healthy lifestyle especially walkin

healthy lifestyle especially walking which proven its benefits in improving HDLc as a result of acquisition of
knowledge regarding healthy behaviors from mass media or from health care providers. These results are in
harmony with a study conducted in Egypt by Weheida et al (2009), who revealed significant improvement in
lipid profile among hypertensive patients at 8 weeks follow walking program for 45minutes/ 3 days weekly, and
justified this improvement by the benefits of walking which increase sense of wellbeing, relieve emotional
tension, and raise the level of HDLc. Other studies conducted in Australia by Burke et al (2007) and in Germany
by Osterbrink and Munzinger (2005) supported the findings of this study. Finally, the main guidelines
recommendation in hypertensive older adults are to maintain the systolic blood pressure not surpass 140 mm Hg
and diastolic blood pressure not over 90 mm Hg. Interventions for hypertensive patients should be designed to
increase adherence to lifestyle modification and antihypertensive medications (Lewis et al., 2007). Healthcare
professionals must not only identify and treat patients with hypertension but also promote a healthy lifestyle and
preventive strategies to decrease the prevalence of hypertension in the general population

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สุขภาพโดยเฉพาะการเดินซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นประโยชน์ในการปรับปรุง HDLc เป็นผลมาจากการความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพ จากสื่อมวลชน หรือ จากผู้ให้บริการสุขภาพ ผลลัพธ์เหล่านี้อยู่ในดำเนินการสอดคล้องกับการศึกษาในประเทศอียิปต์โดย Weheida et al (2009), ที่ปรุงอย่างมีนัยสำคัญในการเปิดเผยค่าไขมันในผู้ป่วย hypertensive ที่ 8 สัปดาห์ตามโปรแกรม สำหรับ 45 นาที / สัปดาห์ 3 วันเดิน และชิดนี้พัฒนา โดยประโยชน์ของการเดินซึ่งเพิ่มความรู้สึกดี บรรเทาอารมณ์ความตึงเครียด และยกระดับของ HDLc ดำเนินการศึกษาอื่น ๆ ในออสเตรเลียโดยลิตี้เบอร์ก et al (2007) และ ในประเทศเยอรมนีโดย Osterbrink และ Munzinger (2005) ได้รับการสนับสนุนผลการวิจัยของการศึกษานี้ ในที่สุด แนวทางหลักคำแนะนำในผู้ใหญ่เก่า hypertensive จะรักษาที่ systolic ความดันโลหิตไม่เกิน 140 mm Hgและความดันโลหิต diastolic ไม่กว่า 90 mm Hg การรักษาผู้ป่วย hypertensive ควรออกแบบให้เพิ่มติดกับวิถีชีวิตปรับเปลี่ยนและลดความดันยา (Lewis et al., 2007) การดูแลสุขภาพผู้เชี่ยวชาญต้องไม่ระบุ และรักษาผู้ป่วยที่ มีความดันโลหิตสูง แต่นอกจากนี้ยัง ส่งเสริมสุขภาพ และกลยุทธ์เชิงป้องกันเพื่อลดความชุกของความดันโลหิตสูงในประชากรทั่วไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิถีชีวิตสุขภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งเดินที่พิสูจน์ประโยชน์ในการปรับปรุงวิธีที่เป็นผลจากการเข้าซื้อกิจการของ
ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพจากสื่อ หรือจากผู้ให้บริการการดูแลสุขภาพ ผลลัพธ์เหล่านี้ใน
สอดคล้องกับการทดลองในอียิปต์ โดย weheida et al ( 2009 ) ที่พบการปรับปรุงที่สำคัญใน
ระดับไขมันในเลือดของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ 8 สัปดาห์ตามโปรแกรมการเดินสำหรับ 45minutes / 3 วัน รายสัปดาห์ และเป็นธรรม โดยปรับปรุง
นี้ประโยชน์ของการเดินที่เพิ่มความรู้สึกของ wellbeing , บรรเทาความเครียดทางอารมณ์
, และเพิ่มระดับเอชดีแอลซี . อื่น ๆ การศึกษาในออสเตรเลียโดยเบิร์ก et al ( 2007 ) และในประเทศเยอรมนี
โดย osterbrink munzinger ( 2005 ) และได้รับการสนับสนุนจากการศึกษานี้ ในที่สุด แนวทางหลักในผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง
แนะนำเพื่อรักษาความดันโลหิต systolic ไม่เกิน 140 มิลลิเมตรปรอท และความดันโลหิต diastolic
ปรอทไม่เกิน 90 มิลลิเมตร ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงควรออกแบบ

เพิ่มความร่วมมือในการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต และ ยาลดความดันโลหิต ยา ( ลูอิส et al . , 2007 ) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ต้องไม่เพียง แต่ระบุและรักษาผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง แต่ยังส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาพและ
กลวิธีการป้องกันเพื่อลดความชุกของภาวะความดันโลหิตสูงในประชากรทั่วไป