Basic EPS is historical. It measure

Basic EPS is historical. It measures the performance that actually occurred during the accounting period from the perspective of a single share of common stock. However, reporting basic EPS is considered in sufficient to meet investor needs because of the potential impact on EPS of a wide variety of securities issued by corporations. For example, many companies have issued stock options, stock warrants, and convertible securities that can be converted into common stock at the option of the holders of the securities. In the event these types of securities are exchanged for common stock, they have the effect of reducing (diluting) the earnings accruing to preexisting stock holders. The exercise of an option or warrant or the conversion of convertible securities to common stock would increase the number of shares of common stock outstanding, thereby having a potentially dilutive effect on EPS. However, the effect on EPS is complicated when a company has convertible securities outstanding because, in addition to issuing new shares of common stock, the amount of the company's reported earnings would also increase. Consequently, the effect of conversion could be either an increase or decrease in reported EPS because the increase in common shares outstanding might be proportionately less than or greater than the accompanying increase in net income

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กำไรต่อหุ้นย้อนหลังได้ มันวัดประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นจริง ในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชีจากมุมมองใช้ร่วมกันเดียวของหุ้น อย่างไรก็ตาม รายงานกำไรต่อหุ้นจะถือว่าเพียงพอในเพื่อตอบสนองนักลงทุนต้องการเนื่องจากอาจเกิดผลกระทบต่อกำไรต่อหุ้นของหลักทรัพย์ที่ออก โดยองค์กรที่หลากหลาย ตัวอย่าง หลายบริษัทได้ออกหุ้น หุ้นใบสำคัญแสดงสิทธิ และหลักทรัพย์แปลงที่สามารถแปลงเป็นหุ้นสามัญที่ตัวของผู้ถือหลักทรัพย์ ในกรณีที่มีการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ประเภทนี้สำหรับหุ้น มีผลลด (diluting) กำไรที่รับรู้ในผู้ถือหุ้นอิงการ กาย ของตัวเลือกหมายหรือการแปลงแปลงหลักทรัพย์หุ้นสามัญจะเพิ่มจำนวนหุ้นของหุ้นสามัญดีเด่น ดังนั้นจึงมีผลกำไรต่อหุ้นอาจ dilutive อย่างไรก็ตาม ผลกำไรต่อหุ้นจะซับซ้อนเมื่อบริษัทมีหลักทรัพย์แปลงโดดเด่นเนื่องจาก นอกจากการออกหุ้นใหม่ของหุ้น จำนวนกำไรรายงานของบริษัทยังจะเพิ่ม ดังนั้น ผลของการแปลงอาจจะเพิ่มอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือรายงานกำไรต่อหุ้นลดลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นโดดเด่นอาจเป็นตามสัดส่วนน้อยกว่า หรือมากกว่าขึ้นมารายได้สุทธิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ต่อหุ้นขั้นพื้นฐานเป็นประวัติศาสตร์ มันวัดประสิทธิภาพการทำงานที่เกิดขึ้นจริงในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชีจากมุมมองของหุ้นเดียวของหุ้นสามัญ อย่างไรก็ตามรายงานกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานมีการพิจารณาในเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของนักลงทุนเพราะผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในวันที่กำไรต่อหุ้นที่หลากหลายของหลักทรัพย์ที่ออกโดย บริษัท ตัวอย่างเช่นหลาย บริษัท ได้มีการออกตัวเลือกหุ้นใบสำคัญแสดงสิทธิหุ้นและหลักทรัพย์แปลงสภาพที่สามารถแปลงเป็นหุ้นสามัญที่ตัวเลือกของผู้ถือหลักทรัพย์ ในกรณีเหล่านี้ประเภทของหลักทรัพย์ที่มีการแลกเปลี่ยนสำหรับหุ้นสามัญที่พวกเขามีผลของการลด (เจือจาง) กำไรที่จะเกิดขึ้นมาก่อนผู้ถือหุ้น การใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิหรือตัวเลือกหรือการแปลงหลักทรัพย์แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญจะเพิ่มจำนวนหุ้นของหุ้นสามัญที่โดดเด่นจึงมีผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในการปรับลดกำไรสุทธิต่อหุ้น อย่างไรก็ตามผลกระทบต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นมีความซับซ้อนเมื่อ บริษัท มีหลักทรัพย์แปลงสภาพที่โดดเด่นเพราะนอกเหนือไปจากการออกหุ้นใหม่ของหุ้นสามัญจำนวนของ บริษัท รายงานผลประกอบการนอกจากนี้ยังจะเพิ่มขึ้น ดังนั้นผลของการแปลงอาจเป็นได้ทั้งการเพิ่มขึ้นหรือลดลงในรายงานกำไรสุทธิต่อหุ้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นสามัญที่โดดเด่นอาจจะมีสัดส่วนน้อยกว่าหรือมากกว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มาพร้อมกับสุทธิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กำไรต่อหุ้นพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ มันมาตรการการปฏิบัติงานจริงที่เกิดขึ้นในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชี จากมุมมองของหุ้นเดียวหุ้น สามัญ อย่างไรก็ตาม รายงานกำไรต่อหุ้นพื้นฐานถือว่าเพียงพอต่อความต้องการของนักลงทุน เพราะผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นใน EPS ของความหลากหลายของหลักทรัพย์ที่ออกโดยบริษัท ตัวอย่างเช่น หลายบริษัทได้ออกหุ้นตัวเลือก ,หุ้นหุ้นและหลักทรัพย์แปลงสภาพที่สามารถแปลงเป็นหุ้นสามัญได้ในตัวเลือกของผู้ถือหลักทรัพย์ ในเหตุการณ์เหล่านี้ประเภทของหลักทรัพย์จะแลกกับหุ้นสามัญ ที่ได้รับผลกระทบจากการลด ( เจือจาง ) รายได้ด้วยซ้ำไปมีผู้ถือหุ้นการออกกำลังกายตัวเลือกหรือหมายค้น หรือการแปลงหลักทรัพย์แปลงสภาพให้หุ้นสามัญจะเพิ่มจำนวนหุ้นของหุ้นที่โดดเด่นทั่วไป จึงมีลักษณะที่อาจ dilutive ใน EPS อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อ EPS ซับซ้อน เมื่อบริษัทมีสัดส่วนที่เปลี่ยนแปลงได้เพราะนอกจากการออกหุ้นใหม่ของหุ้นสามัญจำนวนของบริษัทที่รายงานกำไรก็จะเพิ่มขึ้น ดังนั้น ผลของการแปลงอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงในรายงาน EPS เพราะเพิ่มในหุ้นที่โดดเด่นที่พบอาจจะเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าหรือมากกว่ามาเพิ่มรายได้สุทธิ