The Iron Age is the period generall

The Iron Age is the period generally occurring after the Bronze Age, marked by the prevalent use of iron. Iron production is known to have taken place in Anatolia at least as early as 1200 BC, with some contemporary archaeological evidence pointing to earlier dates.

The early period of the age is characterized by the widespread use of iron or steel. The adoption of these materials coincided with other changes in society, including differing agricultural practices, religious beliefs and artistic styles. The Iron Age as an archaeological term indicates the condition as to civilization and culture of a people using iron as the material for their cutting tools and weapons.[1] The Iron Age is the third principal period of the three-age system created by Christian Thomsen (1788–1865) for classifying ancient societies and prehistoric stages of progress.[2]

In historical archaeology, the ancient literature of the Iron Age includes the earliest texts preserved in manuscript tradition. Sanskrit and Chinese literature flourished in the Iron Age. Other texts include the Avestan Gathas, the Indian Vedas and the oldest parts of the Hebrew Bible. The principal feature that distinguishes the Iron Age from the preceding ages is the introduction of alphabetic characters, and the consequent development of written language which enabled literature and historic record.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ยุคเหล็กเป็นระยะเวลาโดยทั่วไปเกิดขึ้นหลังจากยุคสำริด การทำเครื่องหมาย โดยการใช้ที่แพร่หลายของเหล็ก ผลิตเหล็กเป็นที่รู้จักได้ในอานาโตเลียน้อยก่อนเป็น 1200 BC กับบางสมัยหลักฐานทางโบราณคดีชี้ไปยังวันก่อนหน้านี้ระยะช่วงอายุเป็นลักษณะใช้อย่างแพร่หลายของเหล็กหรือเหล็กกล้า ของวัสดุเหล่านี้ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ในสังคม การปฏิบัติทางการเกษตรที่แตกต่าง ความเชื่อทางศาสนา และลักษณะศิลปะ ยุคเหล็กเป็นระยะทางโบราณคดีบ่งชี้ว่า เงื่อนไขที่เกี่ยวกับอารยธรรมและวัฒนธรรมของคนที่ใช้เหล็กเป็นวัสดุเครื่องมือตัดและอาวุธ [1] ยุคเหล็กเป็นระยะหลักสามระบบสามอายุสร้าง โดยคริสเตียน Thomsen (1788 – ปี 1865) สำหรับการจัดประเภทสังคมโบราณและระยะก่อนประวัติศาสตร์ของความคืบหน้า [2]ในโบราณคดีประวัติศาสตร์ วรรณคดีโบราณของยุคเหล็กมีข้อความแรกสุดในฉบับประเพณี วรรณคดีสันสกฤตและจีนเจริญรุ่งเรืองในยุคเหล็ก ข้อความอื่น ๆ รวม Gathas อเวสตะ พระ เวทของอินเดีย และส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของพระคัมภีร์ฮิบรู คุณลักษณะหลักที่ยุคเหล็กแตกต่างจากยุคก่อนหน้านี้เป็นการแนะนำของอักษร และการพัฒนาผลลัพธ์ของภาษาเขียนที่เปิดใช้งานวรรณกรรมและบันทึกทางประวัติศาสตร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ยุคเหล็กเป็นระยะเวลาโดยทั่วไปที่เกิดขึ้นหลังจากยุคสำริดโดดเด่นด้วยการใช้งานที่แพร่หลายของธาตุเหล็ก การผลิตเหล็กเป็นที่รู้จักกันว่าจะเกิดขึ้นในอนาโตเลียอย่างน้อยเป็นช่วงต้น พ.ศ. 1200 มีหลักฐานทางโบราณคดีร่วมสมัยบางอย่างที่ชี้ไปยังวันที่ก่อนหน้านี้. ช่วงแรกของอายุที่โดดเด่นด้วยการใช้อย่างแพร่หลายเหล็กหรือเหล็กกล้า การยอมรับของวัสดุเหล่านี้ใกล้เคียงกับการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ในสังคมรวมทั้งการปฏิบัติทางการเกษตรที่แตกต่างกัน, ความเชื่อทางศาสนาและรูปแบบศิลปะ ยุคเหล็กเป็นระยะทางโบราณคดีบ่งบอกถึงสภาพที่เป็นอารยธรรมและวัฒนธรรมของคนที่ใช้เหล็กเป็นวัสดุสำหรับเครื่องมือตัดและอาวุธของพวกเขา. [1] ยุคเหล็กเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สามของระบบสามอายุที่สร้างขึ้นโดยคริสเตียน ทอมเซ่น (1788-1865) สำหรับการจำแนกสังคมโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์และขั้นตอนของความคืบหน้า. [2] ในโบราณคดีประวัติศาสตร์วรรณคดีโบราณของยุคเหล็กรวมถึงข้อความที่เก่าแก่ที่สุดที่เก็บรักษาไว้ในประเพณีที่เขียนด้วยลายมือ ภาษาสันสกฤตและวรรณคดีจีนเจริญรุ่งเรืองในยุคเหล็ก ข้อความอื่น ๆ ได้แก่ อ Gathas อินเดียพระเวทและชิ้นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของพระคัมภีร์ภาษาฮิบรู คุณลักษณะที่สำคัญที่แตกต่างจากยุคเหล็กวัยก่อนหน้านี้คือการแนะนำตัวละครตัวอักษรและการพัฒนาผลเนื่องมาจากภาษาเขียนที่ใช้งานวรรณกรรมและบันทึกประวัติศาสตร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยุคเหล็กเป็นช่วงโดยทั่วไปเกิดขึ้นหลังจากยุคสำริดทำเครื่องหมายโดยการใช้แพร่หลายของเหล็ก การผลิตเหล็กเป็นที่รู้จักกันเกิดขึ้นในอนาโตเลีย อย่างน้อยก่อนพ.ศ. 1200 มีหลักฐานทางโบราณคดีร่วมสมัยชี้ไปก่อนหน้านี้วัน

ช่วงแรกของอายุเป็นลักษณะการใช้อย่างแพร่หลายของเหล็กหรือเหล็กกล้าการยอมรับวัสดุเหล่านี้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆในสังคม รวมถึงการปฏิบัติทางการเกษตรที่แตกต่างกัน ความเชื่อทางศาสนาและรูปแบบศิลปะ ยุคเหล็กเป็นระยะทางโบราณคดีบ่งบอกสภาพเป็นอารยธรรมและวัฒนธรรมของผู้คนที่ใช้เหล็กเป็นวัสดุในการตัดเครื่องมือและอาวุธ[ 1 ] ยุคเหล็กเป็นช่วงหลักที่สามของระบบที่สร้างขึ้นโดยสามยุคคริสเตียน ธอมเซ่น ( 1788 – 1865 ) เพื่อจำแนกสังคมโบราณและขั้นตอนก่อนประวัติศาสตร์ของความคืบหน้า . [ 2 ]

ในประวัติศาสตร์ โบราณคดี วรรณคดีโบราณของยุคเหล็กมีข้อความดองในประเพณีเก่าต้นฉบับ ภาษาสันสกฤตและวรรณกรรมจีนเจริญรุ่งเรืองในยุคเหล็กข้อความอื่น ๆรวมถึงอักษรอเวสตัน gathas , คัมภีร์พระเวทของอินเดียและส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของฮีบรูไบเบิล หลักคุณลักษณะที่แตกต่างจากก่อนหน้านี้ สมัยยุคเหล็ก เป็นเบื้องต้นของตัวอักษร ตัวอักษร และผลการพัฒนาของภาษาเขียนซึ่งเปิดใช้งานวรรณกรรมและบันทึกประวัติศาสตร์