Most colleges and universities prov

Most colleges and universities provide single or multiple occupancy rooms for their students, usually at a cost. These buildings consist of many such rooms, like an apartment building, and the number of rooms varies quite widely from just a few to hundreds.

Many colleges and universities no longer recognize the word "dormitory" and staff are now using the term residence hall (analogous to the United Kingdom "hall of residence") or simply "hall" instead. This is promoted as better describing a living and learning community that is part of the larger academic institution. When the word "dorm" was first adapted for universities and colleges, the atmosphere of the buildings served as places for students to sleep. Often students had a curfew to be in the building for "lights out" and a "dorm mother" was in charge of running the building. This is no longer true as residence halls as of 2007 strive to provide a more inclusive community for residents. Features of life such as cafeterias, academic centers, active and passive programming, resident assistants and hall coordinators have given a new experience to living on campus.

College and university residential rooms vary in size, shape, facilities and number of occupants. Typically, a United States residence hall room holds two students with no toilet. This is usually referred to as a "double". Often, residence halls have communal bathroom facilities. In the United States, residence halls are sometimes segregated by sex, with men living in one group of rooms, and women in another. Some dormitory complexes are single-sex with varying limits on visits by persons of each sex. For example, the University of Notre Dame in Indiana has a long history of Parietals, or mixed visiting hours. Most colleges and universities offer coeducational dorms, where either men and women reside on separate floors but in the same building or where both sexes share a floor but with individual rooms being single-sex. In the early 2000s, dorms that allowed people of opposite sexes to share a room became available in some public universities.[1] Some colleges and university coeducational dormitories also feature coeducational bathrooms.

Most residence halls are much closer to campus than comparable private housing such as apartment buildings. This convenience is a major factor in the choice of where to live since living physically closer to classrooms is often preferred, particularly for first-year students who may not be permitted to park vehicles on campus. Universities may therefore provide priority to first-year students when allocating this accommodation.

Halls located away from university facilities sometimes have extra amenities such as a recreation room or bar. As with campus located residence halls, these off-campus halls commonly also have Internet facilities, either through a network connection in each student room, a central computer cluster room, or Wi-Fi. Catered halls may charge for food by the meal or through a termly subscription. They may also contain basic kitchen facilities for student use outside catering hours. Most halls contain a laundry room.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ให้พักเดียว หรือหลายห้องสำหรับนักเรียนของพวกเขา โดยปกติที่มีต้นทุน อาคารเหล่านี้ประกอบด้วยหลายเช่นห้อง ตัวอาคาร และจำนวนห้องแตกต่างกันมากจากเพียงไม่กี่การร้อยวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยจำนวนมากไม่รู้จักคำว่า "หอพัก" และพนักงานอยู่ตอนนี้หอพักระยะ (คล้ายคลึงกับสหราชอาณาจักร "หอของ") หรือเพียงแค่ "ฮอลล์" แทน นี้คือการส่งเสริมเป็นการอธิบายดีกว่านั่งเล่นและเรียนรู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการศึกษาขนาดใหญ่ เมื่อก่อนคำว่า "หอพัก" ถูกดัดแปลงในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย บรรยากาศของอาคารทำหน้าที่เป็นสถานที่สำหรับนอน มักจะเรียนมีเคอร์ฟิวในอาคาร "ไฟออก" และ "หอแม่" มีหน้าที่ทำงานอาคาร ก็ไม่เป็น/จัดเลี้ยงพักอาศัย 2550 มุ่งมั่นให้ชุมชนมากสำหรับผู้อยู่อาศัย คุณลักษณะของสิ่งมีชีวิตเช่น cafeterias กีฬา ศูนย์วิชาการ การเขียนโปรแกรมใช้งาน และ passive ผู้ช่วยประจำ และผู้ประสานงานหอให้ประสบการณ์ใหม่ไปใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยCollege and university residential rooms vary in size, shape, facilities and number of occupants. Typically, a United States residence hall room holds two students with no toilet. This is usually referred to as a "double". Often, residence halls have communal bathroom facilities. In the United States, residence halls are sometimes segregated by sex, with men living in one group of rooms, and women in another. Some dormitory complexes are single-sex with varying limits on visits by persons of each sex. For example, the University of Notre Dame in Indiana has a long history of Parietals, or mixed visiting hours. Most colleges and universities offer coeducational dorms, where either men and women reside on separate floors but in the same building or where both sexes share a floor but with individual rooms being single-sex. In the early 2000s, dorms that allowed people of opposite sexes to share a room became available in some public universities.[1] Some colleges and university coeducational dormitories also feature coeducational bathrooms.Most residence halls are much closer to campus than comparable private housing such as apartment buildings. This convenience is a major factor in the choice of where to live since living physically closer to classrooms is often preferred, particularly for first-year students who may not be permitted to park vehicles on campus. Universities may therefore provide priority to first-year students when allocating this accommodation.Halls located away from university facilities sometimes have extra amenities such as a recreation room or bar. As with campus located residence halls, these off-campus halls commonly also have Internet facilities, either through a network connection in each student room, a central computer cluster room, or Wi-Fi. Catered halls may charge for food by the meal or through a termly subscription. They may also contain basic kitchen facilities for student use outside catering hours. Most halls contain a laundry room.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ให้บริการห้องพักเตียงเดี่ยวหรือหลายสำหรับนักเรียนของพวกเขามักจะมีค่าใช้จ่าย อาคารเหล่านี้ประกอบด้วยห้องพักดังกล่าวจำนวนมากเช่นเดียวกับการสร้างอพาร์ทเม้นและจำนวนห้องพักที่แตกต่างกันค่อนข้างกว้างขวางจากเพียงไม่กี่ร้อย. วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยหลายแห่งไม่รู้จักคำว่า "หอพัก" และพนักงานกำลังใช้ศาลาที่พักระยะ ( คล้ายกับสหราชอาณาจักร "ฮอลล์ที่อยู่อาศัย") หรือ "ฮอลล์" แทน นี้จะส่งเสริมให้เป็นดีกว่าที่อธิบายชีวิตและชุมชนการเรียนรู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการศึกษาที่มีขนาดใหญ่ เมื่อคำว่า "หอพัก" ถูกนำมาดัดแปลงเป็นครั้งแรกสำหรับมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยบรรยากาศของอาคารที่ทำหน้าที่เป็นสถานที่สำหรับนักเรียนที่จะนอนหลับ บ่อยครั้งที่นักเรียนมีเคอร์ฟิวที่จะอยู่ในอาคารสำหรับ "ไฟออก" และ "หอพักแม่" อยู่ในความดูแลของการใช้อาคาร นี้ไม่จริงเป็นหอพักเป็นของปี 2007 มุ่งมั่นที่จะให้ชุมชนรวมมากขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัย คุณสมบัติของชีวิตเช่นโรงอาหาร, ศูนย์วิชาการเขียนโปรแกรมใช้งานและ passive, ผู้ช่วยผู้ประสานงานและมีถิ่นที่อยู่ในห้องโถงได้ให้ประสบการณ์ใหม่กับการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย. วิทยาลัยและห้องที่อยู่อาศัยมหาวิทยาลัยแตกต่างกันในขนาดรูปร่างสิ่งอำนวยความสะดวกและจำนวนผู้โดยสาร โดยปกติแล้วห้องฮอลล์ที่อยู่อาศัยสหรัฐอเมริกาถือสองนักเรียนที่มีห้องสุขาไม่มี นี้มักจะเรียกว่า "คู่" บ่อยครั้งที่ห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกห้องน้ำชุมชน ในประเทศสหรัฐอเมริกา, หอพักบางครั้งมีการแยกตามเพศกับผู้ชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในกลุ่มของห้องพักและผู้หญิงอีก บางคอมเพล็กซ์หอพักมีเพศเดียวกับที่แตกต่างกันข้อ จำกัด ในการเข้าชมโดยบุคคลของแต่ละเพศสัมพันธ์ ตัวอย่างเช่นมหาวิทยาลัยเดมในรัฐอินเดียนามีประวัติศาสตร์อันยาวนานของ Parietals หรือเวลาเยี่ยมผสม วิทยาลัยส่วนใหญ่และมหาวิทยาลัยมีหอพักศึกษาร่วมกันที่ทั้งชายและหญิงที่อาศัยอยู่บนชั้นที่แยกจากกัน แต่ในอาคารเดียวกันหรือที่ทั้งสองเพศร่วมชั้น แต่มีห้องพักของแต่ละบุคคลเป็นเพศเดียว ในช่วงต้นยุค 2000 หอพักที่อนุญาตให้คนเพศตรงข้ามที่จะแบ่งปันกลายเป็นห้องพักที่มีอยู่ในบางมหาวิทยาลัยของรัฐ. [1] บางวิทยาลัยและหอพักมหาวิทยาลัยศึกษาร่วมกันมีห้องอาบน้ำร่วมกัน. หอพักส่วนใหญ่จะเป็นมากใกล้กับมหาวิทยาลัยกว่าที่อยู่อาศัยส่วนตัวเปรียบดังกล่าว อาคารอพาร์ทเม้น ความสะดวกสบายนี้เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ที่อาศัยอยู่ใกล้ชิดกับร่างกายห้องเรียนมักจะเป็นที่ต้องการโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักศึกษาปีแรกที่อาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้จอดรถในมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยจึงอาจจะให้ความสำคัญกับนักศึกษาปีแรกเมื่อการจัดสรรที่พักแห่งนี้. ฮอลล์ตั้งอยู่ห่างจากสิ่งอำนวยความสะดวกในมหาวิทยาลัยบางครั้งอาจมีสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษเช่นห้องสันทนาการหรือแถบ เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยตั้งอยู่หอพักเหล่านี้ห้องโถงนอกมหาวิทยาลัยทั่วไปยังมีบริการอินเตอร์เน็ตทั้งผ่านการเชื่อมต่อเครือข่ายในแต่ละห้องพักของนักเรียนกลุ่มห้องคอมพิวเตอร์กลางหรือ Wi-Fi ห้องโถงรองรับอาจจะคิดค่าบริการสำหรับอาหารมื้อหรือผ่านการสมัครสมาชิก termly พวกเขาก็อาจจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานที่ห้องครัวสำหรับการใช้งานของนักเรียนนอกเวลาอาหาร ส่วนใหญ่มีห้องโถงห้องซักรีด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยให้มากที่สุด เดียว หรือห้องพักหลายสำหรับนักเรียนของพวกเขา มักจะเป็นค่าใช้จ่าย อาคารนี้ประกอบด้วยห้องต่างๆ มากมาย เช่น อพาร์ทเม้นท์ และหมายเลขห้องที่แตกต่างกันค่อนข้างกว้างจากเพียงไม่กี่หลายร้อย

หลายวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยที่ไม่รู้จักคำว่า " หอพัก " และพนักงาน ตอนนี้ใช้คำว่าหอพัก ( คล้ายคลึงกับสหราชอาณาจักร " ห้องโถงของตำหนัก " ) หรือเพียงแค่ " ฮอลล์ " แทน นี้เป็นดีอธิบายอยู่และเรียนรู้ชุมชนที่เป็นส่วนหนึ่งของขนาดใหญ่สถาบันการศึกษา เมื่อคำว่า " หอ " เป็นครั้งแรกที่ดัดแปลงสำหรับมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยบรรยากาศของอาคารทำหน้าที่เป็นสถานที่สำหรับนักเรียนที่จะนอนหลับ นักเรียนมักจะมีเคอร์ฟิวอยู่ในตึก " ไฟ " และ " แม่ " ที่หอก็มีส่วนในการใช้อาคาร นี้ไม่เป็นความจริง เช่น หอพักเป็น 2007 มุ่งมั่นที่จะให้ชุมชนรวมมากขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัย ศูนย์วิชาการคุณลักษณะของชีวิต เช่น โรงอาหาร , การใช้งานและการเขียนโปรแกรมเรื่อยๆ ,ผู้ช่วยผู้อยู่อาศัยและผู้ประสานงาน ฮอลล์ ได้รับประสบการณ์ใหม่เพื่อการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย

ที่อยู่อาศัยห้องพักแตกต่างกันในขนาดรูปร่างเครื่อง และจำนวนผู้โดยสาร . โดยปกติ , สหรัฐอเมริกาหอพักห้องถือสองนักเรียนที่ไม่มีห้องน้ำ นี้มักจะเรียกว่าเป็น " คู่ " บ่อยครั้งที่หอพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกห้องน้ำส่วนกลาง ในสหรัฐอเมริกาหอพักบางครั้งแยกตามเพศ ผู้ชายอยู่ในกลุ่มหนึ่งของบุหรี่ และผู้หญิงในอีก สารประกอบเชิงซ้อนบางหอพักเดียว เพศที่ จำกัด ในการเข้าชมโดยคนแต่ละเพศ ตัวอย่างเช่น , มหาวิทยาลัยของ Notre Dame ในรัฐอินเดียนา มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของ parietals หรือผสมถึงชั่วโมงเยี่ยมแล้ว วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่มีสหศึกษาหอที่ทั้งชายและหญิงอยู่ในแยกชั้น แต่ในอาคารเดียวกันหรือทั้งสองเพศแบ่งชั้น แต่ห้องแต่ละเดียว เซ็กส์ ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 , หอที่อนุญาตให้คนเพศตรงข้ามห้องเดียวกันเป็นใช้ได้ในบางรัฐ [ 1 ] บางวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยสหศึกษา หอพัก มีห้องน้ำ สหศึกษา .

ห้องพักส่วนใหญ่มีมากใกล้มหาวิทยาลัยมากกว่าที่อยู่อาศัยส่วนบุคคลเปรียบเช่นอาคารอพาร์ทเม้น ความสะดวกสบายนี้เป็นปัจจัยหลักในการเลือกที่จะอาศัยอยู่ตั้งแต่ชีวิตทางกายภาพเข้าไปใกล้ห้องเรียนบ่อยครั้งที่ต้องการโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่อาจไม่อนุญาตให้จอดยานพาหนะในวิทยาเขตมหาวิทยาลัยอาจให้ความสำคัญกับนักศึกษาใหม่ ดังนั้นเมื่อการจัดสรรสถานที่ตั้งนี้

หอพักตั้งอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยเครื่องบางครั้งมีการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องสันทนาการ หรือบาร์ เป็นวิทยาเขตที่ตั้งหอพักเหล่านี้นอกมหาวิทยาลัยหอพักทั่วไปยังมีอินเตอร์เน็ตทั้งผ่านการเชื่อมต่อเครือข่ายในนักเรียนแต่ละห้องคอมพิวเตอร์คลัสเตอร์กลางห้องหรือ Wi - Fi . บริการ หอพักอาจจะคิดค่าอาหาร โดยอาหาร หรือผ่านการสมัครสมาชิก termly . พวกเขาอาจยังประกอบด้วยเครื่องครัวพื้นฐานสำหรับนักเรียนใช้นอกเวลาอาหาร หอพักส่วนใหญ่มีห้องซักรีด