary system has existed here for many centuries. Ancient coins, although becoming scarce, can still be found in the antique shops of Chiangmai. The constant shifting over the centuries of empires, tribes and colonial powers vying for power and influence, each imposing their own currencies, has produced a little known numismatist's delight. Silver coins, because of their importance in hill tribe costumes, can also still be found. Other finds include rupees from India and Burma, coins of the old Indo-Chinese French empire, American silver dollars, and the highly prized silver Mexican peso.For collectors of old coins, Chiangmai has an old coin museum (Mint Bureau of Chiangmai or Sala Thanarak , Treasury Department, Ministry of Finance) on Rajdamnern Road (one block away fromAUA) open to the public during business hours.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจากยุคที่จังหวัดอยุธยา พระเจ้าตากสิน (ปัจจุบันเป็นตำบลหนึ่ง-1782) reigned เหนือราชอาณาจักรอีกรายการที่ธนบุรี (ตรงข้ามวันอยู่กรุงเทพมหานคร) คุณลักษณะแตกต่างมากที่สุดของเหรียญยุครัตนโกสินทร์ (กรุงเทพ) เป็นเครื่องหมายของจักระ ล้อ กฎหมายพระพุทธศาสนา และสัญลักษณ์ของราชวงศ์จักรี ร้อยละ 90 5 เหรียญกรุงเทพจักระเป็นเครื่อง dynastic บวกเครื่องหมายที่บุคคลอื่นได้ ปั๊มเครื่องหมายถูกทำ ด้วยเหรียญสัญลักษณ์ใหม่ทำในแม่พิมพ์ในการกระดูกช้าง กระดูกช้างถูกใช้เนื่องจากไม้อ่อนเกินไปจะแยก และเหล็กยากเกินไป และจะแผ่เหรียญ MoneyThe กระสุนกรุงศรีอยุธยาเก่าไทยเงินหน่วยที่ซับซ้อน หน่วยที่ใหญ่ที่สุด chung ที่ใช้เฉพาะสำหรับวัตถุประสงค์ทางบัญชี ชุหนึ่งตอนยี่สิบตำลึง สี่บาทตอนหนึ่งตำลึง salueng สี่ตอนหนึ่งบาทและสอง feungsequaled salueng เดียวกับแบ่งเพิ่มเติม seeg ziew หรือ paiutt และ solot ที่ระบบนี้แผ่ขยายไปจนถึง 1897 เมื่อมันถูกแทนที่ ด้วยระบบปัจจุบันบาทและสตางค์ (สตางค์หนึ่งร้อยเท่ากับ 1 บาท)Cowry เชลล์จากแม่น้ำโขงได้รับการใช้เป็นสกุลเงินสำหรับเงินมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย พระราม III (1824-1851) เป็นกษัตริย์องค์แรกในการพิจารณาการใช้เหรียญแบน พระองค์ไม่ดังนั้นเพื่อความสะดวกของผู้ค้า แต่เพราะว่า ถูกฆ่าสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในเปลือกหอย cowry disturbed เมื่อเขาได้เรียนรู้การใช้เหรียญทองแดงแบนในสิงคโปร์ในปีค.ศ. 1835 เขาติดต่อสก็อตผู้ประกอบการ ที่มีสองชนิดทดลองเหรียญหลงในอังกฤษ อย่างไรก็ตาม กษัตริย์ปฏิเสธทั้งสองแบบ ชื่อของประเทศเหล่านี้แรกเหรียญ wasMuang ไทย สยามไม่ใส่เหรียญแบนได้ในที่สุดแนะนำสำหรับใช้ในราชอาณาจักรในรัชสมัยของสมเด็จพระจอมเกล้า ราม (1851-1868), แม้กระสุนเหรียญยังคงผลิตในช่วงปีแรก ๆ ของพระองค์ การผลิตเหรียญย่อยได้ช้า สามารถผลิตเพียง 240 เหรียญในวันเดียว โดยช่างฝีมือ แต่ธุรกิจการค้าได้เพิ่มมาก สร้างเหรียญเพิ่มเติมต้องดี งานแสตมป์ และมือกระสุนเงินจำนวนมากทำการในช่วงเวลานี้เนื่องจากช่างฝีมืออยู่ภายใต้ความดันคงที่เพื่อเร่งการทำงาน ชุดทดลองสองเหรียญแบนนำออกใช้ แต่ผลิตเหรียญเหล่านี้โดยตรงยังช้า เหรียญต่างประเทศจำนวนมากมาในราชอาณาจักรครั้งนี้ และการฝึกปกติละลายพวกเขาลง และผลิตเหรียญสัญลักษณ์นั้น ขั้นตอนนี้ได้เวลา ดังนั้นรัชกาลออกกฤษฎีกาที่ legalizing ใช้เหรียญต่างประเทศ เหรียญ MoneyMexican ย่อยธนบุรีได้รับความนิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนานาชาติเนื่องจากเม็กซิโก ผลิตเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเหรียญจำนวนมากถูกส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ China.Many พ่อค้าในไทยก็ไม่ยอมรับเงินเหรียญต่างประเทศ แม้หลังจาก Royaldecree ในเดือนพฤศจิกายนค.ศ. 1857 ที่ทำเงินเหรียญต่างประเทศตามกฎหมาย เนื่องจากการขาดการยอมรับ กษัตริย์ออกพระราชกำหนดอื่น ขณะนี้สั่งการทวนประทับจักระและมงกุฎบนเหรียญเม็กซิกัน เครื่องหมายเหล่านี้ชัดเจนได้ให้เหรียญไทย พวกเขาเร็ว ๆ นี้กลายเป็นยอดนิยม และต้องเป็นเครื่องประดับที่ออกพระราชกฤษฎีกาอีกไม่ใช้เหรียญต่างประเทศเป็นเครื่องประดับของเด็ก ดังนั้นนอกจากนี้ในค.ศ. 1857 สมเด็จพระบรมราชินีนาถวิกตอเรียของอังกฤษเริ่มตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนของเหรียญในประเทศไทย และรัชกาลเครื่อง coining เป็นของขวัญต่าง ๆ นี้ถูกใช้ในการผลิตแรกทำเครื่องไทยเหรียญ ชุดแรกเหรียญทองและเงินมีจักระและช้างด้านหนึ่งและมงกุฎอื่น ๆ ดาวใช้แสดงหน่วยการ เพราะเครื่อง เป็นของขวัญ เหล่านี้จะเรียกว่า asbanagarn (หลวงขวัญ) เหรียญ เครื่องมือในการดำเนินการ เท่านั้นขนาดเล็กจำนวนเหรียญจริงออกได้ กษัตริย์ประทับใจ โดยเทคโนโลยี minting ดังนั้นเขาสั่งเครื่อง minting ใหม่จากอังกฤษ ต้นทุน สามพันปอนด์ และรวมบริการของวิศวกรเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการซื้อ เครื่องมาถึงกรุงเทพในค.ศ. 1858 แต่วิศวกรแต่ตายมาถึง มีส่งวิศวกรแทนสอง หนึ่งจม แต่อีกตั้งเครื่อง minting ก่อนเขาตาย โชคดีที่เขามีเวลาฝึกวิศวกรไทยผู้สืบทอด รัตนโกสินทร์ (กรุงเทพ) กระสุน MoneyKing จุลจอมเกล้าต่อผลิตเหรียญแบนและปัญหาย่อยเหรียญที่ระลึกเป็นครั้งคราว ใน 1876 รัชกาลนำเหรียญไทยแรก ด้วยภาพของพระ นี้จำเป็นต้องพิเศษเพื่อคนที่พวกเขาสามารถจัดการเหรียญ และใส่ในกล่องเงินสดโดยไม่เป็นความผิดของพระเฉลี่ย ให้แน่ใจว่า ทนายสมชายไม่ overzealous พระมหากษัตริย์ประกาศว่า ตำรวจมีการจับกุมผู้กระทำความผิดนี้สำหรับจะตัวเองถูกลงโทษ เหรียญย่อยในใช้เวลาหลายปี และสุดท้ายถูกถอนจากการหมุนเวียนใน 1904 ตุลาคม ประเทศไทยสามารถเป็นความภาคภูมิใจของเหรียญเก่า มรดกที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ระบบการเงินมีอยู่ที่นี่หลายศตวรรษ เหรียญโบราณ แม้ว่าเป็นสิ่งที่หายาก ยังสามารถพบได้ในร้านขายของโบราณของเชียงใหม่ คงขยับผ่านศตวรรษอาณาจักร ชนเผ่า และอำนาจอาณานิคม vying สำหรับนาย สกุลเงินของตนเอง แต่ละสถานะมีผลิตน้อยรู้จักความสุขของ numismatist เหรียญ เนื่องจากความสำคัญในเครื่องแต่งกายชาวเขา นอกจากนี้ยังสามารถพบ ค้นหาอื่น ๆ รวมรูปีจากอินเดียและพม่า เหรียญเก่าอินโด-จีนฝรั่งเศสจักรวรรดิ เงินอเมริกันดอลลาร์ และเปโซเม็กซิโกของเงิน prized สูง สำหรับสะสมของเก่าเหรียญ เชียงใหม่ได้พิพิธภัณฑ์เหรียญเก่า (สำนักงานเชียงใหม่มิ้นท์หรือศาลา Thanarak กระทรวง กระทรวง) บนถนนราชดำเนิน (บล็อกหนึ่งเก็บ fromAUA) เปิดให้ประชาชนในระหว่างเวลาทำการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังอยุธยาสมัยพระเจ้าตากสิน ( 1767-1782 ) ปกครองอาณาจักรเดียวที่ธนบุรี ( ตรงข้ามกับปัจจุบัน กรุงเทพฯ ) มากที่สุดคุณลักษณะที่แตกต่างของกรุงรัตนโกสินทร์ ( กรุงเทพฯ ) เหรียญยุคเป็นเครื่องหมายของจักระ , พุทธ ธรรมจักรสัญลักษณ์แห่งราชวงศ์จักรี เก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของเหรียญ กรุงเทพ มีจักระเป็นเครื่องหมายของราชวงศ์ บวกอีก ส่วนตัวมาร์คที่ประทับของเครื่องหมายที่ทำกับใหม่ทำให้กระสุนเหรียญจัดขึ้นในแม่พิมพ์ในกระดูกช้าง . ใช้กระดูกช้าง เพราะไม้ก็อ่อนเกินไปและจะแยก และเหล็กก็ยากเกินไป และจะทำให้เหรียญ
อยุธยา กระสุน moneythe เก่าไทยปรับหน่วยได้ซับซ้อน นิกายใหญ่ คือ ชุง ที่ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการบัญชียี่สิบตำลึง ตอนหนึ่ง ชัง สี่บาท เท่ากับ 1 ตำลึง สี่ salueng เท่ากับหนึ่งล้านบาท และ 2 feungsequaled หนึ่ง salueng กับ breakdowns ต่อไปซีคซิ่วหรือ paiutt โสฬสและระบบนี้ก็จน กล่าวคือ เมื่อมันถูกแทนที่ด้วยระบบปัจจุบันของบาทและสตางค์ ( 100 สตางค์ เท่ากับ 1 บาท ) .
เบี้ยหอยจากแม่น้ำโขงได้ถูกใช้เป็นสกุลเงินสำหรับจำนวนเงินขนาดเล็กตั้งแต่สมัยสุโขทัย พระราม 3 ( 1824-1851 ) คือกษัตริย์องค์แรก เพื่อพิจารณาการใช้ เป็นเหรียญแบน เขาทำงั้นเพื่อความสะดวกของผู้ค้า แต่เพราะเขาสงสัยว่าสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในเปลือกหอยเบี้ย ถูกฆ่าตาย เมื่อเขาเรียนรู้การใช้ทองแดงเหรียญสิงคโปร์ ในปี 1835 ,เขาติดต่อพ่อค้าชาวสก็อตที่มีสองประเภทของเหรียญ 2 ขีด ในอังกฤษ อย่างไรก็ตาม กษัตริย์ปฏิเสธทั้งการออกแบบ ชื่อของประเทศเหล่านี้ก่อนใส่เหรียญ wasmuang ไทย ไม่ใช่สยาม
เหรียญแบนในที่สุดก็แนะนําเพื่อใช้ในราชอาณาจักรในช่วงรัชสมัยของพระจอมเกล้า ถนนพระราม 4 ( 1851-1868 ) แต่เหรียญ กระสุนยังผลิตในช่วงปีแรกแห่งรัชกาลของพระองค์การผลิตเหรียญแสดงช้า เพียง 240 เหรียญในวันอาจจะผลิตโดยกลุ่มเดียวของช่างฝีมือ แต่พาณิชย์และการค้าที่เพิ่มขึ้น , การสร้างความต้องการที่ดีสำหรับเหรียญ มากของงานและกระสุนเงินตอกประทับได้ในเวลานี้ เพราะช่างฝีมืออยู่ภายใต้ความดันคงที่เพื่อเพิ่มความเร็วในการทำงานของพวกเขาสองชุดทดลองของเหรียญแบนออก แต่การผลิตของเหรียญเหล่านี้ โดยมือก็ยิ่งช้าลง ตัวเลขขนาดใหญ่ของเหรียญต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักร ณ เวลานี้ และปกติก็จะละลายพวกเขาลงและการผลิตเหรียญ กระสุน ขั้นตอนนี้ใช้เวลานาน ดังนั้น รัชกาลที่ 5 ออกพระราชกฤษฎีกา Legalizing ใช้เหรียญต่างประเทศ
ธนบุรี กระสุน moneymexican เหรียญเป็นที่นิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานระหว่างประเทศเนื่องจากเม็กซิโกเป็นผู้ผลิตเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก และตัวเลขขนาดใหญ่ของเหรียญถูกส่งออก โดยเฉพาะจีน ร้านค้าหลายแห่งในประเทศไทยไม่เต็มใจที่จะยอมรับเหรียญเงินต่างประเทศ แม้หลังจาก royaldecree ในพฤศจิกายน 1857 ที่ทำเหรียญต่างประเทศตามกฎหมาย .เพราะขาดการยอมรับ ทรงออกกฤษฎีกาอีก คราวนี้สั่งเคาน์เตอร์ที่ประทับของจักรและมงกุฎบนเหรียญเม็กซิกัน เครื่องหมายเหล่านี้อย่างชัดเจน ให้เหรียญไทย พวกเขาเร็ว ๆนี้กลายเป็นที่นิยมดังนั้นและต้องการเป็นเครื่องประดับที่กฤษฎีกาอีก ออกให้ ห้ามใช้เหรียญต่างประเทศเป็นเครื่องประดับของเด็ก .
ใน 1857อังกฤษราชินีวิคตอเรียเริ่มตระหนักถึงของเหรียญขาดแคลนในประเทศไทย และส่ง รัชกาลที่ 4 เป็นเครื่องสร้างให้เป็นของขวัญ นี้ถูกใช้ในการผลิตครั้งแรกเครื่องไทยเหรียญ ชุดแรก เหรียญสีทอง และสีเงิน มีจักระ และช้างในด้านหนึ่งและมงกุฎบนอื่น ๆ ดาวจะใช้เพื่อแสดงนิกาย . เพราะ เครื่อง เป็น ของขวัญเหล่านี้เป็นที่รู้จักกัน asbanagarn ( ของขวัญหลวง ) เหรียญ ซึ่งเครื่องมือผ่าตัด ดังนั้นเพียงขนาดเล็กทั้งหมดของเหรียญก็ออก กษัตริย์ประทับใจในการที่เทคโนโลยี เขาจึงสั่งให้ใหม่ การที่เครื่องจากอังกฤษ ซึ่งค่าใช้จ่ายสามพันปอนด์ และรวมของวิศวกรบริการเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาซื้อ เครื่องมาถึงกรุงเทพฯ ใน 1858 ,แต่วิศวกรโชคร้ายตายเมื่อเดินทางมาถึง สองวิศวกรแทนถูกส่ง ; หนึ่งจมน้ำตาย แต่อื่น ๆ ตั้งค่าเหรียญเครื่องขึ้นก่อนที่เขาจะเสียชีวิตด้วย โชคดีที่เขามีเวลาฝึกวิศวกรไทยที่ได้ดำเนินการ
กรุงรัตนโกสินทร์ ( กรุงเทพฯ ) กระสุน moneyking จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอย่างต่อเนื่องในการผลิตเหรียญแบนและเป็นครั้งคราว ออกเหรียญที่ระลึก กระสุนในค.ศ. 1876 รัชกาลที่ 5 ให้เหรียญไทย ครั้งแรกกับพระบุคคล นี้ต้องรับรองพิเศษเพื่อคนที่พวกเขาจะจัดการกับเหรียญและใส่ไว้ในกล่องเงินสดโดยไม่มีความผิดของพระบรมเดชานุภาพ . เพื่อให้แน่ใจว่า ตำรวจไม่ได้ overzealous พระราชาประกาศว่าตำรวจจับคน สำหรับความผิดนี้เองก็ถูกลงโทษเหรียญ กระสุนยังใช้หลายปี และในที่สุดก็ถอนออกจากการไหลเวียนในเดือนตุลาคมปี 1904 . ประเทศไทยสามารถภาคภูมิใจของเหรียญเก่าแก่ เป็นมรดกที่พิสูจน์ว่าระบบการเงินที่มีอยู่มาเป็นเวลาหลายศตวรรษ เหรียญโบราณ แต่เป็นบาง ยังสามารถพบได้ในร้านค้าโบราณ เชียงใหม่ คงเปลี่ยนมาเป็นศตวรรษของอาณาจักรชนเผ่าและอาณานิคมพลัง vying สำหรับอำนาจและอิทธิพลในแต่ละการกำหนดสกุลเงินของตนเอง , มีการผลิตน้อยรู้จักทอดที่ก็สุขใจ เหรียญเงิน เพราะความสำคัญของพวกเขาในชุดชาวเขา ยังสามารถถูกค้นพบได้ พบอื่น ๆรวมถึงรูปี จากอินเดีย และพม่า เหรียญเก่าของอินโดจีนฝรั่งเศสจักรวรรดิอเมริกันเงินดอลลาร์และ prized สูงเงินเม็กซิกันเปโซสำหรับนักสะสมเหรียญเก่า เชียงใหม่มีพิพิธภัณฑ์เหรียญเก่า ( มิ้นท์ สำนักจังหวัดเชียงใหม่หรือศาลาธนรักษ์ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ) บนถนนราชดำเนิน ( หนึ่งบล็อกไป fromaua ) เปิดให้ประชาชนในช่วงชั่วโมงธุรกิจ .