Around 50% of people, almost all in

Around 50% of people, almost all in developing countries, rely on coal and biomass in the form of wood, dung and crop residues for domestic energy. These materials are typically burnt in simple stoves with very incomplete combustion. Consequently, women and young children are exposed to high levels of indoor air pollution every day.

There is consistent evidence that indoor air pollution increases the risk of chronic obstructive pulmonary disease and of acute respiratory infections in childhood, the most important cause of death among children under 5 years of age in developing countries. Evidence also exists of associations with low birth weight, increased infant and perinatal mortality, pulmonary tuberculosis, nasopharyngeal and laryngeal cancer, cataract, and, specifically in respect of the use of coal, with lung cancer. Conflicting evidence exists with regard to asthma. All studies are observational and very few have measured exposure directly, while a substantial proportion have not dealt with confounding. As a result, risk estimates are poorly quantified and may be biased. Exposure to indoor air pollution may be responsible for nearly 2 million excess deaths in developing countries and for some 4% of the global burden of disease.

Indoor air pollution is a major global public health threat requiring greatly increased efforts in the areas of research and policy-making. Research on its health effects should be strengthened, particularly in relation to tuberculosis and acute lower respiratory infections. A more systematic approach to the development and evaluation of interventions is desirable, with clearer recognition of the interrelationships between poverty and dependence on polluting fuels.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประมาณ 50% ของคน เกือบทั้งหมดในประเทศกำลังพัฒนา พึ่งพาถ่านหินและชีวมวลในรูปของตกค้างไม้ ขี้ และพืชพลังงานในประเทศ วัสดุเหล่านี้มักจะถูกเผาในเตาอย่างง่ายด้วยการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์มาก ดังนั้น ผู้หญิงและเด็กเล็กมีสัมผัสกับมลพิษทางอากาศในร่มทุกวันในระดับสูงมีหลักฐานที่สอดคล้องกันว่า มลพิษทางอากาศในร่มเพิ่มความเสี่ยง ของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และ การติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันในวัยเด็ก สาเหตุสำคัญของการตายในหมู่เด็กอายุในประเทศกำลังพัฒนาต่ำกว่า 5 ปี นอกจากนี้ยังมีหลักฐานของความสัมพันธ์ที่ มีน้ำหนักน้อยเมื่อคลอดทารกเพิ่มขึ้น และการตายปริกำเนิด วัณโรคปอด มะเร็งหลังโพรงจมูก และ laryngeal ต้อกระจก และ โดยเฉพาะเกี่ยวข้อง กับการใช้ถ่านหิน โรคมะเร็งปอด มีหลักฐานที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับโรคหอบหืด การศึกษาทั้งหมดมีเชิง และกระทำมากน้อยมีวัดแสงโดยตรง ในขณะที่เป็นสัดส่วนไม่ได้รบกวนด้วย เป็นผล การประเมินความเสี่ยงมีวัดได้ไม่ดี และอาจจะลำเอียง สัมผัสกับมลพิษทางอากาศภายในอาคารอาจจะรับผิดชอบเกือบ 2 ล้านเสียชีวิตเกินในประเทศกำลังพัฒนา และบาง 4% ของภาระโรคทั่วโลกมลพิษทางอากาศภายในอาคารเป็นภัยคุกคามสำคัญสากลสาธารณสุขต้องใช้ความพยายามเพิ่มขึ้นอย่างมากในด้านการวิจัยและเผย งานวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบสุขภาพควรมีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับวัณโรคและการติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันต่ำ แนวทางการพัฒนาและการประเมินผลของการแทรกแซงระบบมากขึ้นเป็นที่พึงปรารถนา การรู้จำที่ชัดเจนของ interrelationships ระหว่างความยากจนและการพึ่งพาเชื้อเพลิงมลพิษ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประมาณ 50% ของคนเกือบทั้งหมดในประเทศกำลังพัฒนาพึ่งพาถ่านหินและชีวมวลในรูปแบบของไม้มูลสัตว์และพืชตกค้างสำหรับการใช้พลังงานในประเทศ วัสดุเหล่านี้ถูกเผาโดยทั่วไปในเตาที่เรียบง่ายกับเผาไหม้ไม่สมบูรณ์มาก ดังนั้นผู้หญิงและเด็กเล็กมีการสัมผัสกับระดับสูงของมลพิษทางอากาศในร่มทุกวัน. มีหลักฐานที่สอดคล้องกันว่ามลพิษทางอากาศในร่มเพิ่มความเสี่ยงของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันในวัยเด็กสาเหตุที่สำคัญที่สุดของการเสียชีวิตในเด็กคือ อายุต่ำกว่า 5 ปีในประเทศกำลังพัฒนา และมีหลักฐานของสมาคมที่มีน้ำหนักต่ำคลอดทารกที่เพิ่มขึ้นและอัตราการตายปริกำเนิด, วัณโรคปอด, โพรงหลังจมูกและโรคมะเร็งกล่องเสียง, ต้อกระจกและโดยเฉพาะในแง่ของการใช้ถ่านหินด้วยโรคมะเร็งปอด หลักฐานที่ขัดแย้งกันอยู่ในเรื่องเกี่ยวกับโรคหอบหืดด้วย การศึกษาทั้งหมดอยู่ในการสังเกตและน้อยมากที่มีการวัดการสัมผัสโดยตรงในขณะที่สัดส่วนยังไม่ได้จัดการกับปัจจัยรบกวน เป็นผลให้ประมาณการความเสี่ยงเชิงปริมาณไม่ดีและอาจจะลำเอียง การสัมผัสกับมลพิษทางอากาศในร่มอาจจะต้องรับผิดชอบเกือบ 2 ล้านเสียชีวิตส่วนเกินในประเทศกำลังพัฒนาและสำหรับบาง 4% ของภาระโลกของโรค. มลพิษทางอากาศในร่มเป็นภัยคุกคามทางสาธารณสุขที่สำคัญระดับโลกที่กำหนดความพยายามเพิ่มขึ้นอย่างมากในพื้นที่ของการวิจัยและนโยบาย -making งานวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพที่ควรจะมีความเข้มแข็งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในความสัมพันธ์กับวัณโรคและโรคติดเชื้อเฉียบพลันระบบทางเดินหายใจลดลง วิธีการที่เป็นระบบมากขึ้นในการพัฒนาและการประเมินผลของการแทรกแซงเป็นที่น่าพอใจกับการรับรู้ที่ชัดเจนของความสัมพันธ์ระหว่างความยากจนและการพึ่งพาเชื้อเพลิงก่อให้เกิดมลพิษ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประมาณ 50% ของคนเกือบทั้งหมดในประเทศกำลังพัฒนาพึ่งพาถ่านหินและชีวมวลในรูปของมูลสัตว์และเศษไม้พืชพลังงานในประเทศ วัสดุเหล่านี้มักจะเผาในเตาง่ายด้วยการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ . ดังนั้นผู้หญิงและเด็กหนุ่มก็สัมผัสกับระดับสูงของมลพิษอากาศในอาคาร ทุก ๆวันมีหลักฐานว่ามีมลพิษทางอากาศในร่ม เพิ่มความเสี่ยงของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและโรคติดเชื้อเฉียบพลันระบบหายใจในเด็กที่สำคัญที่สุดสาเหตุการตายในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ในการพัฒนาประเทศ หลักฐานยังมีอยู่ในสมาคมที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และการตายปริกำเนิดของทารก วัณโรคในปอด ลํา และ มะเร็งกล่องเสียง , ต้อกระจก และโดยเฉพาะในส่วนของการใช้ถ่านหิน ด้วยโรคมะเร็งปอด หลักฐานที่ขัดแย้งกันอยู่เกี่ยวกับโรคหอบหืด ทั้งหมดการศึกษาสังเกตและน้อยมาก วัดแสงตรง ในขณะที่สัดส่วนมากยังไม่ได้จัดการกับ confounding . ผลประเมินความเสี่ยงงานตรวจอาจจะลำเอียง การสัมผัสกับมลพิษทางอากาศในร่มอาจจะต้องรับผิดชอบ ต่อการตายของเกือบ 2 ล้านบาท ส่วนที่เกิน ในการพัฒนาประเทศ และบาง 4 % ของภาระระดับโลกของโรคมลพิษทางอากาศในร่มเป็นหลักทั่วโลก สาธารณสุขต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากต่อความพยายามในพื้นที่ของการวิจัยและนโยบายการ . วิจัยผลกระทบต่อสุขภาพนั้นควรมีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความสัมพันธ์กับวัณโรค และระบบทางเดินหายใจ ส่วนล่างเฉียบพลัน เชื้อ เป็นระบบมากขึ้นเพื่อการพัฒนาและประเมินมาตรการเป็นที่พึงปรารถนา มีความคมชัด การรับรู้ของความสัมพันธ์ระหว่างความยากจนและการพึ่งพาซึ่งเชื้อเพลิง