Concerning the rapid growth of huma

Concerning the rapid growth of human population, depletion of natural resources, environmental pollution and climate changes, bioethanol has attracted great attention as octane booster, fuel additive, and even as neat fuel [1], [2] and [3]. Compared with gasoline,bioethanol has many advantages such as higher octane number, broader flammability limits, higher flame speeds, higher heats of vaporization, and less emission of SO2 and CO2[4], [5] and [6]. Also, particulate emission for 10% (E10) and 20% (E20) ethanol blends respectively are decreased by 6.0–6.6% and 29.4–41.8% [7]. Currently, bioethanol are almost produced from grain or sugarcane. USA is the largest scale producer of bioethanol from corn in the world, followed by Brazil from sugarcane. However, these crops cannot meet the global demand for bioethanol production as alternative energy. To diminish the world’s food crisis, lignocellulosic biomass is projected as a virtually eternal raw material for bioethanol production [5].

The technology of bioethanol production from lignocellulosic biomass has been greatly improved [8], [9] and [10]. However, there still exist some challenges which do not support cost-effective and competitive production, thus blocking its commercialization [11], [12] and [13]. These challenges (presented in Fig. 1) mainly include the following aspects: rigorous pretreatment, reduction of cellulase costs, development of more robust industrial strains, approaches for enzymatic hydrolysis and fermentation, and high capital costs associated with complex processes [14] and [15]. Jonker et al. has reported that the costs reduction measures for bioethanol industrial processing include reduction of the feedstock costs, increase of the industrial efficiency and scale, and a change to more advanced industrial process [16].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของประชากรมนุษย์อย่างรวดเร็ว การลดลงของทรัพยากรธรรมชาติ มลภาวะ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ bioethanol ได้ดึงดูดความสนใจเป็นสนับสนุนนสูง เติมน้ำมัน และแม้กระทั่งเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงเรียบร้อย [1], [2] และ [3] เมื่อเทียบกับเบนซิน bioethanol มีข้อดีหลายประการ เช่นหมายเลขค่าออกเทนสูง กว้างไวจำกัด ความเร็วเปลวไฟสูง สูงอุ่นเกิดการระเหย และ ลดการปล่อย CO2 และ SO2 [4], [5] และ [6] นอกจากนี้ ปล่อยฝุ่น 10% (E10) และผสมเอทานอล 20% (E20) ตามลำดับจะลดลง 6.0 – 6.6% และ 29.4-41.8% [7] ในปัจจุบัน bioethanol เกือบมีผลิตจากธัญพืชหรืออ้อย สหรัฐอเมริกาเป็นผู้ผลิตขนาดใหญ่ที่สุดของ bioethanol จากข้าวโพดในโลก ตาม ด้วยบราซิลจากอ้อย อย่างไรก็ตาม พืชเหล่านี้ไม่ตอบสนองความต้องการระดับโลกสำหรับผลิต bioethanol เป็นพลังงานทางเลือก ลดวิกฤตอาหารโลก ชีวมวล lignocellulosic คาดว่าเป็นวัตถุดิบแทบนิรันดร์สำหรับผลิต bioethanol [5]เทคโนโลยีการผลิต bioethanol จากชีวมวล lignocellulosic ได้มากขึ้น [8] , [9] และ [10] อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายบางประการที่สนับสนุนการแข่งขัน และคุ้มค่าผลิต ดังนั้น บล็อกของ commercialization [11], [12] และ [13] ความท้าทายเหล่านี้ (แสดงในรูปที่ 1) ส่วนใหญ่มีลักษณะต่อไปนี้: วิธีการเข้มงวดสวยงามมากกว่า ลดต้นทุน cellulase พัฒนาสายพันธุ์อุตสาหกรรมอย่างสมบูรณ์ เอนไซม์ในระบบย่อย และหมัก และต้นทุนเงินทุนสูงที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่ซับซ้อน [14] และ [15] ยองเกอร์ร้อยเอ็ดได้รายงานว่า มาตรการการลดค่าใช้จ่ายสำหรับการประมวลผลอุตสาหกรรม bioethanol รวมลดต้นทุนวัตถุดิบ เพิ่มประสิทธิภาพอุตสาหกรรม และมาตราส่วน และการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมขั้นสูง [16]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกี่ยวกับการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของประชากรมนุษย์ลดลงของทรัพยากรทางธรรมชาติมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, เอทานอลได้ดึงดูดความสนใจที่ดีเป็นผู้สนับสนุนค่าออกเทน, สารเติมแต่งน้ำมันเชื้อเพลิงและแม้กระทั่งน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นระเบียบ [1], [2] และ [3] เมื่อเทียบกับน้ำมันเอทานอลมีข้อดีหลายอย่างเช่นจำนวนที่สูงกว่าออกเทนที่กว้างขึ้นขีด จำกัด ของความไวไฟความเร็วเปลวไฟที่สูงขึ้นความร้อนที่สูงขึ้นของการกลายเป็นไอและปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าของ SO2 และ CO2 [4] [5] และ [6] นอกจากนี้การปล่อยอนุภาค 10% (E10) และ 20% (E20) เอทานอลผสมตามลำดับลดลง 6.0-6.6% และ 29.4-41.8% [7] ปัจจุบันมีการผลิตเอทานอลเกือบจากข้าวหรืออ้อย สหรัฐอเมริกาเป็นผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดขนาดของเอทานอลจากข้าวโพดในโลกตามด้วยบราซิลจากอ้อย แต่พืชเหล่านี้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของโลกสำหรับการผลิตเอทานอลเป็นพลังงานทางเลือก เพื่อลดวิกฤตอาหารของโลก, ชีวมวลลิกโนเซลลูโลสเป็นที่คาดการณ์เป็นวัตถุดิบนิรันดร์จริงสำหรับการผลิตเอทานอล [5]. เทคโนโลยีของการผลิตเอทานอลจากชีวมวลลิกโนเซลลูโลสได้รับการปรับปรุงอย่างมาก [8] [9] และ [10] แต่มียังคงมีอยู่ความท้าทายบางอย่างที่ไม่สนับสนุนค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพและการแข่งขันการผลิตจึงปิดกั้นการค้าของ [11] [12] และ [13] ความท้าทายเหล่านี้ (แสดงในรูปที่ 1.) ส่วนใหญ่รวมถึงด้านต่อไปนี้: การปรับสภาพอย่างเข้มงวดการลดลงของค่าใช้จ่ายเซลลูเลสในการพัฒนาสายพันธุ์อุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งมากขึ้นวิธีการย่อยโปรตีนและการหมักและค่าใช้จ่ายทุนสูงที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่ซับซ้อน [14] และ [ 15] Jonker et al, ได้รายงานว่ามาตรการลดค่าใช้จ่ายสำหรับการประมวลผลอุตสาหกรรมเอทานอลรวมถึงการลดค่าใช้จ่ายวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพในภาคอุตสาหกรรมและขนาดและการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการทางอุตสาหกรรมสูงขึ้น [16]