Maha Thammarachathirat made Naret t

Maha Thammarachathirat made Naret the Uparaja ("viceroy") of Phitsanulok as Naresuan at the age of sixteen.

Naresuan joined his father and the King of Bago in an expedition to conquer Vientiane, the capital of the restored Lan Xang, but he contracted smallpox and had to return. He built Chankasem Palace in Ayutthaya as a residence when he visited his parents.[2]:77

In 1581, Bayinnaung died, and was succeeded by his son Nanda Bayin. The viceroy of Inwa then rebelled, forcing Nanda Bayin to call upon the viceroys of Prome, Taungoo, Chiang Mai, Vientiane, and Ayutthaya for assistance in suppressing the rebellion. Naresuan marched the Siamese armies to Bago as ordered, but was slow in arriving. This raised Nanda Bayin's suspicions, who ordered his son, the Maha Uparaja Mingyi Swa, to remain in the capital and kill Naresuan.[2]:79, 83–84

Naresuan reached Kraeng in June 1583, where he learned that Phraya Ram and Phraya Kiet had been sent by the Maha Uparat to attack Naresuan from the rear while Maha Uparat attacked from the front. Naresuan called a council, which included priests, Phraya Kiat, Phraya Ram, and other Mons. Naresuan then "poured water on the earth from a gold goblet to proclaim to the devatas in the presence of the persons assembled, that from that day forth Siam had severed friendship with Hongsawadi and was no longer in amity as of yore."[2]:85–86

Naresuan then levied the Mons to join his campaign and marched onto Bago, intending to free the Siamese families held captive there. However, Nanda Bayin had already defeated the viceroy of Innwa and was returning to his capital. Naresuan then retreated after freeing about 10,000 families. Mingyi Swa pursued with Surakamma in the advance element. The Burmese caught up with the Siamese at the Satong River. There Surakamma was killed by "the royal gun used by Somdet Phra Naresuan while crossing the Satong river". This sent the Maha Uparat's troops into a panicked retreat, prompting him to return to the capital.[2]:87–88

Naresuan then held the "ceremony of swearing allegiance" with the people of Sukhothai, drinking water from the sacred pond of Puay Si. His forces then took Sawankhalok. In 1584 Naresuan brought down all of the men from the northern provinces to the Siamese capital of Ayutthaya in preparation for the attack of the Bago army.[2]:92–93

In the same year Nanda Bayin sent two separate armies, one under his uncle the viceroy of Pathein, and another from Chiang Mai under his younger brother Noratra Mangsosri. Both were defeated in separate engagements before they could unite, and were driven back in retreat.[2]:94–98 Then in 1585, Naresuan defeated the Viceory of Chiang Mai near Pa Mok and Bang Kaeo, capturing his encampment at Ban Saket with 10,000 soldiers, 120 elephants, 100 horses, 400 boats plus arms, ammunition, and provisions.[2]:99–107

In 1586, Nanda Bayin himself led the Burmese armies to Ayutthaya and begin the fourth siege of Ayutthaya. Nanda Bayin armies laid siege to the city for five months, but failed to take the city due to an aggressive defense by Naresuan. He retreated.[2]:108–115

In 1590, Maha Thammarachathirat died and Naresuan was crowned King of Ayutthaya as Sanphet II. The Burmese army led by Phra Maha Uparat attacked Siam again, but Naresuan defeated it near Ban Khoi. The Burmese army retreated back to Bago, losing many men, elephants, horses, arms, and ammunition.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มหา Thammarachathirat ได้ Naret Uparaja ("อุปราช") ของพิษณุโลกเป็นพระนเรศวรที่อายุสิบหกสมเด็จพระนเรศวรมหาราชร่วมกับบิดาและกษัตริย์หงสาวดีถึงพิชิตเวียงจันทน์ เมืองหลวงของล้านช้างบูรณะ แต่เขาทำสัญญาฝีดาษ และมีการส่งคืน เขาสามารถสร้างพระราชวังจันทรเกษมอยุธยาเป็นที่อยู่อาศัยเมื่อเขาไปเยี่ยมพ่อแม่ของเขา [2]: 77ใน 1581, Bayinnaung เสียชีวิต และความสำเร็จ โดยบุเรงบุตร อุปราชแห่งอังแล้วเป็นกบฏ บังคับให้นันทบุเรงเรียก viceroys หรือแปร ตองอู เชียงใหม่ เวียงจันทน์ และอยุธยาสำหรับความช่วยเหลือในการปราบปรามกบฏ นเรศวรเดินกองทัพสยามไปพะโคสั่ง แต่ช้าในการเดินทางมาถึง นี้ยกบุเรงของสงสัย ที่สั่งลูกชายของเขา มหา Uparaja Mingyi Swa ยังคงอยู่ในเมืองหลวง และฆ่าพระนเรศวร [2]: 79, 83 – 84พระนเรศวรถึง Kraeng ใน 1583 มิถุนายน ที่เขาเรียนรู้ว่า พระยารามและพระยาเกียรติถูกส่งมา โดย Uparat มหาโจมตีนเรศวรจากด้านหลังในขณะที่มหา Uparat โจมตีจากด้านหน้า เรียกว่าสภามนตรี ปุโรหิต เกียรติพระยา พระยา Ram และอื่น ๆ มอนส์ซึ่ง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระนเรศวรแล้ว "เทน้ำบนโลกจากหน้าที่มีอ้างอิงทองประกาศเพื่อ devatas ในที่ที่มีคนประกอบ ว่า จากวันนั้น มาสยามได้ตัดขาดกับ Hongsawadi และอีกในทางไมตรี ณสมัยก่อนนั้น" [2]: 85 – 86นเรศวรถูกเกษตรเข้าร่วมแคมเปญของเขาแล้ว และเดินไปยังหงสาวดี ตั้งใจเพื่อครอบครัวสยามขังมี อย่างไรก็ตาม นันทบุเรงได้แล้วชนะอุปราชแห่ง Innwa และเดินทางกลับไปเมืองหลวงของเขา พระนเรศวรแล้วสภาพระส่ำหลังพ้นประมาณ 10,000 ครอบครัว Mingyi Swa ติดตามกับ Surakamma ในองค์ประกอบล่วงหน้า พม่าจับกับสยามที่แม่น้ำ Satong มี Surakamma ถูกสังหาร โดย "รอยัลปืนใช้ โดยสมเด็จพระนเรศวรในขณะที่ข้ามแม่น้ำ Satong" นี้ส่งทหารของมหา Uparat เข้าสู่รีทรีท panicked แสดงกล่องโต้ตอบเขากลับไปเมืองหลวง [2]: 87 – 88สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจัด "พิธีสาบานว่าจะจงรักภักดี" กับคนสุโขทัย ดื่มน้ำจากบ่อศักดิ์สิทธิ์ของ Puay ศรี กองกำลังของเขาแล้วเอาสวรรคโลก ใน 1584 นเรศวรมาลงทุกคนจากจังหวัดภาคเหนือไปยังเมืองหลวงสยามของอยุธยาในการเตรียมการสำหรับการโจมตีของกองทัพหงสาวดี [2]: 92 – 93ในปีเดียวกัน นันทบุเรงส่งกองทัพแยกกันสอง หนึ่งใต้ลุงอุปราช Pathein และอื่นจากเชียงใหม่ภายใต้น้อง Noratra Mangsosri ทั้งสองได้พ่ายแพ้ในปฏิบัติแยกต่างหากก่อนที่พวกเขาสามารถรวมกัน และถูกขับเคลื่อนกลับมาพักผ่อน [2]: 94 – 98 แล้วใน 1585 นเรศวรแพ้ตัว Viceory เชียงใหม่ใกล้ป่าหมอกและบางแก้ว จับเขาแยกบ้านสะเก็ดทหาร 10,000 ช้าง 120 ม้า 100, 400 บวกอาวุธ กระสุน และบทบัญญัติ [2]: 99-107ใน 1586 นันทบุเรงเองนำกองทัพพม่าไปสู่อยุธยา และเริ่มล้อมสี่ของอยุธยา กองทัพบุเรงวางล้อมเมืองห้าเดือน แต่ล้มเหลวการเมืองเนื่องจากการป้องกันเชิงรุกโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เขาสภาพระส่ำ [2]: 108-115ใน 1590 มหา Thammarachathirat เสียชีวิต และได้ครองตำแหน่งพระนเรศวรกษัตริย์อยุธยาเป็นสรรเพชญ์ II กองทัพพม่านำ โดยพระมหา Uparat โจมตีสยามอีกครั้ง แต่พระนเรศวรชนะมันใกล้บ้านข่อย กองทัพพม่าสภาพระส่ำไปพะโค สูญเสียหลายคน ช้าง ม้า แขน และกระสุน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชทำนเรศ Uparaja ( "อุปราช") พิษณุโลกเป็นนเรศวรตอนอายุสิบหก.

นเรศวรสมทบกับพ่อและพระมหากษัตริย์ของหงสาวดีในการเดินทางไปพิชิตเวียงจันทน์เมืองหลวงของการบูรณะล้านช้างของเขา แต่เขาสัญญาดาษและ ต้องกลับ พระองค์ทรงสร้างพระราชวังจันทรเกษมในอยุธยาเป็นที่อยู่อาศัยเมื่อเขาไปเยี่ยมพ่อแม่ของเขา [2]:. 77

ใน 1581, Bayinnaung เสียชีวิตและประสบความสำเร็จโดยลูกชายของพระเจ้านันทบุเรง อุปราชของอังวะแล้วกบฏบังคับให้พระเจ้านันทบุเรงจะเรียกร้องให้เป็นตัวแทนของพร็อม Taungoo, เชียงใหม่, เวียงจันทน์และอยุธยาเพื่อขอความช่วยเหลือในการยับยั้งการก่อจลาจล เดินนเรศวรกองทัพสยามไปหงสาวดีตามคำสั่ง แต่ก็ช้าในการเดินทางมาถึง นี้ยกความสงสัยของพระเจ้านันทบุเรงใครเป็นคนสั่งลูกชายของเขาพระมหา Uparaja Mingyi Swa, จะยังคงอยู่ในเมืองหลวงและฆ่านเรศวร [2]:. 79, 83-84

นเรศวรถึงแครงในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1583 ที่เขาได้เรียนรู้ว่าพระยารามและพระยา เขียดได้ถูกส่งโดยพระมหา Uparat จะโจมตีนเรศวรจากด้านหลังในขณะที่พระมหา Uparat โจมตีจากด้านหน้า นเรศวรเรียกว่าสภาซึ่งรวมถึงพระสงฆ์พระยาเกียรติพระยารามและอื่น ๆ ที่มอนส์ นเรศวรแล้ว "เทน้ำบนโลกจากถ้วยทองเพื่อประกาศให้ devatas ในการปรากฏตัวของบุคคลประกอบว่าตั้งแต่วันนั้นมาสยามตัดขาดมิตรภาพกับหงและไม่ได้อยู่ในไมตรีเป็นของสมัยก่อน." [2] : 85-86

นเรศวรแล้วเรียกเก็บมอนส์ที่จะเข้าร่วมการหาเสียงของเขาและเดินเข้าสู่หงสาวดีตั้งใจจะปลดปล่อยครอบครัวสยามจับมี แต่พระเจ้านันทบุเรงเคยพ่ายแพ้แล้วอุปราชแห่ง Innwa และกำลังจะกลับไปยังเมืองหลวงของเขา นเรศวรแล้วถอยหลังพ้นประมาณ 10,000 ครอบครัว Mingyi Swa ไล่กับ Surakamma ในองค์ประกอบล่วงหน้า พม่าติดกับสยามที่แม่น้ำ Satong มี Surakamma ถูกฆ่าตายโดย "เดอะรอยัลปืนที่ใช้โดยสมเด็จพระนเรศวรในขณะที่ข้ามแม่น้ำ Satong" นี้ได้ส่งกองกำลังมหา Uparat เข้าไปในสถานที่พักผ่อนแตกตื่นกระตุ้นให้เขากลับไปยังเมืองหลวง [2]:. 87-88

นเรศวรแล้วจัดงาน "พิธีสาบานว่าจะจงรักภักดี" กับคนสุโขทัย, น้ำดื่มจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของป๋วย ศรี กองกำลังของเขาแล้วเอาสวรรคโลก ใน 1584 นเรศวรนำมาลงทั้งหมดของคนจากจังหวัดทางภาคเหนือไปยังเมืองหลวงของสยามอยุธยาในการเตรียมการสำหรับการโจมตีของกองทัพหงสาวดี [2]:. 92-93

ในปีเดียวกันพระเจ้านันทบุเรงส่งกองทัพทั้งสองฝ่ายแยกหนึ่งภายใต้ของเขา ลุงอุปราชของ Pathein และอื่น ๆ จากเชียงใหม่ภายใต้น้องชายของเขา Noratra Mangsosri ทั้งสองได้พ่ายแพ้ในการแยกการนัดหมายก่อนที่พวกเขาจะรวมตัวกันและกำลังขับรถกลับถอย [2]:. 94-98 จากนั้นใน 1585 นเรศวรแพ้ Viceory เชียงใหม่ใกล้ป่าโมกและบางแก้วจับค่ายของเขาที่บ้านสระเกศด้วย 10,000 ทหาร 120 ช้าง 100 ม้า 400 เรือบวกอาวุธกระสุนและบทบัญญัติ [2]:. 99-107

ใน 1586 พระเจ้านันทบุเรงตัวเองนำกองทัพพม่าอยุธยาและเริ่มล้อมที่สี่ของอยุธยา กองทัพพระเจ้านันทบุเรงวางล้อมเมืองเป็นเวลาห้าเดือน แต่ล้มเหลวที่จะเอาเมืองเนื่องจากการป้องกันเชิงรุกโดยนเรศวร เขาถอย [2]:. 108-115

ใน 1590 สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชเสียชีวิตและพระนเรศวรมหาราชปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาเป็นครั้งที่สองสรรเพชญ์ กองทัพพม่านำโดยพระมหา Uparat โจมตีสยามอีกครั้ง แต่แพ้นเรศวรใกล้บ้านข่อย กองทัพพม่าถอยกลับไปหงสาวดี, การสูญเสียผู้ชายหลายคน, ช้าง, ม้า, แขน, และกระสุน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชทำให้นเรศที่ uparaja ( " อุปราช " ) ของมหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก ในฐานะที่อายุสิบหกมหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมกับพ่อของเขา และกษัตริย์แห่งใหม่ในการเดินทางเพื่อพิชิตเวียงจันทร์ เมืองหลวงของอาณาจักรน่านเจ้า คืน แต่เขาติดเชื้อไข้ทรพิษ และก็กลับมา เขาสร้างวังจันทร์เกษม อยุธยา เป็นที่ประทับเมื่อเขาไปเยี่ยมพ่อแม่ [ 2 ] : 77ใน 1581 พระเจ้าบุเรงนองสิ้นพระชนม์ และเขา , ประสบความสำเร็จโดยลูกชายของเขาพระเจ้านันทบุเรง . อุปราชแห่งอังวะแล้วกบฏบังคับให้พระเจ้านันทบุเรงเพื่อเรียกร้องให้รอยส์แปรตองอู , เชียงใหม่ , เวียงจันทน์ และอยุธยา เพื่อขอความช่วยเหลือในการปราบปรามการจลาจล นเรศวรเดินแถวสยามกองทัพที่จะทําตามที่สั่งได้ แต่ได้ช้าในการไปถึง นี้เลี้ยงของพระเจ้านันทบุเรง ความสงสัยที่สั่งลูกชาย มหา uparaja mingyi ซ่าจะอยู่ในเมืองหลวง และฆ่า มหาวิทยาลัยนเรศวร [ 2 ] : 79 , 83 และ 84นเรศวรมาถึงแกรงในเดือนมิถุนายน 1244 , ที่ซึ่งเขาได้เรียนรู้ว่า พระยา และเจ้าพระยารามเกียตได้รับการส่งโดย uparat มหาโจมตีจากด้านหลัง ขณะที่สมเด็จพระนเรศวร uparat โจมตีจากด้านหน้า นเรศวร ที่เรียกว่า สภา ซึ่งรวมถึงพระ พระยาเกียรติ พระยาราม โหนกอื่น ๆ นเรศวรแล้ว " เทน้ำบนโลกจากถ้วยทองประกาศให้เดวาตาสต่อหน้าคนประกอบ จากวันนั้นมา สยาม ได้ตัดมิตรภาพกับ hongsawadi และไม่มี ในไมตรีที่กาล " [ 2 ] : 85 - 86นเรศวรแล้วเก็บภาษี Mons เข้าร่วมแคมเปญของเขาและเดินลงใหม่ ผลิตฟรีสยามครอบครัวจับไว้ที่นั่น อย่างไรก็ตาม พระเจ้านันทบุเรงได้พ่ายแพ้อุปราชของ innwa และกลับไปเมืองหลวงของเขา นเรศวรแล้วถอยหลังพ้นประมาณ 10 , 000 ครอบครัว mingyi ซ่าติดตามกับ surakamma ในล่วงหน้าขององค์ประกอบ พม่าจับสยามที่ satong แม่น้ำ มี surakamma ถูกฆ่าโดย " หลวง ปืนที่ใช้โดยสมเด็จพระนเรศวร satong ในขณะที่ข้ามแม่น้ำ " นี้ส่งทหารมหา uparat ไปเป็นตกใจถอย แจ้งให้เขากลับไปยังเมืองหลวง [ 2 ] : 87 - 88นเรศวรแล้ว จัดงาน " พิธีสาบานความจงรักภักดี " กับคนสุโขทัย , ดื่มน้ำจากบ่อศักดิ์สิทธิ์ของป๋วยครับ กองกำลังของเขาแล้วเอาสวรรคโลก . ใน 1584 นเรศวรนำมาลงทั้งหมดของผู้ชายจากภาคเหนือไปสยามเมืองหลวงของอยุธยาในการเตรียมการสำหรับการโจมตีของทหารใหม่ [ 2 ] : 92 และ 93ในปีเดียวกันพระเจ้านันทบุเรงส่งสองแยกกองทัพหนึ่งภายใต้ลุงอุปราชของพะสิม และอีกหนึ่งจาก จ. เชียงใหม่ น้องชายของเขา noratra mangsosri . ทั้งสองพ่ายแพ้แยกนัดหมายก่อนที่พวกเขาสามารถรวมกันและถูกขับกลับถอย [ 2 ] : 94 – 98 แล้วปลูกฝัง มหาวิทยาลัยนเรศวร เอาชนะ viceory เชียงใหม่ใกล้ป่าโมก และบางแก้ว จับค่ายของเขา บ้านดอยสะเก็ด กับ 10 , 000 ทหาร 120 ช้าง ม้า 100 , 400 เรือบวกกับแขน กระสุนและเสบียง [ 2 ] : 99 – 107ใน 1586 พระเจ้านันทบุเรงตัว , นำทัพพม่าและอยุธยาเริ่มล้อมที่สี่ของอยุธยา พระเจ้านันทบุเรงกองทัพซุ่มล้อมเมืองเป็นเวลา 5 เดือน แต่ล้มเหลวที่จะยึดเมืองได้เนื่องจากมีการป้องกันเชิงรุก โดยมหาวิทยาลัยนเรศวร . เขาล่าถอย [ 2 ] : 108 - 1151549 ในสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช , ตายและมหาวิทยาลัยนเรศวรได้เป็นกษัตริย์อยุธยาเป็นสรรเพชญ์ที่ 2 ทัพพม่านำโดย พระมหา uparat โจมตีสยามอีกครั้ง แต่ นเรศวร แพ้มันใกล้บ้านข่อย . กองทัพพม่าถอยทัพกลับไปใหม่ สูญเสียคน ช้าง ม้า อาวุธ และกระสุน