การศึกษาประวัติศาสตร์ของกฎหมาย ทำให้เราทราบถึงกฎเกณฑ์และความประพฤติต่างๆเบื้องหลังตัวบทกฎหมาย ที่วิวัฒนาการมาถึงปัจจุบัน ทำให้สามารถเข้าใจการเชื่อมโยงของกฎหมายจากอดีตมายังปัจจุบันได้อย่างไร เพื่อช่วยในการตีความและการใช้กฎหมายเป็นไปโดยถูกต้อง ทำให้เกิดความเข้าใจในการใช้ตัวบทกฎหมายนั้นๆ เพราะการนำตัวบทกฎหมายในเรื่องใดมาใช้ ไม่ใช่เฉพาะการพิจารณาถ้อยคำในตัวบทกฎหมาย เท่านั้น หากแต่จะต้องพิจารณาถึงเหตุผล หรือเจตนารมณ์ แห่งบทบัญญัติควบคู่กันไปด้วย ในการนี้จำต้องอาศัยการอ่านข้อความแวดล้อมและอ่านข้อความทั้งหมด เพื่อค้นหาเหตุผลทางกฎหมาย หรือบางทีก็เรียกเจตนารมณ์หรือวิญญาณของกฎหมาย และในหลายๆกรณี การค้นหาเจตนารมณ์จำต้องพิจารณาถึงความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของบทบัญญัตินั้นๆด้วย ทั้งนี้เพราะกฎหมายไม่ได้มาจากเจตน์จำนงของบุคคลในกระบวนการนิติบัญญัติเท่านั้น หากแต่เป็นผลมาจากการวิวัฒนาการเป็นเวลานานในอดีตจนถึงปัจจุบัน การใช้กฎหมายจึงจำเป็นต้องหยั่งทราบเหตุผลในแต่ละเรื่อง
นอกจากการศึกษาประวัติกฎหมายเฉพาะเรื่องแล้ว การศึกษาประวัติศาสตร์กฎหมายยังครอบคลุมถึงการศึกษาประวัติศาสตร์กฎหมายสากลด้วย การศึกษาลักษณะนี้เป็นผลมาจากแนวความคิดที่ว่า มนุษย์มีลักษณะร่วมกันอย่างใดอย่างหนึ่ง เหตุนี้จึงนำมาอธิบายประวัติศาสตร์มนุษยชาติได้