Finally, in the 1940s, a philosophy

Finally, in the 1940s, a philosophy of "organic" agriculture emerged at least partially in reaction to the
industrialization of agriculture. Lord Northburne (Look to the Land, 1940) first used the term "organic"
to describe the farm as an "organism" in which the parts of the farm are orchestrated into a functioning
whole - a kind of farming that stands in stark contrast to an industrial farm that relies on input-output
mechanisms. Other works influencing the organic movement included the writings of Liberty Hyde Baily,
Dean of Cornell University's College of Agriculture, especially The Holy Earth (1915); Lady Eve Balfour's
The Living Soil (1943); and Louis Bromfeld's Pleasant Valley (1946).
The Green Revolution
Industrial agriculture took another quantum leap forward in the "green revolution" of the1960s.
Norman Borlaug and his colleagues began breeding plants that would thrive with the inputs (fertilizers,
irrigation, etc.) used in industrial agriculture. The new seeds were designed to resist the more
commonplace diseases in monocropping systems. Dwarf varieties with stronger stems were developed
to prevent lodging (straw breaking down) due to the larger grain heads of fertilized crops. These
innovations made it possible to further increase the yields of a few monoculture crops, primarily wheat
and rice.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สุดท้าย ในทศวรรษ 1940 โดย ปรัชญาของเกษตร "อินทรีย์" เกิดน้อยบางส่วนเพื่อตอบสนองการทวีความรุนแรงมากของการเกษตร พระเจ้า Northburne (ลักษณะที่ดิน 1940) ก่อนใช้คำว่า "อินทรีย์"อธิบายฟาร์มเป็น "ชีวิต" ที่กลั่นส่วนของฟาร์มในการทำงานทั้งหมด - ชนิดของการทำฟาร์มที่ยืนในทางตรงข้ามสิ้นเชิงเป็นฟาร์มอุตสาหกรรมที่อาศัยอินพุต-เอาท์พุตกลไกการ งานอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลต่อความเคลื่อนไหวของอินทรีย์ที่รวมงานเขียนของเสรีภาพไฮด์ Bailyคณบดีของวิทยาลัยคอร์เนลของวิทยาลัยของเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งศักดิ์สิทธิ์ดิน (1915); แต่เลดี้อีฟนั่งเล่นดิน (1943); และ Louis Bromfeld ดีวัลเลย์ (1946)การปฏิวัติเขียวอุตสาหกรรมเกษตรเอาควอนตัมอีกกระโดดไปข้างหน้าใน "ปฏิวัติเขียว" ของ the1960sนอร์แมนบอร์ล็อกและเพื่อนร่วมงานของเขาเริ่มปรับปรุงพันธุ์พืชที่จะเจริญเติบโต มีปัจจัยการผลิต (ปุ๋ยชลประทาน ฯลฯ) ใช้ในอุตสาหกรรมเกษตร เมล็ดใหม่ถูกออกแบบมาเพื่อต้านทานมากกว่าโรคที่เป็นธรรมดาในระบบ monocropping พันธุ์แคระ มีลำต้นแข็งแกร่งได้รับการพัฒนาเพื่อป้องกันไม่ให้พัก (ฟางแบ่ง) เนื่องจากปฏิสนธิพืชหัวเมล็ดใหญ่ เหล่านี้นวัตกรรมทำเพื่อเพิ่มผลผลิตของกี่เรื่องพืช ข้าวสาลีเป็นหลักเพิ่มเติมและข้าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในที่สุดในปี 1940 ปรัชญาของการเกษตร "อินทรีย์"
โผล่ออกมาอย่างน้อยบางส่วนในการตอบสนองต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร พระเจ้า Northburne (มองไปยังดินแดน, 1940) ครั้งแรกที่ใช้คำว่า "อินทรีย์"
เพื่ออธิบายฟาร์มเป็น "ชีวิต"
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของฟาร์มที่มีการเตรียมการเข้าสู่การทำงานทั้ง- ชนิดของการทำฟาร์มที่ยืนในทางตรงกันข้ามไป
ฟาร์มอุตสาหกรรมที่อาศัยนำเข้าส่งออกกลไก ผลงานอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวอินทรีย์รวมงานเขียนของเสรีภาพไฮด์ Baily,
คณบดีวิทยาลัยมหาวิทยาลัยคอร์เนลเกษตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกอันศักดิ์สิทธิ์ (1915); เลดี้อีฟฟอร์ดิน Living (1943);
และหลุยส์ Bromfeld ของ Pleasant Valley (1946).
การปฏิวัติสีเขียวเกษตรอุตสาหกรรมเอาก้าวกระโดดไปข้างหน้าอีกใน "การปฏิวัติสีเขียว" ของ the1960s. นอร์แมน Borlaug และเพื่อนร่วมงานของเขาเริ่มการปรับปรุงพันธุ์พืชที่จะเจริญเติบโตด้วยปัจจัยการผลิต(ปุ๋ยชลประทาน ฯลฯ ) ที่ใช้ในการเกษตรอุตสาหกรรม เมล็ดใหม่ได้รับการออกแบบที่จะต่อต้านมากขึ้นโรคธรรมดาในระบบอย่างเดียว พันธุ์แคระที่มีลำต้นแข็งแรงได้รับการพัฒนาเพื่อป้องกันไม่ให้ที่พัก (ฟางทำลายลง) เนื่องจากหัวเมล็ดพืชขนาดใหญ่ของการปฏิสนธิ เหล่านี้นวัตกรรมที่ทำให้มันเป็นไปได้ที่จะเพิ่มอัตราผลตอบแทนของพืชเชิงเดี่ยวไม่กี่ส่วนใหญ่ข้าวสาลีและข้าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในที่สุด , ในยุค , ปรัชญาของ " อินทรีย์ " เกษตรเกิดขึ้นอย่างน้อยบางส่วนในปฏิกิริยา
อุตสาหกรรมการเกษตร พระเจ้า northburne ( ดูที่ดิน 1940 ) ครั้งแรกที่ใช้คำว่า " อินทรีย์ "
อธิบายฟาร์มเป็น " สิ่งมีชีวิต " ซึ่งในส่วนของฟาร์มมี orchestrated ในการทำงาน
ทั้งหมด - ชนิดของการทำฟาร์มที่ยืนในสิ้นเชิงกับอุตสาหกรรมฟาร์มที่อาศัยกลไกวิธีการ

งานอื่น ๆที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวอินทรีย์รวมงานเขียนของเสรีภาพ ไฮด์เบลีย์
, คณบดีวิทยาลัยเกษตรของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระโลก ( 1915 ) ; เลดี้อีฟฟอร์
ดิน Living ( 1943 ) และหลุยส์ bromfeld Pleasant Valley
( 1946 )การปฏิวัติสีเขียว
อุตสาหกรรมการเกษตรได้อีกแบบก้าวกระโดดไปข้างหน้าใน " การปฏิวัติเขียว " ของ the1960s .
นอร์แมน บอร์ล็อกและเพื่อนร่วมงานของเขาเริ่มผสมพันธุ์พืชจะเจริญเติบโตด้วยปัจจัยการผลิต ( ปุ๋ย
ชลประทาน ฯลฯ ) ที่ใช้ในการเกษตรอุตสาหกรรม เมล็ดพันธุ์ใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อต้านทานโรคมากขึ้น
ธรรมดา ) ระบบแคระพันธุ์ที่มีลำต้นแข็งแกร่งขึ้น
ป้องกันที่พัก ( ฟางหมดสภาพ ) เนื่องจากเมล็ดมีขนาดใหญ่หัวของพืช นวัตกรรมเหล่านี้
ทำให้มันเป็นไปได้เพื่อเพิ่มผลผลิตของพืชเชิงเดี่ยวไม่กี่หลัก
ข้าวสาลีและข้าว