He refused to be part of the Sotus

He refused to be part of the Sotus (Seniority, Order, Tradition, Unity and Spirit) induction and started a Facebook page outlining the ceremonies - many of them humiliating - that new students faced as part of university life.

He explained that during freshmen's week, students must follow strange rituals such as dressing only in black and wearing Nanyang brand sport shoes. They are not allowed to carry any valuable personal belongings, not even a telephone.

Male students are banned from riding behind female cyclists and motorcyclists. Some faculties prohibit relationships, with students restricted to their dormitories outside study hours. Even when they want to leave the university campus, they have to seek approval from senior students who specify how long they can be away for. Those who break the rules are punished. Some of the rituals are enforced through the entire first year.

The freshmen are also forced to wear a tag carrying their student ID number, and punishment comes in the form of being shouted at and humiliated by senior students and being forced into "silly acts" such as dancing in the canteen, dressing in funny costumes or doing push-ups.

"I have disagreed with it since my first year at university," said Mr Panuwad, 20, who is in his second year and is secretary-general of the Anti-Sotus group.

"I refused to become involved in any of the activities of the university or my faculty, which later caused problems for me. There were social sanctions and I was criticised a lot. I was ostracised as I posted some of the university's secrets on Facebook a few days before I started my university life. They said information such as the rules and the 'welcoming traditions' are all secret but I think they are human rights violations."

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เขาปฏิเสธที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเหนี่ยวนำของโซตัส (อายุงาน สั่ง ประเพณี ความสามัคคี และจิตวิญญาณ) และเริ่มต้นเพจ Facebook สรุปพิธี - หลายคนวิจารณ์ - นักเรียนใหม่ต้องเผชิญกับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมหาวิทยาลัยเขาอธิบายว่า ในช่วงสัปดาห์ของนักศึกษา นักเรียนต้องทำตามพิธีกรรมที่แปลกเช่นการแต่งตัวในสีดำ และสวมรองเท้ากีฬาแบรนด์นันยาง พวกเขาไม่อนุญาตให้นำทรัพย์สินส่วนตัวใด ๆ มีคุณค่า โทรศัพท์ไม่ได้นักศึกษาชายเป็นสิ่งต้องห้ามจากขี่หลังนักปั่นหญิงและบิด บางคณะห้าม ความสัมพันธ์กับนักเรียนที่จำกัดอยู่ที่หอพักของตนเองนอกเวลาเรียน แม้ว่าพวกเขาต้องออกจากมหาวิทยาลัยวิทยาเขต พวกเขาต้องแสวงหาจากนักเรียนอาวุโสที่ระบุยาวพวกเขาได้ออกไปสำหรับ ผู้ที่ทำลายกฎลงโทษ บางส่วนของพิธีกรรมจะใช้ผ่านทั้งหมดปีแรกนักศึกษายังถูกบังคับให้ใส่แท็กแบกของนักเรียนหมายเลข และลงโทษในรูปของกำลังตะโกนที่ และหญิง โดยนักเรียนอาวุโสและถูกบังคับให้ "กระทำโง่" เช่นเต้นรำในโรงอาหาร การแต่งกายในเครื่องแต่งกายตลก หรือวิดพื้นทำงาน"ผมได้เห็นกับมันตั้งแต่ปีแรกที่มหาวิทยาลัย กล่าวว่า นาย Panuwad, 20 ที่ในปีที่สอง และเป็นเลขาธิการของกลุ่มต่อต้านโซตัส"ฉันปฏิเสธที่จะเข้าร่วมในกิจกรรมของมหาวิทยาลัยหรือคณะของฉัน ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในภายหลังค่ะ มีบทลงโทษทางสังคม และฉันถูกวิจารณ์มาก ฉันเป็น ostracised ตามที่ผมโพสต์บางส่วนของความลับของมหาวิทยาลัยบน Facebook ก่อนผมเริ่มชีวิตมหาวิทยาลัย พวกเขากล่าวว่า ข้อมูลเช่นกฎ และ 'ประเพณีต้อนรับ' มีความลับทั้งหมด แต่ผมคิดว่า เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เขาปฏิเสธที่จะเป็นส่วนหนึ่งของ Sotus (วุฒิการสั่งซื้อประเพณีสามัคคีและวิญญาณ) เหนี่ยวนำและเริ่มหน้า Facebook สรุปพิธีกร - มากของพวกเขาอัปยศ -. ที่นักศึกษาใหม่ต้องเผชิญกับการเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในมหาวิทยาลัย

เขาอธิบายว่าในช่วงสัปดาห์นักศึกษาของ นักเรียนจะต้องทำตามพิธีกรรมแปลก ๆ เช่นการแต่งกายเฉพาะในสีดำและสวมนันยางรองเท้ากีฬาแบรนด์ พวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวใด ๆ ที่มีคุณค่าไม่ได้โทรศัพท์.

นักเรียนชายถูกห้ามจากการขี่อยู่เบื้องหลังนักปั่นจักรยานหญิงและการขับขี่รถจักรยานยนต์ คณะบางคนห้ามความสัมพันธ์กับนักเรียน จำกัด ให้หอพักของพวกเขานอกเวลาการศึกษา แม้ในขณะที่พวกเขาต้องการที่จะออกจากมหาวิทยาลัยที่พวกเขาจะต้องขออนุมัติจากที่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ระบุระยะเวลาที่พวกเขาสามารถออกไปสำหรับ บรรดาผู้ที่ทำลายกฎจะต้องถูกลงโทษ บางส่วนของพิธีกรรมมีการบังคับใช้ผ่านปีแรกทั้งหมด.

นักศึกษายังถูกบังคับให้สวมใส่แท็กแบกหมายเลขประจำตัวนักเรียนของพวกเขาและการลงโทษมาในรูปแบบของการถูกตะโกนใส่และทำให้อับอายด้วยนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาและถูกบังคับให้เป็น "การกระทำที่โง่" เช่นการเต้นรำในโรงอาหาร, การแต่งกายในเครื่องแต่งกายตลกหรือทำ push-ups.

"ผมไม่เห็นด้วยกับมันตั้งแต่ปีแรกที่มหาวิทยาลัย" นาย Panuwad, 20, ผู้ที่อยู่ในปีที่สองของเขาและเป็นเลขาธิการกล่าวว่า anti-Sotus กลุ่ม.

"ผมปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมใด ๆ ของมหาวิทยาลัยหรือคณะของฉันซึ่งต่อมาได้ก่อให้เกิดปัญหาสำหรับผม. มีการลงโทษทางสังคมและฉันได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มาก. ผมได้เมตตาเป็นผมโพสต์บางส่วนของ ความลับของมหาวิทยาลัยบน Facebook ไม่กี่วันก่อนที่ผมจะเริ่มต้นชีวิตมหาวิทยาลัยของฉัน. พวกเขากล่าวว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นกฎและ 'ประเพณีต้อนรับ' เป็นความลับทั้งหมด แต่ฉันคิดว่าพวกเขาจะละเมิดสิทธิมนุษยชน. "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เขาปฏิเสธที่จะเป็นส่วนหนึ่งของโซตัส ( อาวุโส ระเบียบ ประเพณี สามัคคี และจิตวิญญาณ ) การเหนี่ยวนำและเริ่มหน้า Facebook กำหนดพิธี - มากของพวกเขาอัปยศ - ที่นักศึกษาใหม่ต้องเผชิญเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยชีวิตเขาอธิบายว่า ในระหว่างสัปดาห์ นิสิตชั้นปีที่ 1 นักศึกษาจะต้องปฏิบัติตามพิธีกรรมแปลก เช่น การแต่งกาย เฉพาะในสีดำและใส่นันยางแบรนด์กีฬารองเท้า พวกเขาไม่อนุญาตให้พกข้าวของส่วนตัวใด ๆที่มีคุณค่า แม้แต่โทรศัพท์นักเรียนชาย ถูกห้ามขี่ตามหลังนักปั่นหญิงและผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ . บางคณะห้ามความสัมพันธ์ กับนักเรียน จำกัด ของหอพักนอกชั่วโมงเรียน แม้เมื่อพวกเขาต้องการที่จะออกจากมหาวิทยาลัยก็ต้องขออนุมัติจากนักศึกษารุ่นพี่ที่ระบุระยะเวลาที่พวกเขาสามารถไปสำหรับ คนที่ทำผิดกฏจะถูกลงโทษ พิธีกรรม บังคับใช้ผ่านปีแรกทั้งหมดนักศึกษาถูกบังคับให้ใส่หมายเลข ID ของพวกเขาแท็กแบกนักเรียน และการลงโทษ มาในรูปแบบของการวาดและขายหน้า โดยนักเรียนอาวุโส และถูกบังคับให้ " การกระทำโง่ๆ " เช่นเต้นรำในโรงอาหาร การแต่งกายในชุดตลก หรือการทำป๊ดัน" ผมไม่เห็นด้วยกับมันตั้งแต่ปีแรกที่มหาวิทยาลัยของฉัน , " นาย panuwad , 20 , เป็นปีที่สองของเขาและเลขาธิการต้านโซตัส กรุ๊ป" ฉันปฏิเสธที่จะกลายเป็นที่เกี่ยวข้องในใด ๆของกิจกรรมต่างๆ ของมหาวิทยาลัย หรือคณะ ซึ่งต่อมาทำให้เกิดปัญหาสำหรับฉัน มีการลงโทษทางสังคม และผมถูกวิจารณ์มาก ฉันกำลังถูกโดดเดี่ยวอย่างที่ผมโพสต์บางส่วนของมหาวิทยาลัยความลับบน Facebook ไม่กี่วัน ก่อนที่ฉันจะเริ่มชีวิตในมหาวิทยาลัยของฉัน พวกเขากล่าวว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นกฎและประเพณี " ต้อนรับ " ทั้งหมดเป็นความลับ แต่ฉันคิดว่าพวกเขามีการละเมิดสิทธิมนุษยชน”