Thailand has ambitious plans to dev

Thailand has ambitious plans to develop eco-friendly hybrid and electric cars, but government support lags far behind Malaysia, says California-based consultancy Frost & Sullivan.

Three major car manufacturers in Thailand, Indonesia and Malaysia have different initiatives for eco-friendly vehicles, but Malaysia's is considered the most advanced for energy-efficient vehicles (EEVs), Vivek Vaidya, Frost & Sullivan's vice-president for Asia-Pacific, told a seminar hosted by the Electric Vehicle Association of Thailand at Impact Muang Thong Thani yesterday.

Manufacturers can localise EEV production into a variety of car segments including hybrid and electric with small production volumes.

"Honda has started to localise assembly of its hybrid vehicles under Malaysia's EEV incentives, while Mazda's factory there exports the vehicles," Mr Vaidya said.

"That country has stimulated hybrid and electric demand to account for 5% of the 666,465 vehicles sold there last year."

EEVs were less than 1% of the 881,832 vehicles sold in Thailand last year.

However, Mr Vaidya said Thailand remained an important regional manufacturing hub, one with the strongest export orientation. But the country's eco-car scheme is still focused on production volume and uses the old-school internal-combustion engine platform.

He suggested the Thai government push for hybrid and electric production by providing investment incentives and not focus on production volume in the initial stage.

Waiving import duties on completely built-up units and subsidising prices would be effective in the short term, he said.

Frost & Sullivan research shows hybrid and electric EEVs will number 10 million worldwide in 2020 out of 103 million vehicles.

This year, 415,000 hybrid and electric EEVs are likely to be sold globally, up by 37.9% from last year.

Europe is the most active market for eco-friendly vehicles with 147,274 sold in 2015, led by Norway, Britain, the Netherlands and France.

China comes in second at 129,217 vehicles, followed by the US at 110,816.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Thailand has ambitious plans to develop eco-friendly hybrid and electric cars, but government support lags far behind Malaysia, says California-based consultancy Frost & Sullivan.Three major car manufacturers in Thailand, Indonesia and Malaysia have different initiatives for eco-friendly vehicles, but Malaysia's is considered the most advanced for energy-efficient vehicles (EEVs), Vivek Vaidya, Frost & Sullivan's vice-president for Asia-Pacific, told a seminar hosted by the Electric Vehicle Association of Thailand at Impact Muang Thong Thani yesterday.Manufacturers can localise EEV production into a variety of car segments including hybrid and electric with small production volumes."Honda has started to localise assembly of its hybrid vehicles under Malaysia's EEV incentives, while Mazda's factory there exports the vehicles," Mr Vaidya said."That country has stimulated hybrid and electric demand to account for 5% of the 666,465 vehicles sold there last year."EEVs were less than 1% of the 881,832 vehicles sold in Thailand last year.However, Mr Vaidya said Thailand remained an important regional manufacturing hub, one with the strongest export orientation. But the country's eco-car scheme is still focused on production volume and uses the old-school internal-combustion engine platform.He suggested the Thai government push for hybrid and electric production by providing investment incentives and not focus on production volume in the initial stage.ยกเว้นนำเข้าหน้าที่ในหน่วยเนื้อที่ทั้งหมด และราคา subsidising จะมีผลในระยะสั้น เขากล่าวว่างานวิจัยน้ำแข็งและซัลลิแวนแสดงไฮบริดและ EEVs ไฟฟ้าจะหมายเลข 10 ล้านทั่วโลกใน 2020 จาก 103 ล้านคันปีนี้ ไฮบริ 415,000 และ EEVs ไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะขายทั่วโลก ขึ้น 37.9% จากปีที่ยุโรปเป็นตลาดอยู่มากที่สุดแห่งยานยนต์ 147,274 ขายใน 2015 นำ โดยนอร์เวย์ อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศสจีนมาในวินาทีที่รถยนต์ 129,217 ตาม ด้วยสหรัฐฯ ที่ 110,816

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเทศไทยมีแผนทะเยอทะยานที่จะพัฒนาไฮบริดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและรถยนต์ไฟฟ้า แต่การสนับสนุนของรัฐบาลล่าช้าไกลหลังประเทศมาเลเซียกล่าวว่าการให้คำปรึกษาแคลิฟอร์เนียตาม Frost & Sullivan. สามผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในประเทศไทยอินโดนีเซียและมาเลเซียมีความคิดริเริ่มที่แตกต่างกันสำหรับยานพาหนะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่มาเลเซียถือว่าเป็นที่ทันสมัยที่สุดสำหรับยานพาหนะพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (EEVs) วิเวก Vaidya Frost & ซัลลิแวนรองประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกบอกสัมมนาจัดโดยสมาคมไฟฟ้ายานพาหนะแห่งประเทศไทย ณ อิมแพ็คเมืองทองธานีเมื่อวานนี้. ผู้ผลิตสามารถ จำกัด ผลิต EEV เป็นความหลากหลายของกลุ่มรถรวมทั้งไฮบริดและไฟฟ้าที่มีปริมาณการผลิตขนาดเล็ก. "ฮอนด้าได้เริ่มต้นที่จะ จำกัด การชุมนุมของรถไฮบริดของตนภายใต้แรงจูงใจ EEV ของมาเลเซียในขณะที่โรงงานของมาสด้ามีการส่งออกยานพาหนะ" นาย Vaidya กล่าวว่า. "ประเทศที่ มีการกระตุ้นไฮบริดและความต้องการไฟฟ้าบัญชีสำหรับ 5% ของ 666,465 คันมีปีที่ผ่านมา. "EEVs น้อยกว่า 1% ของ 881,832 คันในประเทศไทยปีที่ผ่านมา. อย่างไรก็ตามนาย Vaidya กล่าวว่าประเทศไทยยังคงเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญในภูมิภาค หนึ่งด้วยการวางการส่งออกที่แข็งแกร่ง แต่ประเทศของโครงการอีโคคาร์จะยังคงมุ่งเน้นไปที่ปริมาณการผลิตและใช้โรงเรียนเก่าสันดาปภายในแพลตฟอร์มเครื่องยนต์. เขาบอกผลักดันรัฐบาลไทยสำหรับไฮบริดและการผลิตไฟฟ้าโดยการให้แรงจูงใจในการลงทุนและไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ปริมาณการผลิตในระยะแรก . แจ้งสละอากรขาเข้าสำหรับหน่วยที่สร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์และการอุดหนุนราคาจะมีประสิทธิภาพในระยะสั้นที่เขากล่าวว่า. Frost & วิจัยซัลลิแวนแสดง EEVs ไฮบริดและไฟฟ้าจะมีจำนวน 10 ล้านทั่วโลกในปี 2020 จาก 103 ล้านยานพาหนะ. ในปีนี้ 415,000 EEVs ไฮบริดและไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะนำไปขายทั่วโลกเพิ่มขึ้น 37.9% จากปีก่อน. ยุโรปเป็นตลาดที่ใช้งานมากที่สุดสำหรับยานพาหนะมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย 147,274 ขายในปี 2015 นำโดยนอร์เวย์สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์และฝรั่งเศส. จีนมาใน ที่สองที่ 129,217 คันตามมาด้วยสหรัฐที่ 110,816

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเทศไทยมีแผนทะเยอทะยานที่จะพัฒนารถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไฮบริด และไฟฟ้า แต่การสนับสนุนของรัฐบาลล่าช้าไกลหลังมาเลเซีย กล่าวว่า ให้&ซัลลิแวนน้ำค้างแข็งแคลิฟอร์เนียตาม

สามใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์ในไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซียมีโครงการต่าง ๆสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่มาเลเซียถือว่าทันสมัยที่สุดสำหรับรถยนต์ประหยัดพลังงาน ( eevs )วิเวก Vaidya , รองประธานของฟรอสท์ &ซัลลิแวนเอเชียแปซิฟิก บอกการสัมมนาที่จัดโดยรถยนต์ไฟฟ้าแห่งประเทศไทย ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวานนี้

ผู้ผลิตสามารถจํากัด eev การผลิตในความหลากหลายของรถยนต์ไฮบริดและไฟฟ้าขนาดเล็ก กลุ่ม ได้แก่ ปริมาณการผลิต .

" ฮอนด้าได้เริ่มจํากัดการประกอบรถยนต์ไฮบริของตนภายใต้มาเลเซีย eev บริเวณ ในขณะที่ประเทศไทยมีการส่งออกยานพาหนะโรงงาน " นาย Vaidya กล่าว

" ประเทศที่มีการไฮบริไฟฟ้าและความต้องการไปยังบัญชีสำหรับร้อยละ 5 ของ 666465 ยานพาหนะขายเมื่อปีที่แล้ว "

eevs น้อยกว่า 1 % ของ 881832 ยานพาหนะที่ขายในไทยเมื่อปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตามนาย Vaidya กล่าวว่าประเทศไทยยังคงเป็นฮับการผลิตในภูมิภาคสำคัญ กับทิศทางการส่งออกที่แข็งแกร่ง แต่โครงการรถอีโค ของประเทศ ยังคงเน้นปริมาณการผลิตและการใช้โรงเรียนเก่า

เครื่องยนต์เผาไหม้–ภายในแพลตฟอร์มเขาเสนอให้รัฐบาลไทยผลักดันไฮบริดและไฟฟ้าการผลิต โดยการให้สิทธิประโยชน์การลงทุน และไม่เน้นปริมาณการผลิตในระยะแรก

เพิ่มอากรขาเข้าหน่วยลงอย่างสมบูรณ์ และอุดหนุนราคา จะมีประสิทธิภาพในระยะสั้น , เขากล่าวว่า .

ฟรอสต์&ซัลลิแวนการวิจัยแสดงไฮบริดและไฟฟ้า eevs จะตัวเลข 10 ล้านทั่วโลกในปี 2020 จาก 103 ล้านคัน

ปีนี้ 415 , 000 ไฮบริดและไฟฟ้า eevs มีแนวโน้มที่จะขายทั่วโลก เพิ่มขึ้น 37.9 % จากปีที่แล้ว

ยุโรปเป็นตลาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รถยนต์ที่ใช้งานมากที่สุด 147274 ขายในปี 2558 นำโดย นอร์เวย์ อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส

จีนมาในวินาทีที่ 129217 ยานพาหนะ รองลงมา คือ สหรัฐฯ ที่ 110816 .