ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ หรือประเพณีแห่ไม้ค้ำสะหลี เป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ การแปล - ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ หรือประเพณีแห่ไม้ค้ำสะหลี เป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ ไทย วิธีการพูด

ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ หรือประเพณีแห

ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ หรือประเพณีแห่ไม้ค้ำสะหลี เป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของชาวล้านนา โดยเฉพาะที่เทศบาลตำบลจอมทองนั้นได้จัดขึ้นทุกวันที่ 15 เดือนเมษายน เป็นประจำทุกปี โดยเราจะเห็นขบวนแห่ไม้ค้ำโพธิ์ของหมู่บ้านต่างๆ พร้อมด้วยผู้ศรัทธาจำนวนมากในเขตเทศบาล ร่วมแห่ไม้ค้ำโพธิ์ เพื่อนำไปยังวัดพระธาตุศรีจอมทอง

การแห่ไม้ค้ำสะหลี หรือการแห่ไม้ค้ำต้นโพธิ์ โดยคำว่า 'สะหลี' เป็นภาษาล้านนา มาจากคำว่า 'ศรี' หมายถึงศรีมหาโพธิอันหมายถึงพระศรีมหาโพธิ์ เป็นพิธีกรรมที่ขยายจากการที่ปัจเจกชนนำไม้ค้ำที่ตนได้จัดทำขึ้นไปค้ำที่ต้น โพธิ์ ไม้ค้ำดังกล่าวอาจได้มาจาก ไม้ง่ามที่ใช้ในพิธีสืบชาตาหรือไม้ค้ำที่จัดหา ขึ้นเป็นพิเศษ เนื่องในการถวายทานในเทศกาลสงกรานต์ การที่ได้นำเอาไม้ค้ำไปค้ำที่ต้นโพธิ์นี้ อาจจัดเป็นสัญลักษณ์หมายความว่าผู้นั้นมีส่วนในการค้ำชูพระพุทธศาสนา พบว่าต้นโพธิ์ที่มีไม้ค้ำมากที่สุด คือต้นโพธิ์ที่วัดพระธาตุลำปางหลวง




แต่ในบางท้องถิ่นแล้ว แทนที่แต่ละคนจะนำเอาไม้ค้ำไปค้ำต้นโพธิ์ตามประสงค์ของแต่ละคนนั้น เมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์ ก็จะนัดหมายให้ชาวบ้านร่วมกันไปหาไม้ค้ำซึ่งจะมีขนาดใหญ่แล้วตกแต่งให้งาม จากนั้นจึงทำพิธีแห่ไม้ค้ำนั้นร่วมขบวนกันเพื่อไปถวายวัดและนำไปค้ำต้นโพธิ์ ดังจะเห็นได้จากศรัทธาชาวบ้านในอำเภอจอมทองและอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น



ในตอนเริ่มแรกก่อนที่ พิธีการดังกล่าวจะถูกยึดถือปฏิบัติจนกลายมาเป็นประเพณีแห่งไม้ค้ำโพธิ์อย่าง ทุกวันนี้ ประชาชนยังไม่มีความคิดที่จะทำร่วมกัน ต่างคนต่างไปจัดหาและทำพิธีสืบชาตาราศีแล้วนำไม้ไปค้ำต้นโพธิ์เอง ต่อมาเมื่อได้ทำเป็นประจำทุกๆ ปี นานๆ เข้าประชานก็ได้รวมกันเป็นหมู่บ้าน เป็นตำบล เช่น จัดรวมกันเป็นหมู่ที่ 1 ตำบลบ้านหลวง หมู่ที่ 6 ตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง เป็นต้น ต่างจัดหาไม้ง่ามที่มีลักษณะดีงามแล้วนำมาตกแต่งด้วยการทาขมิ้น และประดับกระดาษสี จากนั้นจึงนำขึ้นเกวียนแห่ไปทำพิธีค้ำต้นโพธิ์ในวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ในช่วงที่แห่ไปนั้น นอกจาจะมีผู้คนทั้งผู้เฒ่าผู้แก่หนุ่มสาวเข้าขบวนที่แต่งกายงดงามตามประเพณี พื้นเมืองแล้ว ยังมีการละเล่นแบบพื้นเมืองด้วย เช่น การฟ้อนเชิง ( อ่าน ” ฟ้อนเจิง ”) หรือร่ายรำในท่าต่อสู้ ขับเพลงซอเล่นดนตรีพื้นเมืองและแห่เป็นรูปขบวนไป และสองข้างทางที่ขบวนแห่ไม้ค้ำโพธิ์ง่ามจะมีการรดน้ำดำหัวอวยชัยให้พรกัน สนุกสนานไปด้วย




ประวัติความเป็นมาไม้ค้ำสะหลี(ไม้ค้ำศรีมหาโพธิ์)
มีตำนาน เล่าว่า สมัยเมื่อ ครูบาปุ๊ด หรือครูบาพุทธิมาวังโส เป็นเจ้าอาวาส (องค์ที่ 14) วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ยามเดือนแปดเหนือ (เดือนพฤษภาคม) พ.ศ.2314 ได้เกิดลมพายุใหญ่พัดเอากิ่งไม้สะหลี (ศรีมหาโพธิ) ภายในวัดหักลงมา ครูบาท่านให้นึกตกใจกลัวยิ่งนัก ด้วยว่าสมัยเจ้าอาวาสองค์ก่อนๆ มิเคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเลย ท่านคิดอย่างนั้นจนเครียดหนัก ตกตอนกลางคืน เข้าจำวัด ก็เกิดนิมิตขึ้นว่า มีเทวดามาบอกว่าเหตุอาเพศลมพัดกิ่งไม้สะหลีหัก เป็นเพราะท่านไม่ตั้งใจปฏิบัติธรรม โดยเคร่งครัด นิมิตนั้นทำให้ท่านปฏิบัติธรรมอย่างเข้มข้น จวบจนล่วงเวลาได้ 2 เดือนก็บรรลุธรรมอภิญญาณ สามารถย่นย่อแผ่นดินได้




เป็นที่เล่าลือว่าวันหนึ่ง ท่านไปบิณฑบาต ที่อำเภอแม่แจ่ม แล้วกลับมาฉันที่วัดพระธาตุศรีจอมทองในเช้าเดียวกันโดยมีพ่อค้าวัวต่างถิ่นชาวแม่แจ่มที่มาซื้อข้าวของค้าขายแลกเกลือที่อำเภอจอมทอง ยืนยันว่าได้พบครูบาปุ๊ดเดินออกมาจากป่าบริเวณบ้านหัวเสือ พระบาท (หมู่บ้านเชิงดอยทางทิศตะวันตกของอำเภอจอมทอง ประมาณ 7 กิโลเมตร) เวลาเดียวกับที่กองเกวียนของพวกเขาหุงข้าวเสร็จพอดี จึงนิมนต์รับบิณฑบาต และได้ถามว่า ท่านไปบิณฑบาตที่ไหนมาในป่าอย่างนี้ ท่านตอบว่า ไปบิณฑบาตที่แม่แจ่มมา พ่อค้าวัวถามว่า บ้านอะไร พระตอบว่า บ้านสันหนอง พร้อมเปิดฝาบาตรให้พ่อค้าวัวทำบุญใส่บาตร



ตอนนั้นเองที่พ่อค้าได้เห็นข้าวในบาตร เป็นข้าวสีดำๆ ด่างๆ ก็รู้ว่าเป็นข้าวชั้นดี ซึ่งสมัยนั้นมีปลูกกันมากที่แม่แจ่มเท่านั้น จึงถามพระอีกว่า คนลักษณะใดใส่บาตร พระท่านตอบว่า เป็นผู้หญิงคอออม (หมายถึงคอพอง ปูดโปนออกมา) ต่อมาหลังจากซื้อขายข้าวของเสร็จแล้วพ่อค้าเดินทางกลับบ้านแม่แจ่ม ถามภรรยาว่า ได้ใส่บาตรบ้างไหม ภรรยาตอบว่า ใส่บาตรพระเดินออกมาจากป่าวันนี้ โดยเอาข้าวกล่ำใส่ (ข้าวหอมที่ชาวบ้านปลูกไว้ทำขนมทำบุญ) พร้อมอธิบายลักษณะของพระรูปนั้น ซึ่งตรงกันกับพระที่พ่อค้าได้ใส่บาตรเมื่อเช้าวันเดียวกันที่อำเภอจอมทอง จึงได้รู้ว่าพระรูปนี้มีบุญบารมียิ่งนัก คือปรากฏกาย 2 ที่ในเวลาเดียวกัน
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์หรือประเพณีแห่ไม้ค้ำสะหลีเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของชาวล้านนาโดยเฉพาะที่เทศบาลตำบลจอมทองนั้นได้จัดขึ้นทุกวันที่ 15 เดือนเมษายนเป็นประจำทุกปีโดยเราจะเห็นขบวนแห่ไม้ค้ำโพธิ์ของหมู่บ้านต่าง ๆ พร้อมด้วยผู้ศรัทธาจำนวนมากในเขตเทศบาลร่วมแห่ไม้ค้ำโพธิ์เพื่อนำไปยังวัดพระธาตุศรีจอมทอง การแห่ไม้ค้ำสะหลีหรือการแห่ไม้ค้ำต้นโพธิ์โดยคำว่า 'สะหลี' เป็นภาษาล้านนามาจากคำว่า 'ศรี' หมายถึงศรีมหาโพธิอันหมายถึงพระศรีมหาโพธิ์เป็นพิธีกรรมที่ขยายจากการที่ปัจเจกชนนำไม้ค้ำที่ตนได้จัดทำขึ้นไปค้ำที่ต้นโพธิ์ไม้ค้ำดังกล่าวอาจได้มาจากไม้ง่ามที่ใช้ในพิธีสืบชาตาหรือไม้ค้ำที่จัดหาขึ้นเป็นพิเศษเนื่องในการถวายทานในเทศกาลสงกรานต์การที่ได้นำเอาไม้ค้ำไปค้ำที่ต้นโพธิ์นี้อาจจัดเป็นสัญลักษณ์หมายความว่าผู้นั้นมีส่วนในการค้ำชูพระพุทธศาสนาพบว่าต้นโพธิ์ที่มีไม้ค้ำมากที่สุดคือต้นโพธิ์ที่วัดพระธาตุลำปางหลวง แต่ในบางท้องถิ่นแล้วแทนที่แต่ละคนจะนำเอาไม้ค้ำไปค้ำต้นโพธิ์ตามประสงค์ของแต่ละคนนั้นเมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์ก็จะนัดหมายให้ชาวบ้านร่วมกันไปหาไม้ค้ำซึ่งจะมีขนาดใหญ่แล้วตกแต่งให้งามจากนั้นจึงทำพิธีแห่ไม้ค้ำนั้นร่วมขบวนกันเพื่อไปถวายวัดและนำไปค้ำต้นโพธิ์ดังจะเห็นได้จากศรัทธาชาวบ้านในอำเภอจอมทองและอำเภอหางดงจังหวัดเชียงใหม่เป็นต้น ในตอนเริ่มแรกก่อนที่พิธีการดังกล่าวจะถูกยึดถือปฏิบัติจนกลายมาเป็นประเพณีแห่งไม้ค้ำโพธิ์อย่างทุกวันนี้ประชาชนยังไม่มีความคิดที่จะทำร่วมกันต่างคนต่างไปจัดหาและทำพิธีสืบชาตาราศีแล้วนำไม้ไปค้ำต้นโพธิ์เองต่อมาเมื่อได้ทำเป็นประจำทุก ๆ ปีนาน ๆ เข้าประชานก็ได้รวมกันเป็นหมู่บ้านเป็นตำบลเช่นจัดรวมกันเป็นหมู่ที่ 1 ตำบลบ้านหลวงหมู่ที่ 6 ตำบลข่วงเปาอำเภอจอมทองเป็นต้นต่างจัดหาไม้ง่ามที่มีลักษณะดีงามแล้วนำมาตกแต่งด้วยการทาขมิ้นและประดับกระดาษสีจากนั้นจึงนำขึ้นเกวียนแห่ไปทำพิธีค้ำต้นโพธิ์ในวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารในช่วงที่แห่ไปนั้นนอกจาจะมีผู้คนทั้งผู้เฒ่าผู้แก่หนุ่มสาวเข้าขบวนที่แต่งกายงดงามตามประเพณีพื้นเมืองแล้วยังมีการละเล่นแบบพื้นเมืองด้วยเช่นการฟ้อนเชิง (อ่าน "ฟ้อนเจิง") หรือร่ายรำในท่าต่อสู้ขับเพลงซอเล่นดนตรีพื้นเมืองและแห่เป็นรูปขบวนไปและสองข้างทางที่ขบวนแห่ไม้ค้ำโพธิ์ง่ามจะมีการรดน้ำดำหัวอวยชัยให้พรกันสนุกสนานไปด้วย ประวัติความเป็นมาไม้ค้ำสะหลี(ไม้ค้ำศรีมหาโพธิ์)มีตำนานเล่าว่าสมัยเมื่อครูบาปุ๊ดหรือครูบาพุทธิมาวังโสเป็นเจ้าอาวาส (องค์ที่ 14) วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารยามเดือนแปดเหนือ (เดือนพฤษภาคม) พ.ศ.2314 ได้เกิดลมพายุใหญ่พัดเอากิ่งไม้สะหลี (ศรีมหาโพธิ) ภายในวัดหักลงมาครูบาท่านให้นึกตกใจกลัวยิ่งนักด้วยว่าสมัยเจ้าอาวาสองค์ก่อน ๆ มิเคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเลยท่านคิดอย่างนั้นจนเครียดหนักตกตอนกลางคืนเข้าจำวัดก็เกิดนิมิตขึ้นว่ามีเทวดามาบอกว่าเหตุอาเพศลมพัดกิ่งไม้สะหลีหักเป็นเพราะท่านไม่ตั้งใจปฏิบัติธรรมโดยเคร่งครัดนิมิตนั้นทำให้ท่านปฏิบัติธรรมอย่างเข้มข้นจวบจนล่วงเวลาได้ 2 เดือนก็บรรลุธรรมอภิญญาณสามารถย่นย่อแผ่นดินได้ เป็นที่เล่าลือว่าวันหนึ่งท่านไปบิณฑบาตที่อำเภอแม่แจ่มแล้วกลับมาฉันที่วัดพระธาตุศรีจอมทองในเช้าเดียวกันโดยมีพ่อค้าวัวต่างถิ่นชาวแม่แจ่มที่มาซื้อข้าวของค้าขายแลกเกลือที่อำเภอจอมทองยืนยันว่าได้พบครูบาปุ๊ดเดินออกมาจากป่าบริเวณบ้านหัวเสือพระบาท (หมู่บ้านเชิงดอยทางทิศตะวันตกของอำเภอจอมทองประมาณ 7 กิโลเมตร) เวลาเดียวกับที่กองเกวียนของพวกเขาหุงข้าวเสร็จพอดีจึงนิมนต์รับบิณฑบาตและได้ถามว่าท่านไปบิณฑบาตที่ไหนมาในป่าอย่างนี้ท่านตอบว่าไปบิณฑบาตที่แม่แจ่มมาพ่อค้าวัวถามว่าบ้านอะไรพระตอบว่าบ้านสันหนองพร้อมเปิดฝาบาตรให้พ่อค้าวัวทำบุญใส่บาตร ตอนนั้นเองที่พ่อค้าได้เห็นข้าวในบาตรเป็นข้าวสีดำ ๆ ด่าง ๆ ก็รู้ว่าเป็นข้าวชั้นดีซึ่งสมัยนั้นมีปลูกกันมากที่แม่แจ่มเท่านั้นจึงถามพระอีกว่าคนลักษณะใดใส่บาตรพระท่านตอบว่าเป็นผู้หญิงคอออม (หมายถึงคอพองปูดโปนออกมา) ต่อมาหลังจากซื้อขายข้าวของเสร็จแล้วพ่อค้าเดินทางกลับบ้านแม่แจ่มถามภรรยาว่าได้ใส่บาตรบ้างไหมภรรยาตอบว่าใส่บาตรพระเดินออกมาจากป่าวันนี้โดยเอาข้าวกล่ำใส่ (ข้าวหอมที่ชาวบ้านปลูกไว้ทำขนมทำบุญ) พร้อมอธิบายลักษณะของพระรูปนั้นซึ่งตรงกันกับพระที่พ่อค้าได้ใส่บาตรเมื่อเช้ที่ในเวลาเดียวกันคือปรากฏกาย 2 จึงได้รู้ว่าพระรูปนี้มีบุญบารมียิ่งนักาวันเดียวกันที่อำเภอจอมทอง
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์หรือประเพณีแห่ ไม้ค้ำสะหลีเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของชาวล้านนาโดยเฉพาะที่เทศบาลตำบลจอมทองนั้นได้จัดขึ้นทุกวันที่ 15 เดือนเมษายนเป็นประจำทุกปีโดยเรา จะเห็นขบวนแห่ไม้ค้ำโพธิ์ ของหมู่บ้านต่างๆพร้อมด้วยคุณผู้ศรัทธาจำนวนมากในห้างหุ้นส่วนจำกัดเขตเทศบาลร่วมแห่ไม้ค้ำโพธิ์เพื่อนำไปยังวัดที่คุณพระธาตุศรีจอมทอง

หัวเรื่อง: การแห่ไม้ค้ำสะหลีหรือหัวเรื่อง: การแห่ไม้ค้ำคุณต้นโพธิ์โดยคำว่าได้ 'สะหลี' เป็นภาษาล้านนา มาจากคำว่า 'ศรี' หมายถึงศรีมหาโพธิอันหมายถึง พระศรีมหาโพธิ์เป็นพิธีกรรมที่ขยายจากการที่ปัจเจกชนนำไม้ค้ำที่ตนได้จัดทำขึ้นไปค้ำที่ต้นโพธิ์ไม้ค้ำดังกล่าวอาจได้มาจากไม้ง่าม ที่ใช้ในพิธีสืบชาตาหรือไม้ ค้ำที่จัดหาขึ้นเป็นพิเศษเนื่องในการถวายทานในเทศกาลสงกรานต์การที่ได้นำเอาไม้ค้ำไปค้ำที่ต้นโพธิ์นี้อาจจัดเป็นสัญลักษณ์หมายความว่าผู้นั้นมีส่วนในการค้ำชูพระพุทธศาสนา พบว่าได้คุณต้นโพธิ์ที่มีไม้ค้ำมากที่สุดคือคุณต้นโพธิ์ที่วัดที่คุณพระธาตุลำปางหลวง




แต่ในห้างหุ้นส่วนจำกัดบางท้องถิ่นแล้วแทนที่แต่ละของคุณคนจะนำเอาไม้ค้ำไปค้ำคุณต้นโพธิ์ตามประสงค์ของแต่ละของคุณคนนั้นเมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์ก็จะนัดหมายให้ ชาวบ้านร่วมกันไปหาไม้ค้ำ ซึ่งจะมีขนาดใหญ่แล้วตกแต่งให้งามจากนั้นจึงทำพิธีแห่ไม้ค้ำนั้นร่วมขบวนกันเพื่อไปถวายวัดและนำไปค้ำต้นโพธิ์ดังจะเห็นได้จากศรัทธาชาวบ้านในอำเภอจอมทอง และอำเภอหางดงจังหวัดส์ ChiangMai เป็นต้น



ในห้างหุ้นส่วนจำกัดตอนเริ่มแรกก่อนที่พิธีการดังกล่าวจะถูกยึดถือปฏิบัติจนกลายมาเป็นประเพณีแห่งไม้ค้ำโพธิ์อย่างทุกวันนี้ประชาชนยังไม่มีความสามารถคิดที่จะทำร่วมกันต่างของคุณคนต่างไปจัดหาและทำพิธีสืบชาตา ราศีแล้วนำไม้ไปค้ำต้นโพธิ์ เองต่อมาเมื่อได้ทำเป็นประจำทุกๆปีนาน ๆ เข้าประชานก็ได้รวมกันเป็นหมู่บ้านเป็นตำบลเช่นจัดรวมกันเป็นหมู่ที่ 1 ตำบลบ้านหลวงหมู่ที่ 6 ตำบลข่วงเปาอำเภอจอมทองเป็นต้นต่างจัดหา ไม้ง่ามที่มีลักษณะดีงามแล้ว นำมาตกแต่งด้วยการทาขมิ้นและประดับกระดาษสีจากนั้นจึงนำขึ้นเกวียนแห่ไปทำพิธีค้ำต้นโพธิ์ในวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารในช่วงที่แห่ไปนั้นนอกจาจะมีผู้ คนทั้งผู้เฒ่าผู้แก่หนุ่มสาว เข้าขบวนที่แต่งกายงดงามตามประเพณีพื้นเมืองแล้วยังมีการละเล่นแบบพื้นเมืองด้วยเช่นการฟ้อนเชิง (อ่าน "ฟ้อนเจิง") หรือร่ายรำในท่าต่อสู้ขับเพลง ซอเล่นดนตรีพื้นเมืองและแห่ เป็นรูปขบวนไปและสองข้างทางที่ขบวนแห่ไม้ค้ำโพธิ์ง่ามจะมีหัวเรื่อง: การรดน้ำดำหัวอวยชัยให้พรกันสนุกสนานไปด้วย




ประวัติความสามารถเป็นมาไม้ค้ำสะหลี (ไม้ค้ำศรีมหาโพธิ์)
มีตำนานเล่าว่าสมัยเมื่อครูบาปุ๊ ด หรือครูบาพุทธิมาวังโสเป็นเจ้าอาวาส (องค์ที่ 14) วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารยามเดือน แปดเหนือ (เดือนพฤษภาคม) พ.ศ. 2314 ได้เกิดลมพายุใหญ่พัดเอากิ่ง ไม้สะหลี (ศรีมหาโพธิ) ภายในวัด หักลงมาครูบาท่านให้นึกตกใจ กลัวยิ่งนักด้วยว่าสมัยเจ้าอาวาสองค์ก่อน ๆ มิเคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเลยท่านคิดอย่างนั้นจนเครียดหนักตกตอนกลางคืนเข้าจำวัดก็เกิดนิมิตขึ้นว่ามีเทวดามาบอกว่าเหตุอาเพศ ลมพัดกิ่งไม้สะหลีหักเป็น เพราะท่านไม่ตั้งใจปฏิบัติธรรมโดยเคร่งครัดนิมิตนั้นทำให้ท่านปฏิบัติธรรมอย่างเข้มข้นจวบจนล่วงเวลาได้ 2 เดือนระเบียนก็บรรลุธรรมอภิญญาณด้านย่นย่อแผ่นดินได้




เป็นที่เล่าลือว่าได้การธนาคารวันคุณหนึ่งท่านไปบิณฑบาตที่อำเภอแม่แจ่มแล้วกลับ มาฉันที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง ในเช้าเดียวกันโดยมีพ่อค้าวัวต่างถิ่นชาวแม่แจ่มที่มาซื้อข้าวของค้าขายแลกเกลือที่อำเภอจอมทองยืนยันว่าได้พบครูบาปุ๊ดเดินออกมาจากป่าบริเวณบ้านหัวเสือพระบาท (หมู่บ้านเชิงดอย ทางทิศตะวันตกของอำเภอจอมทองประมาณ 7 กิโลเมตร) เวลาเดียวกับที่กองเกวียนของพวก เขาหุงข้าวเสร็จพอดีจึงนิมนต์รับบิณฑบาตและได้ถามว่าท่านไปบิณฑบาตที่ไหนมาในป่าอย่างนี้ท่านตอบว่าไปบิณฑบาตที่แม่แจ่มมาพ่อค้าวัว ถามว่าได้ร้านบ้านอะไรที่คุณพระตอบว่าได้ร้านบ้านสันหนองพร้อมเปิดฝาบาตรให้พ่อค้าวัวทำบุญใส่บาตร



ตอนนั้นเองที่พ่อค้าได้เห็นคุณข้าวในห้างหุ้นส่วนจำกัดบาตรเป็นคุณข้าวสีดำๆด่าง ๆ ก็รู้ว่าได้เป็นคุณข้าวชั้นดีซึ่งสมัยนั้นมีปลูกกันมาก ที่แม่แจ่มเท่านั้นจึงถามพระอีกว่า คนลักษณะใดใส่บาตรพระท่านตอบว่าเป็นผู้หญิงคอออม (หมายถึงคอพองปูดโปนออกมา) ต่อมาหลังจากซื้อขายข้าวของเสร็จแล้วพ่อค้า เดินทางกลับบ้านแม่แจ่มถามภรรยาว่าได้ใส่บาตรบ้าง ไหมภรรยาตอบว่าใส่บาตรพระเดิน ออกมาจากป่าวันนี้โดยเอาข้าวกล่ำใส่ (ข้าวหอมที่ชาวบ้านปลูกไว้ทำ ขนมทำบุญ ) พร้อมอธิบายลักษณะของพระรูปนั้นซึ่งตรงกัน กับพระที่พ่อค้าได้ใส่บาตรเมื่อเช้าวันเดียวกัน ที่อำเภอจอมทองจึงได้รู้ว่าพระรูป นี้มีบุญบารมียิ่งนักคือปรากฏกาย 2 ที่ในเวลาเดียวกัน
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์หรือประเพณีแห่ไม้ค้ำสะหลีเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของชาวล้านนาโดยเฉพาะที่เทศบาลตำบลจอมทองนั้นได้จัดขึ้นทุกวันที่ 15 เดือนเมษายนเป็นประจำทุกปีโดยเราจะเห็นขบวนแห่ไม้ค้ำโพธิ์ของหมู่บ้านต่างๆพร้อมด้วยผู้ศรัทธาจำนวนมากในเขตเทศบาลร่วมแห่ไ ม้ค้ำโพธิ์เพื่อนำไปยังวัดพระธาตุศรีจอมทองการแห่ไม้ค้ำสะหลีหรือการแห่ไม้ค้ำต้นโพธิ์โดยคำว่า ' ' ' ' สะหลีเป็นภาษาล้านนามาจากคำว่าศรีหมายถึงศรีมหาโพธิอันหมายถึงพระศรีมหาโพธิ์เป็นพิธีกรรมที่ขยายจากการที่ปัจเจกชนนำไม้ค้ำที่ตนได้จัดทำขึ้นไปค้ำที่ต้นโพธิ์ไม้ค้ำดังกล่าวอาจได้มาจากไม้ง่ามที่ใช้ในพิธีส ืบชาตาหรือไม้ค้ำที่จัดหาขึ้นเป็นพิเศษเนื่องในการถวายทานในเทศกาลสงกรานต์การที่ได้นำเอาไม้ค้ำไปค้ำที่ต้นโพธิ์นี้อาจจัดเป็นสัญลักษณ์หมายความว่าผู้นั้นมีส่วนในการค้ำชูพระพุทธศาสนาพบว่าต้นโพธิ์ที่มีไม้ค้ำมากที่สุดคือต้นโพธิ์ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงแต่ในบางท้องถิ่นแล้วแทนที่แต่ละคนจะนำเอาไม้ค้ำไปค้ำต้นโพธิ์ตามประสงค์ของแต่ละคนนั้นเมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์ก็จะนัดหมายให้ชาวบ้านร่วมกันไปหาไม้ค้ำซึ่งจะมีขนาดใหญ่แล้วตกแต่งให้งามจากนั้นจึงทำพิธีแห่ไม้ค้ำนั้นร่วมขบวนกันเพื่อไปถวายวัดและนำไปค้ำต้นโพธิ์ด ังจะเห็นได้จากศรัทธาชาวบ้านในอำเภอจอมทองและอำเภอหางดงเป็นต้น Thanawat Thongtanในตอนเริ่มแรกก่อนที่พิธีการดังกล่าวจะถูกยึดถือปฏิบัติจนกลายมาเป็นประเพณีแห่งไม้ค้ำโพธิ์อย่างทุกวันนี้ประชาชนยังไม่มีความคิดที่จะทำร่วมกันต่างคนต่างไปจัดหาและทำพิธีสืบชาตาราศีแล้วนำไม้ไปค้ำต้นโพธิ์เองต่อมาเมื่อได้ทำเป็นประจำทุกๆนานๆเข้าประชานก็ได . ้รวมกันเป็นหมู่บ้านเป็นตำบลเช่นจัดรวมกันเป็นหมู่ที่ 1 ตำบลบ้านหลวงหมู่ที่ 6 ตำบลข่วงเปาอำเภอจอมทองเป็นต้นต่างจัดหาไม้ง่ามที่มีลักษณะดีงามแล้วนำมาตกแต่งด้วยการทาขมิ้นและประดับกระดาษสีจากนั้นจึงนำขึ้นเกวียนแห่ไปทำพิธีค้ำต้นโพธิ์ในวัดพระธาตุศรีจอมทองวรว ิหารในช่วงที่แห่ไปนั้นนอกจาจะมีผู้คนทั้งผู้เฒ่าผู้แก
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: