In the present study, the biofloc s

In the present study, the biofloc supplementation at the 12% level (B12) did not result in proportionate increase in growth rate or improvement of FCR compared with control. Further, the digestive enzyme activities in B12 were not significantly higher than other treatment groups. Earlier, Kuhn et al. (2010) replaced the fish meal by biofloc in L. vannamei diet and recorded significantly higher growth rate at 10 and 15%, and non-significant difference at 21 and 30% dietary inclusion
level of biofloc. The present findings agree in general with those of Wang (2007) and Anand et al.(2013b)who reported that increase in dietary supplementation of probiotic or periphytic algae in shrimpdiet do not increase proportionately the digestive enzyme activities and growth of shrimp.Moreover, reduction in growth rate of fishes was recorded at higher level of microbial supplementation (Ajiboye et al., 2012; Kiessling and Askbrandit, 1993) as microbial products at higher level tend to reduce the feed palatability and digestibility (Kiessling and Askbrandit, 1993). The higher ash level recorded in the B12 diet compared to all other groups also might have influenced the digestibility and growth performance of shrimp. However, the growth performance of B12 was comparable to control suggesting that dietary supplementation of higher level of biofloc do not have growth retardation effects in shrimp juveniles. Seeing the cost-effectiveness, the inclusion of biofloc at 4% level is beneficial in improving growth performance and digestive enzyme activities in shrimp.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการศึกษาปัจจุบัน แห้งเสริม biofloc ที่ระดับ 12% (B12) ผลไม่เพิ่มขึ้นตามอัตราการเติบโตหรือการปรับปรุงเปรียบเทียบกับควบคุม FCR เพิ่มเติม กิจกรรมของเอนไซม์ย่อยอาหารใน B12 ไม่มากสูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ รักษา ก่อนหน้านี้ al. et Kuhn (2010) แทนอาหารปลา โดย biofloc L. vannamei อาหารและบันทึกอย่างมีนัยสำคัญสูงกว่าอัตราการเติบโตที่ 10 และ 15% และผลต่างที่ไม่สำคัญที่ 21 และ 30% รวมอาหารระดับของ biofloc พบอยู่ทั่วไปตกลงกับวัง (2007) และนายเอ็ด al. (2013b) ที่รายงานเพิ่มในอาหารแห้งเสริมของโปรไบโอติกส์ หรือสาหร่าย periphytic ใน shrimpdiet ไม่ได้เพิ่มตามสัดส่วนกิจกรรมของเอนไซม์ย่อยอาหารและเจริญเติบโตของกุ้ง นอกจากนี้ ลดอัตราการเติบโตของปลาเป็นบันทึกที่ระดับสูงของจุลินทรีย์แห้งเสริม (Ajiboye et al., 2012 Kiessling และ Askbrandit, 1993) เป็นผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ในระดับที่สูงขึ้นมักจะ ลดอาหาร palatability และ digestibility (Kiessling และ Askbrandit, 1993) ระดับเถ้าสูงที่บันทึกไว้ในอาหาร B12 เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ ทั้งหมดนอกจากนี้ยังอาจมีผลประสิทธิภาพ digestibility และเจริญเติบโตของกุ้ง อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพการเจริญเติบโตของ B12 ได้เปรียบการควบคุมแนะนำที่แห้งเสริมอาหารระดับสูงของ biofloc มีผลชะลอการเติบโตในกุ้ง juveniles เห็นที่ประหยัดค่าใช้จ่าย รวม biofloc ที่ระดับ 4% เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงการเจริญเติบโตประสิทธิภาพอาหารเอนไซม์กิจกรรมและในกุ้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการศึกษาปัจจุบันที่การเสริม biofloc ที่ระดับ 12% (12) ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนของอัตราการเจริญเติบโตหรือการปรับปรุงอัตราแลกเนื้อเมื่อเทียบกับการควบคุม นอกจากนี้เอนไซม์ย่อยอาหารวิตามินบี 12 ไม่ได้มีนัยสำคัญสูงกว่ากลุ่มการรักษาอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ Kuhn et al, (2010) แทนที่ปลาป่นโดย biofloc ในอาหารกุ้งขาวและบันทึกอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 10 และ 15% และความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญที่ไม่ใช่วันที่ 21 และ 30%
รวมอาหารระดับของbiofloc ผลการวิจัยในปัจจุบันยอมรับโดยทั่วไปกับบรรดาวัง (2007) และอานันท์ et al. (2013b) ที่รายงานว่าเพิ่มขึ้นในการเสริมอาหารของสาหร่ายโปรไบโอติกหรือ periphytic ใน shrimpdiet ไม่ได้เพิ่มสัดส่วนกิจกรรมเอนไซม์ย่อยอาหารและการเจริญเติบโตของ shrimp.Moreover, การลดลงของอัตราการเจริญเติบโตของปลาถูกบันทึกลงในระดับที่สูงขึ้นของการเสริมจุลินทรีย์ (Ajiboye et al, 2012;. คีสลิงก์และ Askbrandit, 1993) เป็นผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ในระดับที่สูงขึ้นมีแนวโน้มที่จะลดความอร่อยอาหารและการย่อย (คีสลิงก์และ Askbrandit, 1993) ระดับเถ้าสูงที่บันทึกไว้ในอาหาร 12 เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ นอกจากนี้ยังอาจมีอิทธิพลต่อการย่อยและการเจริญเติบโตของกุ้ง แต่ประสิทธิภาพการเจริญเติบโตของวิตามินบี 12 ได้เปรียบในการควบคุมการชี้ให้เห็นว่าการบริโภคอาหารของอาหารเสริมในระดับที่สูงขึ้นของ biofloc ไม่ได้มีผลชะลอการเจริญเติบโตในเด็กและเยาวชนกุ้ง เห็นค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพรวมของ biofloc ที่ระดับ 4% จะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการเจริญเติบโตและการทำงานของเอนไซม์ย่อยอาหารในบ่อเลี้ยงกุ้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการศึกษาปัจจุบัน biofloc เสริมที่ระดับ 12% ( B12 ) ไม่ได้ผลในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นในอัตราการเจริญเติบโต หรือ ปรับปรุงเปลี่ยนเมื่อเทียบกับการควบคุม ทั้งนี้ กิจกรรมของเอนไซม์ 12 ไม่สูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ คูน et al . ( 2010 ) แทนที่ปลาป่นโดย biofloc ในแอล.vannamei อาหารและบันทึกอัตราการเติบโตสูงกว่าที่ 10 และ 15 เปอร์เซ็นต์ และไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติที่ระดับ 21 และ 30 % รวม
อาหารของ biofloc . ข้อมูลปัจจุบันยอมรับโดยทั่วไปกับผู้หวัง ( 2007 ) และอานันท์ et al .( 2013b ) ที่รายงานว่าเพิ่มขึ้นในอาหารการเสริมโปรไบโอติก หรือ periphytic สาหร่ายใน shrimpdiet ไม่เพิ่มตามสัดส่วนที่เอนไซม์ย่อยอาหารกิจกรรมและการเจริญเติบโตของกุ้ง และลดอัตราการเจริญเติบโตของปลาที่ถูกบันทึกไว้ในระดับที่สูงขึ้นของการเสริมจุลินทรีย์ ( ajiboye et al . , 2012 ; และ askbrandit คิสลิ่ง ,1993 ) เป็นผลิตภัณฑ์จากจุลินทรีย์ในระดับที่สูงมีแนวโน้มที่จะลดอาหารความอร่อยและการย่อยได้ ( คิสลิ่ง และ askbrandit , 1993 ) เถ้าสูงกว่าระดับบันทึกในอาหารที่เพียงพอเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ นอกจากนี้ อาจมีผลต่อการย่อยได้และการเจริญเติบโตของกุ้ง อย่างไรก็ตามการเจริญเติบโตของ B12 ได้ควบคุม แนะนำว่า การเสริมระดับ biofloc ไม่มีผลในการเติบโตและกุ้ง เห็นเจ , รวมของ biofloc ระดับ 4% เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงการเจริญเติบโตและกิจกรรมของเอนไซม์ย่อยอาหารในบ่อเลี้ยงกุ้ง