Discussion We compared 2 similar gr

Discussion We compared 2 similar groups of ICU patients admitted who had normal serum levels of potassium and creatinine at the time of admission. The patients had a variety of medical and surgical diagnoses. Compared with the control group, patients who were treated empirically with a potassium supplement added to maintenance intravenous fluid at a rate of 72 to 144 mmol/d received significantly fewer potassium boluses throughout their ICU stay. This difference between the 2 groups was true for all diagnostic categories. Receiving fewer potassium boluses did not affect the ICU length of stay, but it did decrease the number of invasive procedures and the risk associated with potassium administration. In addition, we calculated a direct savings in material costs of approximately $231 per patient. Most important, because a potassium bolus is administered in response to low serum levels of potassium, the patients in the treatment group had significantly fewer episodes of hypokalemia. Limitations of our study include the lack of random assignment of patients and data collection for a single site. However, because of the physical and financial benefit to patients and the decrease in workload for health care providers, preemptive administration of potassium to prevent episodes of hypokalemia should be considered for patients admitted to critical care areas who require intravenous fluid at a rate of 75 mL/h or greater. Further studies with a prospective design and random assignment to allow for the generalizability of the results are needed. Such studies may indicate a need to

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สนทนาที่เราเปรียบเทียบ 2 กลุ่มของผู้ป่วย ICU เข้าที่มีซีรั่มปกติระดับ creatinine และโพแทสเซียมในขณะค่าเข้าชม ผู้ป่วยที่มีความหลากหลายของการวินิจฉัยทางการแพทย์ และการผ่าตัด เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาเชิงประสบการณ์ด้วย มีอาหารเสริมโพแทสเซียมเพิ่มการบำรุงรักษาของเหลวทางหลอดเลือดดำอัตรา 72 144 mmol/d ที่ ได้รับอย่างมีนัยสำคัญน้อยกว่าโพแทสเซียม boluses ห้องพัก ICU ความแตกต่างระหว่าง 2 กลุ่มนี้เป็นความจริงสำหรับประเภทการวิเคราะห์ทั้งหมด ได้รับโพแทสเซียมน้อย boluses ไรยาว ICU ของ แต่มันไม่ลดจำนวนของขั้นตอนการรุกรานและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการบริหารของโพแทสเซียม นอกจากนี้ เราสามารถคำนวณเงินออมตรงที่ต้นทุนวัสดุของประมาณ $231 ต่อผู้ป่วย สำคัญที่สุด เนื่องจากมีการบริหารงานแบบ bolus โพแทสเซียมในซีรั่มต่ำระดับของโพแทสเซียม ผู้ป่วยในกลุ่มรักษาตอนที่น้อยลงอย่างมากของธาตุที่มี ข้อจำกัดของการศึกษาของเราได้แก่การขาดการกำหนดแบบสุ่มของผู้ป่วยและการเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับเว็บไซต์เดียว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประโยชน์ทางกายภาพ และการเงินต่อผู้ป่วยและการลดปริมาณงานให้บริการดูแลสุขภาพ การจัดการเพื่อป้องกันตอนของธาตุโพแทสเซียม preemptive ควรพิจารณาสำหรับผู้ป่วยที่เข้าพื้นที่สำคัญดูแลที่ต้องฉีดของเหลวที่อัตรา 75 มิลลิลิตรต่อชั่วโมง หรือมากกว่า ศึกษาเพิ่มเติมกับผู้สนใจออกแบบและการกำหนดแบบสุ่มการอนุญาตสำหรับ generalizability ผลลัพธ์มีความจำเป็น การศึกษาดังกล่าวอาจบ่งชี้ว่า จำเป็นต้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การอภิปรายเราเมื่อเทียบกับ 2 กลุ่มคือกลุ่มของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาห้องไอซียูที่คล้ายกันที่มีระดับซีรั่มปกติของโพแทสเซียมและ creatinine ในช่วงเวลาของการรับสมัคร ผู้ป่วยมีความหลากหลายของการวินิจฉัยทางการแพทย์และศัลยกรรม เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการสังเกตุเสริมโพแทสเซียมเพิ่มลงในการบำรุงรักษาของเหลวทางหลอดเลือดดำในอัตรา 72-144 มิลลิโมล / D ได้รับ boluses โพแทสเซียมอย่างมีนัยสำคัญน้อยลงตลอดการเข้าพักห้องไอซียูของพวกเขา ความแตกต่างระหว่าง 2 กลุ่มนี้เป็นจริงสำหรับทุกประเภทการวินิจฉัย รับ boluses โพแทสเซียมน้อยลงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อระยะเวลาในห้องไอซียูในการเข้าพัก แต่มันไม่ลดจำนวนของขั้นตอนการรุกรานและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการบริหารโพแทสเซียม นอกจากนี้เราคำนวณเงินฝากออมทรัพย์โดยตรงในค่าใช้จ่ายวัสดุที่ประมาณ $ 231 ต่อผู้ป่วย สิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะยาลูกกลอนโพแทสเซียมเป็นยาในการตอบสนองต่อระดับซีรั่มต่ำของโพแทสเซียมผู้ป่วยในกลุ่มการรักษามีตอนอย่างมีนัยสำคัญน้อยลง hypokalemia ข้อ จำกัด ของการศึกษาของเรารวมถึงการขาดของการกำหนดแบบสุ่มของผู้ป่วยและการเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับไซต์เดียว แต่เนื่องจากผลประโยชน์ทางกายภาพและทางการเงินให้กับผู้ป่วยและการลดลงของภาระงานสำหรับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพการบริหารมาตรการของโพแทสเซียมเพื่อป้องกันไม่ให้เอพ hypokalemia ควรพิจารณาสำหรับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาพื้นที่การดูแลที่สำคัญที่ต้องการของเหลวทางหลอดเลือดดำในอัตรา 75 มล / ชั่วโมงหรือมากกว่า การศึกษาต่อไปด้วยการออกแบบที่คาดหวังและการกำหนดแบบสุ่มเพื่อให้ generalizability ของผลที่มีความจำเป็น การศึกษาดังกล่าวอาจบ่งบอกถึงความจำเป็นไปยัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเปรียบเทียบ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่คล้ายกันของผู้ป่วยยอมรับที่ปกติเซรั่มระดับของโพแทสเซียมและครีในเวลาของการเข้าชม ผู้ป่วยมีความหลากหลายของการแพทย์และศัลยกรรมโรค เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการใช้โพแทสเซียมเสริมเพิ่มการบำรุงรักษาฉีดของเหลวในอัตรา 72 144 mmol / D ได้รับอย่างมีนัยสำคัญน้อยกว่าโพแทสเซียม boluses ตลอดทั้งห้องไอซียูอยู่ ความแตกต่างระหว่าง 2 กลุ่มนี้เป็นจริงสำหรับประเภทการวินิจฉัยทั้งหมด รับ boluses โพแทสเซียมน้อยไม่มีผลต่อความยาวของการเข้าพักที่ห้องไอซียู แต่มันลด จำนวนวิธีที่ invasive และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับโพแทสเซียม ) นอกจากนี้ เราคำนวณโดยตรงประหยัดต้นทุน ประมาณ $ 231 / ผู้ป่วย ที่สำคัญที่สุด เพราะโพแทสเซียมตำหนิติเตียนเป็นการวัดผลในการตอบสนองระดับซีรั่มโปแตสเซียมต่ำ ผู้ป่วยกลุ่มการรักษามีเอพอย่างมีนัยสำคัญน้อยกว่า hypokalemia . ข้อจำกัดของการศึกษาของเรารวมถึงการขาดการสุ่มของผู้ป่วยและรวบรวมข้อมูลในเว็บไซต์เดียว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากลักษณะทางกายภาพและทางการเงินแก่ผู้ป่วย และลดภาระงานสำหรับผู้ให้บริการการดูแลสุขภาพการบริหารเชิงรุกของโพแทสเซียมเพื่อป้องกันตอนเซียมที่ควรพิจารณาสำหรับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในพื้นที่การดูแลที่สำคัญที่ต้องใช้ฉีดของเหลวในอัตราต่อชั่วโมงหรือมากกว่า 75 ml . การศึกษาต่อด้วยอนาคตการออกแบบการสุ่มเพื่อให้สามารถสรุปอ้างอิงของผลลัพธ์ที่ต้องการ การศึกษาดังกล่าวอาจบ่งชี้ว่า ต้องการ