On-the-job training, sometimes call

On-the-job training, sometimes called direct instruction (or sit-by-me training in England; King, 1964, p. xvii), is the earliest kind of training. On-the-job training (OJT) is a face-to-face, one-on-one kind of training at the job site, where someone who knows how to do a task shows another how to do it. In antiquity, the kind of work that people did was mainly unskilled or semiskilled work not requiring specialized knowledge. Parents or other members of the group usually knew how to do all the jobs necessary for survival, and could pass their knowledge on to the children through direct instruction.
OJT was used in antiquity because it did not require learners to be able to read or write. Even after writing systems were developed, most peasants and craftsmen could not read or write. Therefore a type of training where one person showed another how to do a task was necessary. The type of work most people did was farming or making crafts, and the tools used were fairly simple. In addition, the volume of production was low, so that only a few artisans at a time needed to be trained in order to handle the work.
On-the-job training is still used today. In fact, it is probably the most popular method of training because at its minimal level it requires only a person who knows how to do the task, and the tools the person uses to do the task. The company doesn't have to arrange for special training other than to assign an experienced worker to train an inexperienced one. It may not be the most effective or the most efficient method, but it is the easiest to arrange.
The advantages of on-the-job training include instant feedback about what the learner is doing right or wrong, allowing correction of the erroneous action immediately. Because the training takes place on the job, it is realistic, therefore no transfer of learning is required. It is inexpensive because no special equipment is needed other than what is normally used on the job.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฝึกอบรมแรง บางครั้งเรียกว่าคำแนะนำโดยตรง (หรือนั่งโดยฉันฝึกอังกฤษ คิง 1964, p. xvii), เป็นชนิดแรกสุดของการฝึกอบรม ฝึกอบรมแรง (OJT) เป็นชนิดลมี แพ็คเกจของการอบรมในไซต์งาน ซึ่งคนที่รู้วิธีการทำงานแสดงอีกวิธีที่ ในโบราณ ชนิดของงานที่คนไม่ได้เป็นส่วนใหญ่ขาดทักษะ หรือ semiskilled ทำงานที่ไม่ต้องใช้ความรู้ ผู้ปกครองหรือสมาชิกของกลุ่มมักจะรู้วิธีการทำงานทั้งหมดจำเป็นเพื่อความอยู่รอด และสามารถส่งผ่านความรู้สู่เด็กโดยใช้คำสั่งโดยตรงOJT ถูกใช้ในโบราณเนื่องจากไม่ต้องการเรียนสามารถอ่าน หรือเขียน แม้หลังจากที่มีพัฒนาระบบการเขียน ช่างฝีมือและชาวนาส่วนใหญ่ไม่สามารถอ่าน หรือเขียนได้ ดังนั้น ชนิดของการฝึกอบรมที่บุคคลหนึ่งแสดงให้เห็นว่าอีกวิธีการทำงานจำเป็น ชนิดของงานที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ทำฟาร์ม หรือทำงานฝีมือ และเครื่องมือที่ใช้ได้ค่อนข้างง่าย ปริมาณการผลิตต่ำ ให้เท่ากี่ช่างฝีมือในแต่ละครั้งต้องได้รับการอบรมการจัดการงานฝึกอบรมแรงวันนี้ยังใช้ ในความเป็นจริง ได้คงวิธีการฝึกอบรมนิยมมากที่สุดเนื่องจากในระดับน้อยที่สุด มันต้องเฉพาะบุคคลที่รู้วิธีการทำงาน และเครื่องมือที่บุคคลใช้ในการทำงาน บริษัทไม่ต้องจัดพิเศษฝึกอบรมเป็นการกำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์การฝึกเป็นส่วนหนึ่งของมือใหม่ อาจจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดหรือวิธีมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่ก็ง่ายในการจัดข้อดีของการฝึกอบรมแรงรวมผลป้อนกลับทันทีเกี่ยวกับการเรียนอะไรจะทำขวาหรือไม่ถูกต้อง ช่วยให้การแก้ไขของการดำเนินการที่ผิดพลาดทันที เนื่องจากการฝึกอบรมจะทำงาน เป็นจริง ดังนั้น การถ่ายโอนการเรียนรู้เป็นสิ่งจำเป็น มีราคาไม่แพงเนื่องจากจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษไม่ใช่สิ่งปกติที่ใช้ในงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การฝึกอบรมในงาน บางครั้งเรียกว่าการสอนโดยตรง ( หรือนั่งข้างๆฉันฝึกในอังกฤษ ; กษัตริย์ , 2507 , หน้า 15 ) เป็นชนิดที่เก่าที่สุดของการฝึกอบรม การฝึกอบรมในงาน ( OJT ) เป็นชนิดของการฝึกอบรมแบบตัวต่อตัวที่ไซต์งาน ซึ่งคนที่รู้วิธีการทำงานแสดงให้เห็นอีกว่าต้องทำยังไง ในสมัยโบราณ ,ประเภทของงานที่คนส่วนใหญ่ทำคือไร้ฝีมือหรือ semiskilled ทำงานไม่ต้องใช้ความรู้พิเศษ พ่อแม่หรือสมาชิกคนอื่น ๆของกลุ่มมักจะรู้วิธีการทำงานทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการอยู่รอด และสามารถส่งผ่านความรู้ไปยังเด็กที่ผ่านการสอนโดยตรง
OJT ใช้ในสมัยโบราณ เพราะไม่ต้องการให้ผู้เรียนสามารถอ่านหรือเขียนหลังจากที่เขียนระบบถูกพัฒนาชาวนามากที่สุด และหลังไม่สามารถอ่านหรือเขียน ดังนั้นชนิดของการฝึกอบรมที่คนๆ หนึ่งมีอีกวิธีการทำงานเป็นสิ่งที่จำเป็น ประเภทของงานที่คนส่วนใหญ่ทำเกษตรกรรมหรือทำศิลปะ และเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือค่อนข้างง่าย นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตต่ำดังนั้น เพียง ไม่ กี่ ช่างฝีมือ ในเวลาที่จะต้องฝึกฝนเพื่อรับมือกับการทำงาน .
ในงานยังคงใช้วันนี้ ในความเป็นจริง อาจเป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดของการฝึก เพราะที่น้อยที่สุดระดับมันต้องมีคนที่รู้วิธีการทำงาน และ เครื่องมือที่เขาใช้ทำงานบริษัทไม่ได้มีการจัดฝึกอบรม นอกจากให้คนงานที่มีประสบการณ์ในการฝึกมือใหม่หนึ่งพิเศษ มันอาจจะไม่ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดและวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่มันเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะจัด
ข้อดีของการฝึกอบรมในงานรวมถึงความคิดเห็นทันทีเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้เรียนทำถูกหรือผิด ให้แก้ไขการกระทำที่ผิดพลาดทันทีเนื่องจากการฝึกอบรมที่จะเกิดขึ้นในงาน มันมีเหตุผล จึงไม่มีการถ่ายโอนการเรียนรู้เป็นสิ่งจำเป็น มันไม่แพงเพราะไม่มีอุปกรณ์พิเศษเป็นสิ่งจำเป็นอื่นที่ปกติแล้วจะใช้ในงาน