Hypertension remains a global publi

Hypertension remains a global public health challenge. An estimated
26% of all adults worldwide have hypertension (Kearney et al., 2005).
Hypertension is the primary cause of cardiovascular diseases (CVD)
and 13% of deaths are associated with CVD, 62% of strokes and 49% of
ischemic heart disease events are attributable to raised blood pressure
(WHO, 2002, 2011).
It is possible to reduce the prevalence of hypertension by improving
individuals' diet quality (Darnton-Hill et al., 2004; Hajjar and Kotchen,
2003). Adherence to the Mediterranean diet has been shown to decrease
the risk of cardiovascular diseases (Bonaccio et al., 2013). The
Dietary Approaches to Stop Hypertension (DASH) dietary pattern has
significantly reduced blood pressure among both normotensive and
hypertensive adults. This pattern promotes low intakes of fat, sodium
and processed foods with high intakes of fruit and vegetables (Fung
et al., 2008).
Ambiguity exists regarding the relationship between nutrition
knowledge and diet quality. Previous research has indicated that individuals
with greater nutrition knowledge are more likely to consume
healthier diets

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความดันโลหิตสูงยังคง ท้าทายสาธารณสุขทั่วโลก การประเมิน26% ของผู้ใหญ่ทุกคนทั่วโลกมีความดันโลหิตสูง (เที่ยว et al. 2005)ความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD)และ 13% ของการเสียชีวิตที่สัมพันธ์กับ CVD, 49% และ 62% ของอย่างเหตุการณ์โรคหัวใจขาดเลือดความดันเลือดสูงคน 2002, 2011)สามารถลดความชุกของความดันโลหิตสูง โดยการปรับปรุงคุณภาพของอาหาร (Darnton Hill et al. 2004 ห้องและ Kotchen2003) ยึดมั่นในอาหารเมดิเตอร์เรเนียนได้รับการแสดงเพื่อลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด (Bonaccio et al. 2013) การอาหารวิธีการหยุดความดันโลหิตสูง (เส้นประ) มีรูปแบบการบริโภคอาหารลดความดันโลหิตระหว่างทั้งสอง normotensive และผู้ใหญ่ความดันโลหิตสูง รูปแบบนี้ส่งเสริมการบริโภคต่ำของไขมัน โซเดียมและอาหารแปรรูปพร้อมบริโภคผลไม้และผัก (Funget al. 2008)คลุมเครือที่มีอยู่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างโภชนาการความรู้และอาหารคุณภาพ งานวิจัยก่อนหน้านี้ได้ระบุว่า บุคคลกับความรู้โภชนาการมากมีแนวโน้มการใช้อาหารสุขภาพดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความดันโลหิตสูงยังคงเป็นความท้าทายด้านสุขภาพของประชาชนทั่วโลก ประมาณ
26% ของผู้ใหญ่ทุกคนทั่วโลกมีความดันโลหิตสูง (คาร์นีย์ et al., 2005).
ความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD)
และ 13% ของการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับซีวีดี, 62% ของจังหวะและ 49% ของ
หัวใจขาดเลือด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีสาเหตุการเกิดโรคความดันโลหิตยก
(WHO 2002 2011).
มันเป็นไปได้ที่จะลดความชุกของความดันโลหิตสูงโดยการปรับปรุง
คุณภาพอาหารของแต่ละบุคคล (Darnton-Hill et al, 2004;. Hajjar และ Kotchen,
2003) การยึดมั่นกับอาหารเมดิเตอร์เรเนียนได้รับการแสดงเพื่อลด
ความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด (Bonaccio et al., 2013)
อาหารแนวทางการหยุดความดันโลหิตสูง (DASH) รูปแบบการบริโภคอาหารได้
ลดลงอย่างมีนัยสำคัญความดันโลหิตทั้งในหมู่โลหิตปกติและ
ผู้ใหญ่ความดันโลหิตสูง รูปแบบนี้จะช่วยส่งเสริมการบริโภคต่ำของไขมันโซเดียม
และอาหารแปรรูปที่มีการบริโภคสูงของผักและผลไม้ (Fung
et al., 2008).
ความคลุมเครืออยู่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างโภชนาการ
ความรู้และคุณภาพอาหาร วิจัยก่อนหน้านี้ได้ชี้ให้เห็นว่าบุคคล
ที่มีความรู้ด้านโภชนาการมากขึ้นมีแนวโน้มที่จะกิน
อาหารที่ดีต่อสุขภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความดันโลหิตสูงยังเป็นความท้าทายด้านสาธารณสุขทั่วโลก โดยประมาณ26 % ของผู้ใหญ่ทั้งหมดทั่วโลกมีความดันโลหิตสูง ( Kearney et al . , 2005 )ความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจ ( CVD )และ 13 % ของการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด , 62 ของจังหวะและ 49 เปอร์เซ็นต์เหตุการณ์โรคหัวใจจากความดันโลหิตสูงคือ( ใคร , 2002 , 2011 )มันเป็นไปได้เพื่อลดความชุกของภาวะความดันโลหิตสูง โดยการปรับปรุงบุคคลที่ ' อาหารคุณภาพ ( ดาร์นตันฮิลล์ et al . , 2004 ; hajjar kotchen และ ,2003 ) การควบคุมอาหารเมดิเตอร์เรเนียนได้รับการแสดงเพื่อลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ( bonaccio et al . , 2013 ) ที่อาหารวิธีเพื่อหยุดความดันโลหิตสูง ( เส้นประ ) แบบแผนการบริโภคอาหารได้ลดความดันโลหิต ทั้งในหมู่เตตผู้ใหญ่โรคความดันโลหิตสูง รูปแบบการส่งเสริมการบริโภคต่ำของไขมัน โซเดียมและอาหารแปรรูปสูงในอาหารของผักและผลไม้ ( ฝั่งet al . , 2008 )ความจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างโภชนาการความรู้และคุณภาพอาหาร งานวิจัยก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่าบุคคลที่มีความรู้ด้านโภชนาการมากขึ้นมีแนวโน้มที่จะบริโภคสุขภาพ อาหาร