As outlined previously, some resear

As outlined previously, some research has used existing paradigms to elicit perfectionism. One study created an academic writing task to explore perfectionism in college students (Frost & Marten, 1990). However, such studies have not measured the extent to which perfectionistic behaviors are observable by others during task J.H. Mitchell et al. / Journal of Experimental Child Psychology 116 (2013) 1–18 3completion but rather rely on performance scores and self-reported perfectionism. To our knowledge, there is no observational measure of behavioral markers of perfectionism. The aim of the current study was to investigate the impact of perfectionistic rearing behaviors by parents on clinically anxious and non-anxious children during a novel observational task for perfectionism, the Figure Copy Task. Mother–child dyads were randomized into one of two conditions: high perfectionistic rearing condition or non-perfectionistic rearing condition. Mothers in the high perfectionistic rearing condition were instructed to interact with their children in a manner that focused on accuracy and avoidance of mistakes while the children were completing the Figure Copy Task. Mothers in the non-perfectionistic rearing condition were instructed to minimize the importance of accuracy and avoidance mistakes and to help their children in a relaxing and calm manner. The Figure Copy Task was completed three times across three phases of the experimental session. The first phase was a baseline measure of children’s perfectionism during the task (Figure Copy Task 1, pre-experimental manipulation), the second involved an intervention where mothers delivered high perfectionistic or non-perfectionistic rearing behaviors according to experimental randomization (Figure Copy Task 2), and the third phase determined the impact of the experimental rearing conditions (Figure Copy Task 3, post-experimental manipulation). We hypothesized that (a) anxious children would report and exhibit significantly higher perfectionism than non-anxious children at baseline, (b) high perfectionistic rearing behaviors during the Figure Copy Task would result in greater child perfectionism and poorer task performance compared with non-perfectionistic rearing behaviors, and (c) anxious children’s task performance and perfectionism would be significantly more affected by experimentally manipulated perfectionistic rearing behaviors than those of non-anxious children.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ วิจัยบางได้ใช้ paradigms อยู่เพื่อบอกหยุ่น หนึ่งการศึกษาสร้างงานเขียนเชิงวิชาการการสำรวจหยุ่นในนักศึกษา (Frost & มาร์เทิน 1990) อย่างไรก็ตาม เช่นการศึกษาไม่ได้วัดขอบเขตที่ทำงาน perfectionistic observable ผู้อื่นในระหว่างงาน J.H. Mitchell et al. / 3completion 1-18 ของสมุดรายวันของทดลองเด็กจิตวิทยา 116 (2013) แต่แทนที่จะ อาศัยคะแนนประสิทธิภาพและหยุ่นรายงานด้วยตนเอง ความรู้ของเรา มีวัดตัวแสดงพฤติกรรมหยุ่นไม่สังเกตการณ์ จุดมุ่งหมายของการศึกษาปัจจุบันมีการ ตรวจสอบผลกระทบของพฤติกรรมแม่ perfectionistic โดยผู้ปกครองกับเด็กกังวล และไม่วิตกทางคลินิกระหว่างงานสังเกตการณ์นวนิยายสำหรับหยุ่น งานการคัดลอกรูป Dyads แม่ – ลูกได้ randomized เป็นหนึ่งในสองเงื่อนไข: สูงสภาพแม่ perfectionistic หรือสภาพการเพาะเลี้ยงไม่ใช่ perfectionistic มารดาในสภาพ rearing perfectionistic สูงถูกสั่งให้ทำงานกับเด็กในลักษณะที่เน้นถึงความถูกต้องและหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในขณะที่เด็กได้ทำงานการคัดลอกรูป มารดาในสภาพ rearing ไม่ perfectionistic ได้รับคำแนะนำ เพื่อลดความสำคัญของความถูกต้องและหลีกเลี่ยงความผิดพลาด และ เพื่อช่วยให้เด็กผ่อนคลาย และสงบ งานการคัดลอกรูปเสร็จสามครั้งในสามขั้นตอนของงานทดลอง ระยะแรกเป็นการวัดพื้นฐานของหยุ่นเด็กงาน (รูปสำเนางาน 1 จัดการทดลองก่อน) ที่สองเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงที่แม่ส่งสูง perfectionistic หรือไม่ perfectionistic แม่พฤติกรรมตาม randomization ทดลอง (รูป 2 งานคัดลอก), และระยะที่สามกำหนดผลกระทบของสภาพ rearing ทดลอง (รูปสำเนางาน 3 จัดการหลังทดลอง) เราตั้งสมมติฐานว่าที่เด็ก (ก) กระตือรือร้นจะรายงาน และแสดงหยุ่นสูงมากกว่าเด็กพื้นฐาน, (b) สูงพฤติกรรมแม่ perfectionistic ระหว่างงานการคัดลอกรูปจะส่งผลมากกว่าเด็กหยุ่น และประสิทธิภาพงานย่อมเปรียบเทียบกับพฤติกรรมที่แม่ไม่ perfectionistic และประสิทธิภาพการทำงานของเด็ก (c) กังวลงาน และหยุ่นจะมากขึ้นได้รับผลกระทบโดย experimentally จัดการพฤติกรรมแม่ perfectionistic กว่าของเด็กไม่กังวลไม่กังวล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดังที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้บางวิจัยได้ใช้กรอบความคิดที่มีอยู่เพื่อล้วงเอาสิ่งดีเลิศ การศึกษาชิ้นหนึ่งที่สร้างงานเขียนเชิงวิชาการที่จะสำรวจในอุดมคตินักศึกษา (Frost & มอร์เทน, 1990) อย่างไรก็ตามการศึกษาดังกล่าวยังไม่ได้วัดขอบเขตที่พฤติกรรม perfectionistic เป็นที่สังเกตได้โดยคนอื่น ๆ ในช่วงงาน JH มิทเชลและคณะ / วารสารทดลองจิตวิทยาเด็ก 116 (2013) 1-18 3completion แต่พึ่งพาการปฏิบัติงานและผลการแข่งขันที่ดีเลิศตนเองรายงาน เพื่อความรู้ของเราไม่มีตัวชี้วัดการสังเกตการณ์ของตัวบ่งชี้พฤติกรรมของอุดมคติ จุดมุ่งหมายของการศึกษาในปัจจุบันคือการตรวจสอบผลกระทบของพฤติกรรมการเลี้ยง perfectionistic โดยพ่อแม่ของเด็กกังวลทางคลินิกและไม่กังวลในช่วงงานสังเกตการณ์ใหม่สำหรับดีเลิศ, การคัดลอกรูปงาน dyads แม่เด็กถูกสุ่มเป็นหนึ่งในสองเงื่อนไขสภาพการเลี้ยงสูง perfectionistic หรือสภาพการเลี้ยงที่ไม่ perfectionistic แม่อยู่ในสภาพการเลี้ยง perfectionistic สูงได้รับคำสั่งให้มีปฏิสัมพันธ์กับเด็กของพวกเขาในลักษณะที่มุ่งเน้นไปที่ความถูกต้องและการหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในขณะที่เด็กได้รับการเสร็จสิ้นการคัดลอกรูปงาน แม่อยู่ในสภาพการเลี้ยงที่ไม่ perfectionistic ได้รับคำสั่งให้ลดความสำคัญของความผิดพลาดความถูกต้องและการหลีกเลี่ยงและเพื่อช่วยให้เด็กของพวกเขาในลักษณะที่ผ่อนคลายและสงบ คัดลอกรูปงานเสร็จสามครั้งทั่วทั้งสามขั้นตอนของเซสชั่นการทดลอง ระยะแรกเป็นมาตรการพื้นฐานของอุดมคติของเด็กในช่วงงาน (รูปที่คัดลอกงาน 1 การจัดการก่อนการทดลอง) ที่สองเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงที่แม่ส่งพฤติกรรมการเลี้ยงสูง perfectionistic หรือไม่ perfectionistic ตามการสุ่มทดลอง (รูปที่คัดลอกงาน 2 ) และระยะที่สามกำหนดผลกระทบของสภาพการเลี้ยงทดลอง (รูปที่ 3 คัดลอกงาน, การจัดการหลังการทดลอง) เราตั้งสมมติฐานว่า (ก) เด็กกังวลจะรายงานและจัดแสดงในอุดมคติที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกว่าเด็กที่ไม่ได้กังวลที่ baseline (ข) สูงพฤติกรรมการเลี้ยง perfectionistic ในระหว่างการคัดลอกงานรูปจะส่งผลในอุดมคติของเด็กมากขึ้นและปฏิบัติงานที่ยากจนกว่าเมื่อเทียบกับที่ไม่ perfectionistic พฤติกรรมการเลี้ยงและ (ค) ปฏิบัติงานเด็กกังวลและดีเลิศจะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นโดยการจัดการทดลองพฤติกรรมการเลี้ยง perfectionistic กว่าเด็กที่ไม่ได้กังวล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ งานวิจัยได้ใช้กระบวนทัศน์ที่มีอยู่เพื่อกระตุ้นความสามารถของ . การศึกษาหนึ่งที่สร้างเป็นงานเขียนเชิงวิชาการเพื่อศึกษาความสามารถของนักศึกษาวิทยาลัย ( Frost &หมาไม้ , 2533 ) อย่างไรก็ตาม การศึกษาดังกล่าวยังไม่ได้วัดขอบเขตซึ่งพฤติกรรม perfectionistic จะสังเกตโดยผู้อื่นในงาน j.h. Mitchell et al .วารสารของจิตวิทยาเด็กทดลอง 116 ( 2013 ) 1 – 18 3completion แต่พึ่งพาคะแนนประสิทธิภาพและ self-reported perfectionism . ความรู้ที่ไม่มีวัด การสังเกตพฤติกรรมของเครื่องหมายของความสมบูรณ์แบบ .จุดมุ่งหมายของการวิจัยคือ เพื่อศึกษาผลกระทบของ perfectionistic พฤติกรรมการเลี้ยงดูโดยพ่อแม่ที่กังวลและไม่พบเด็กกังวลในงานแบบใหม่สำหรับ perfectionism , รูปคัดลอกงาน แม่–ลูกไดแอดสุ่มเป็นหนึ่งในเงื่อนไข 2 เงื่อนไข หรือสูง perfectionistic เลี้ยงไม่เลี้ยง perfectionistic เงื่อนไขมารดาในการเลี้ยงสูง สภาพ perfectionistic ถูกสั่งให้โต้ตอบกับเด็กของพวกเขาในลักษณะที่เน้นความถูกต้องและหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในขณะที่เด็กจบรูปที่คัดลอกงานมารดาในการเลี้ยงไม่ perfectionistic สภาพถูกสั่งให้ลดความสำคัญของความถูกต้องและการหลีกเลี่ยงความผิดพลาด และเพื่อช่วยให้เด็กของพวกเขาในลักษณะที่ผ่อนคลายและสงบ รูปที่คัดลอกงานเสร็จสามครั้งใน 3 ระยะของช่วงทดลอง ขั้นตอนแรกคือพื้นฐานของเด็ก วัดความสามารถในงาน ( คัดลอกรูปงาน 1ก่อนทดลองจัดการ ) ที่สองเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงที่แม่ส่งสูง perfectionistic หรือไม่ perfectionistic พฤติกรรมการเลี้ยงดูจากชุดทดลอง ( คัดลอกรูปงาน 2 ) และระยะที่ 3 พิจารณาผลกระทบของเงื่อนไขแบบทดลอง ( คัดลอกรูปงาน 3 ทดลองการโพสต์ )เราตั้งสมมุติฐานว่า ( เด็ก ) กังวลจะรายงานและแสดงความสามารถ ไม่วิตกกว่าสูงกว่าเด็กที่ baseline ( B ) สูง perfectionistic พฤติกรรมการเลี้ยงดูในรูปที่คัดลอกงานจะส่งผลให้เด็กยากจนมากกว่าความสมบูรณ์แบบ และการปฏิบัติงานเทียบกับพฤติกรรมการเลี้ยงดูไม่ perfectionistic ,และ ( C ) กังวลเด็กงานประสิทธิภาพและความสามารถจะได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยทดลองใช้ perfectionistic พฤติกรรมการเลี้ยงดูมากกว่าเด็ก กังวลไม่