Thinking back upon it, coming from

Thinking back upon it, coming from the village to the depths of the ruins was nothing but a series of huge troubles, but going from inside the ruins to the outside took almost no effort at all, and ended with nothing but walking.

“…But still, in the end, was this ruin an ancient demon ruin?”

Muttered Gran, the first one to crawl out of the ruins, to Luru and Iris who were still in the darkness of the ruins.
By the time they left it, the dark curtain of the night had already fallen, so it was dim.
However, perhaps because the moon was out, it was still much brighter than the inside of the ruins, and the outside was filled with the indigo coloured darkness.

“I wonder about that. Wouldn’t it be fine to get Yuumis to investigate? She’s knowledgeable, isn’t she?”

Luru who knew it was definitely an ancient demon ruin, or at least one with some kind of relation to them, just played dumb.
According to Gran, in this age there was no way to determine if something was an ancient demon ruin or not, so he didn’t want to get involved in any unnecessary trouble.
There was also that he wanted Yuumis to investigate appropriately, fulfil her desires for her romance, and on top of that he wanted her to state her knowledge on it.

At the end of the day, no matter how many books he read, Luru had passed no more than seven years of his life, and his only information sources were basically only the books at home and his parents, the people in the village, and the merchants that came; speaking frankly, he was ignorant of the world.

There was no way he could know in detail about what was in this world.
At best, he knew the name of the neighbouring countries, and broadly about what kind of regions they were, and what they produced; there was no way for him to find out more than this.
Until he asked Gran about the state of the tools in the city, he didn’t even know that primitive Magus Tools existed.
Though it was true that from the state of the village he had expected that over these thousands of years, the technology had degenerated, there was quite a gap between what he imagined and seeing and hearing about the reality himself.
Perhaps there existed in this world, even magics and technologies that Luru hadn’t even thought of; because of that, he might have no choice but to act.
No, he had to. At least that was what Luru thought after this time’s adventure in the ruins.

That’s why he was thinking that once he got back to the village, he wanted to speak with Yuumis who seemed to have the atmosphere of quite an expert, but thinking about the details of the events leading up to now, it didn’t seem that it would be too easy.
If you thought about her interactions with Gran as an adventurer pair, you could tell that she didn’t seem the type to hold grudges[/drag things out].
However, they would still have to make up first, and Luru was feeling just a little reluctant[/pressured] at having to do that.

Whilst thinking about that, Luru crawled out of the ruins.
After the last member Iris finally crawled out, all of them gazed at the ruin.
It was already night so they couldn’t see it too clearly.

However, the sight of the ruins illuminated by the moonlight was fantastical, and beautiful.

This was where Iris had been sleeping.
Because of that, Luru was able to meet her again in this world.
Right now, she was the only brethren he had in this world.
Rusty was close to him, as were his parents, and the people of the village; there was no mistake about this.

However, Luru held many secrets that he couldn’t talk to them about.
There was nobody he could share these with, or in the true sense of the words, tell everything to.
That’s why the fact that Iris was by his side was to Luru, fortune that seemed like a miracle.

Iris was gazing at the ruins as well.
He couldn’t tell what emotions lay in those eyes of hers.

However, after she removed her gaze from the ruins, her eyes met with Luru’s, and she suddenly began to smile.
And at this difficult to describe expression that eased his heart, Luru felt that something that had been frozen in his heart had thawed for the first time since he was born.

“Well, there’s no use in watching this forever… Let’s make a detailed exploration once we have Yuumis. This ruin is that big of a find. A research team might even be dispatched from the capital. It’s sure gunna get busy, huh…!”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คิดไปตามนั้น มาจากหมู่บ้านถึงความลึกของซากปรักหักพังถูกแต่ชุดของปัญหามาก แต่ออกจากภายในโบราณสถานด้านนอกเอาเกือบไม่พยายามเลย และสิ้นสุดที่ไม่มี แต่เดิน“… แต่ยังคง ในสุด นี้ทำลาย การทำลายปีศาจโบราณ"แกรน muttered หนึ่งเลื้อยออกจากโบราณสถาน Luru และไอริสที่ยังคงอยู่ในความมืดของโบราณโดยเวลาพวกเขาซ้าย ม่านมืดของคืนได้แล้วตกลงมา ให้มีมิติอย่างไรก็ตาม อาจ เพราะดวงจันทร์ออก ได้ยังคงมากสว่างกว่าโบราณ และภายนอกภายในก็เต็มไป ด้วยความมืดสีคราม"ไม่ทราบว่า มันจะไม่ดีจะได้รับ Yuumis การตรวจสอบ เธอคือความรู้ ไม่ใช่เธอLuru ที่รู้ก็แน่นอนทำลายปีศาจโบราณ หรืออย่างน้อยหนึ่งกับบางประการความสัมพันธ์ของพวกเขา เพียงเล่นใบ้ตามแกรน ในยุคนี้ มีวิธีการตัดสินถ้ามีอะไรทำลายปีศาจโบราณ หรือ ไม่ เขาไม่ต้องการมีส่วนร่วมในปัญหาใด ๆ ไม่จำเป็นถูกว่า เขาต้องการ Yuumis เพื่อตรวจสอบอย่างเหมาะสม การตอบสนองความต้องการของเธอที่เธอ และด้านบนของที่ เขาอยากให้เธอรู้เธอนั้นจะที่สุดของวัน ไม่ว่าจำนวนหนังสือที่อ่าน Luru ได้ผ่านชีวิตไม่เกิน 7 ปี และแหล่งข้อมูลเดียวของเขาได้โดยทั่วไปเฉพาะหนังสือที่บ้าน และพ่อแม่ของเขา คนในหมู่บ้าน และร้านค้าที่มา พูดตรงไปตรงมา เขาถูกโลกซะมีวิธีที่เขาสามารถรู้รายละเอียดอะไรที่ในโลกนี้ดีที่สุด เขารู้ชื่อประเทศเพื่อนบ้าน และทั่วไปชนิดของภูมิภาคที่พวกเขา และสิ่งที่พวกเขาผลิต มีทางให้เขาค้นหามากกว่านี้จนเขาถามแกรนเกี่ยวกับสถานะของเครื่องมือในเมือง เขาไม่ได้รู้ว่า เครื่องมือ Magus ดั้งเดิมอยู่แต่ มันเป็นความจริงว่า จากสถานะของหมู่บ้าน เขาได้คาดว่า ช่วงนี้หลายพันปี เทคโนโลยีมี degenerated มีเป็นช่องว่างระหว่างจินตนาการของเขา และเห็น และได้ยินเกี่ยวกับความเป็นจริงตัวเองบางทีมีอยู่ในโลกนี้ แม้ magics และเทคโนโลยี Luru ไม่ได้แม้แต่คิด เนื่องจากว่า เขาอาจไปทำหน้าที่ไม่ เขาต้องการ อย่างน้อยนั่นถูก Luru อะไรคิดว่า หลังจากการผจญภัยครั้งนี้ของที่พังที่ว่าทำไมเขาคิดว่า เมื่อเขาได้กลับไปที่หมู่บ้าน เขาอยากคุยกับ Yuumis ที่มีบรรยากาศของการเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ความคิดเกี่ยวกับรายละเอียดของเหตุการณ์ที่นำไป ตอนนี้ มันไม่ได้ดูเหมือนว่า มันจะง่ายเกินไปถ้าคุณคิดว่า เกี่ยวกับเธอโต้ตอบกับแกรนเป็นคู่เป็นนักผจญภัย คุณสามารถบอกได้ว่า เธอไม่ได้ดูเหมือนแบบค้าง grudges [/ลากสิ่งออก]อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะยังต้องทำให้ค่าแรก และ Luru รู้สึกเพียงเล็กน้อยต่อต้าน [/ ให้] ที่ต้องทำเช่นนั้นในขณะที่คิดว่า Luru ตระเวนจากโบราณสถานหลังจากสมาชิกล่าสุด Iris ก็ตระเวนออก ทั้งหมดของพวกเขาจ้องที่จะทำลายก็แล้วกลางคืนเพื่อให้พวกเขาไม่สามารถเห็นชัดเจนเกินไปอย่างไรก็ตาม เห็นซากปรักหักพังที่ส่องสว่าง ด้วยแสงจันทร์ได้แปลกประหลาด และสวยงามที่ไอริสมีการนอนหลับได้เนื่องจากว่า Luru ได้พบเธออีกในโลกนี้ขวา ตอนนี้เธอมีพี่น้องเท่านั้นที่เขามีในโลกนี้สนิมอยู่ใกล้เขา เป็นพ่อ และชาวหมู่บ้าน มีความผิดพลาดที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรก็ตาม Luru จัดความลับมากมายที่เขาไม่สามารถพูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับมีไม่มีใครที่เขาไม่สามารถใช้ร่วมกันเหล่านี้ด้วย หรือความรู้สึกแท้จริงของคำ บอกทุกอย่างจึงได้ความจริงที่ไอริสริมเขา Luru ฟอร์จูนที่เหมือนเป็นอัศจรรย์ไอริสถูกพร้อมที่พังด้วยเขาไม่บอกอารมณ์ที่วางในตาคู่นั้นของเธออย่างไรก็ตาม หลังจากเธอออกสายตาของเธอจากโบราณ ดวงตาของเธอได้พบกับของ Luru แล้วเธอก็เริ่มที่จะยิ้มและที่ ยากที่จะอธิบายถึงนิพจน์ที่บรรเทาหัวใจ Luru รู้สึกว่า บางสิ่งบางอย่างที่มีการแช่แข็งในหัวใจเขามี thawed ครั้งแรกตั้งแต่เขาเกิด"ดี มีไม่ใช้ในการดูนี้ตลอดไป... ลองทำการสำรวจรายละเอียดเมื่อเรามี Yuumis ทำลายนี้ว่าใหญ่ของการค้นหาได้ ทีมวิจัยยังอาจถูกจัดส่งจากเมืองหลวง มันมี gunna รับยุ่ง ฮะ..."

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คิดย้อนกลับไปมันมาจากหมู่บ้านเพื่อความลึกของซากปรักหักพังเป็นอะไร แต่ชุดของปัญหาใหญ่ แต่ไปจากภายในซากปรักหักพังออกไปข้างนอกเอาเกือบไม่มีความพยายามที่ทั้งหมดและจบลงด้วยการไม่มีอะไร แต่เดิน. "... แต่ ยังคงอยู่ในท้ายที่สุดคือการทำลายนี้ทำลายปีศาจโบราณ? "พึมพำGran คนแรกที่จะรวบรวมข้อมูลออกมาจากซากปรักหักพังเพื่อ Luru และไอริสที่ยังคงอยู่ในความมืดของซากปรักหักพัง. โดยเวลาที่พวกเขาทิ้งมันไว้ที่ ม่านความมืดของคืนได้ลดลงแล้วดังนั้นมันจึงเป็นสลัว. แต่อาจจะเป็นเพราะดวงจันทร์ออกมามันก็ยังมากสว่างกว่าด้านในของซากปรักหักพังและนอกก็เต็มไปด้วยความมืดสีคราม. "ผมสงสัยเกี่ยวกับ ที่. มันจะไม่ดีที่จะได้รับการตรวจสอบ Yuumis? เธอเป็นคนที่มีความรู้เธอไม่ได้? "Luru ที่รู้ว่ามันเป็นแน่นอนทำลายปีศาจโบราณหรืออย่างน้อยหนึ่งที่มีชนิดของความสัมพันธ์กับพวกเขาบางเพียงแค่เล่นใบ้. ตาม Gran ในยุคนี้ไม่มีทางที่จะตรวจสอบว่า สิ่งที่เป็นความพินาศปีศาจโบราณหรือไม่ดังนั้นเขาไม่ต้องการที่จะมีส่วนร่วมในปัญหาที่ไม่จำเป็นใด ๆ . นอกจากนี้ยังมีว่าเขาต้องการที่จะตรวจสอบ Yuumis เหมาะสมตอบสนองความปรารถนาของเธอสำหรับความโรแมนติกของเธอและด้านบนของที่เขาอยากให้เธอ ระบุความรู้ของเธอบน. ในตอนท้ายของวันที่ไม่ว่ากี่หนังสือที่เขาอ่าน Luru ที่ผ่านมาไม่เกินเจ็ดปีของชีวิตของเขาและแหล่งข้อมูลเดียวของเขาเป็นพื้นเพียงหนังสือที่บ้านและพ่อแม่ของเขา คนในหมู่บ้านและร้านค้าที่มา; พูดตรงไปตรงมาเขาก็ไม่รู้ของโลก. ไม่มีทางที่เขาจะได้ทราบในรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในโลกนี้. ที่ดีที่สุดที่เขารู้ว่าชื่อของประเทศเพื่อนบ้านและในวงกว้างเกี่ยวกับชนิดของดินแดนที่พวกเขาและสิ่งที่ พวกเขาผลิต; ไม่มีทางที่เขาจะหาข้อมูลเพิ่มเติมกว่านี้ไม่มี. จนกระทั่งเขาถาม Gran เกี่ยวกับสถานะของเครื่องมือในเมืองเขาไม่ได้รู้ว่าเครื่องมือหมอผีดั้งเดิมอยู่. แม้ว่ามันจะเป็นความจริงที่ว่าจากรัฐของหมู่บ้าน เขาได้คาดหวังว่าเหล่านี้พันกว่าปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีได้ถดถอยมีค่อนข้างช่องว่างระหว่างสิ่งที่เขาคิดและเห็นและได้ยินเกี่ยวกับความเป็นจริงของตัวเองก. บางทีอาจจะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้แม้เวทมนตร์และเทคโนโลยีที่มี Luru ไม่ได้ คิด; เนื่องจากการที่เขาอาจจะมีทางเลือกที่จะไม่ทำหน้าที่. ไม่มีเขาจะต้อง อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ Luru คิดว่าหลังจากที่การผจญภัยครั้งนี้อยู่ในซากปรักหักพัง. นั่นเป็นเหตุผลที่เขาคิดว่าเมื่อเขาได้กลับไปที่หมู่บ้านเขาต้องการที่จะพูดคุยกับ Yuumis ที่ดูเหมือนจะมีบรรยากาศของค่อนข้างผู้เชี่ยวชาญ แต่คิดเกี่ยวกับ รายละเอียดของเหตุการณ์ที่นำไปสู่ตอนนี้มันไม่ได้ดูเหมือนว่ามันจะง่ายเกินไป. ถ้าคุณคิดว่าเกี่ยวกับการโต้ตอบของเธอกับย่าเป็นคู่นักผจญภัยที่คุณสามารถบอกได้ว่าเธอไม่ได้ดูเหมือนประเภทที่จะถือความแค้น [/ สิ่งที่ลากออก]. แต่พวกเขายังจะต้องมีการทำขึ้นครั้งแรกและ Luru รู้สึกเพียงเล็กน้อยลังเล [/ กดดัน] ที่ต้องทำ. ขณะที่คิดเกี่ยวกับที่ Luru คลานออกมาจากซากปรักหักพัง. หลังจากสมาชิกที่ผ่านมา ไอริสในที่สุดก็คลานออกมาทั้งหมดของพวกเขาที่จ้องทำลาย. มันเป็นคืนแล้วดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันเกินไป. แต่สายตาของซากปรักหักพังสว่างด้วยแสงจันทร์เป็นที่แปลกประหลาดและสวยงาม. นี่เป็นไอริสที่ได้รับการ . นอนหลับ. เพราะการที่ Luru ก็สามารถที่จะตอบสนองความต้องการของเธออีกครั้งในโลกนี้ตอนนี้เธอเป็นพี่น้องเดียวที่เขามีอยู่ในโลกนี้. สนิมได้ใกล้เคียงกับเขาเช่นเดียวกับพ่อแม่ของเขาและคนของหมู่บ้าน; มีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่มี. แต่ Luru จัดความลับหลายอย่างที่เขาไม่สามารถพูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับ. ไม่มีใครเขาสามารถแบ่งปันเหล่านี้ด้วยหรือในความหมายที่แท้จริงของคำบอกทุกอย่าง. นั่นเป็นเหตุผลที่ความจริงที่ว่า ไอริสอยู่ที่ฝั่งของเขาคือการ Luru โชคลาภที่ดูเหมือนจะเป็นความมหัศจรรย์. ไอริสถูกจ้องมองซากปรักหักพังเช่นกัน. เขาไม่สามารถบอกได้ว่าอารมณ์ที่อยู่ในสายตาของเธอเหล่านั้น. แต่หลังจากที่เธอถูกลบออกจ้องมองเธอจากซากปรักหักพัง ตาของเธอได้พบกับ Luru และเธอก็เริ่มที่จะยิ้ม. และในตอนนี้ยากที่จะอธิบายการแสดงออกที่ปลดเปลื้องหัวใจของเขา Luru รู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างที่ได้รับการแช่แข็งในหัวใจของเขาได้ละลายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขาเกิด. "ดี มีการใช้งานในการเฝ้าดูนี้ตลอดไปไม่ ... ขอให้สำรวจรายละเอียดเมื่อเรามี Yuumis ทำลายนี้เป็นว่าใหญ่ของการค้นหา ทีมวิจัยอาจจะได้รับการส่งมาจากเมืองหลวง มัน gunna แน่ใจว่าได้รับการยุ่งเหรอ ... "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คิดย้อนกลับไปเมื่อมันออกมาจากบ้านไปยังส่วนลึกของซากปรักหักพังที่ไม่มีอะไร แต่ชุดของปัญหาใหญ่ แต่ไปจากภายในโบราณสถานนอกเอาเกือบไม่มีความพยายามเลย และจบลงด้วยการไม่มีอะไร แต่เดินได้" . . . . . . . แต่สุดท้าย มันผลาญทำลายปีศาจโบราณ "พึมพำ แกรน , คนแรกที่จะคลานออกจากซากปรักหักพัง เพื่อ luru และม่านตาที่ยังอยู่ในความมืดของซากปรักหักพังโดยเวลาที่พวกเขาทิ้งไว้ ม่านมืดแห่งรัตติกาลได้ลดลงแล้ว มันมืดแต่บางทีอาจเป็นเพราะพระจันทร์ก็ออกมายังสว่างมากกว่าภายในซากปรักหักพัง และภายนอกก็เต็มไปด้วยครามสีมืด" ฉันสงสัยจัง มันคงจะดีที่จะได้ yuumis สืบสวน ? เธอมีความรู้ใช่ไหมครับ "luru ใครรู้ว่ามันเป็นตัวทำลายปีศาจโบราณ , หรืออย่างน้อยหนึ่งที่มีบางชนิดของความสัมพันธ์กับพวกเขา แค่แกล้งโง่ตามย่า ในวัยนี้ก็ไม่มีทางที่จะกำหนดว่าอะไรคือโบราณปีศาจทำลาย หรือ ไม่ ดังนั้น เขาไม่ต้องการที่จะมีส่วนร่วมในใด ๆที่เป็นปัญหาก็ยังว่าเขาอยาก yuumis ศึกษาอย่างเหมาะสม ตอบสนองความต้องการของเธอ ความรักของเธอ และด้านบนของที่เขาต้องการให้เธอรัฐ ความรู้ของเธอนั้นในตอนท้ายของวัน ไม่ว่ากี่หนังสือที่เขาอ่าน luru เสียชีวิตไม่เกินเจ็ดปีของชีวิตของเขาและแหล่งข่าวของเขาเท่านั้นโดยเฉพาะหนังสือที่บ้าน และพ่อแม่ของเขา ผู้คนในหมู่บ้าน และร้านค้ามา พูดกันตรงๆ แล้ว เขาไม่รู้ว่าโลก .ไม่มีทางที่เขาจะรู้ในรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในโลกนี้ที่ดีที่สุด , เขารู้ชื่อของประเทศเพื่อนบ้าน และในวงกว้างเกี่ยวกับชนิดของภูมิภาคที่พวกเขาและสิ่งที่พวกเขาผลิต ไม่มีหนทางที่เขาจะเจอยิ่งกว่านี้จนกระทั่งเขาถามยายเกี่ยวกับสถานะของเครื่องมือในเมือง เค้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเครื่องมือหมอผีดั้งเดิมอยู่ถึงแม้ว่ามันเป็นเรื่องจริงว่า จากสภาพของหมู่บ้าน เขาคาดหวังว่าเหล่านี้มากกว่าพันปี เทคโนโลยี มีการทะเลาะเบาะแว้ง มีค่อนข้าง ช่องว่างระหว่างสิ่งที่เขาคิด และได้เห็นและได้ยินเกี่ยวกับความจริงด้วยตัวเองบางที มีอยู่ในโลกนี้ แม้แต่เวทมนตร์และเทคโนโลยีที่ luru ไม่เคยแม้แต่จะคิด เพราะของที่เขาอาจจะไม่มีทางเลือก แต่ที่จะทำไม่ เขาต้อง อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ luru คิดว่าหลังนี้เวลาของการผจญภัยในซากปรักหักพังนั่นคือเหตุผลที่เขาคิด เมื่อเขากลับมาถึงบ้าน เขาอยากจะพูดกับ yuumis ที่ดูจะมีบรรยากาศค่อนข้างเชี่ยวชาญ แต่คิดเกี่ยวกับรายละเอียดของเหตุการณ์ในตอนนี้ มันก็ไม่ได้ดูว่ามันง่ายเกินไปถ้าคุณคิดว่าเกี่ยวกับการปฏิสัมพันธ์กับยายของเธอเป็นนักแสวงโชค คู่ คุณสามารถบอกได้ว่าเธอไม่ใช่คนประเภทที่จะถือ grudges [ / ลากมันออกมา ]อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังคงต้องให้ขึ้นก่อน แล้ว luru รู้สึกแค่ลังเลนิดหน่อย [ กดดัน ] ที่ต้องทำอย่างนั้นในขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น luru คลานออกมาจากซากปรักหักพังหลังจากสมาชิกไอริส สุดท้ายก็คลานออกมา ทุกคนจ้องมองที่พังมันมืดแล้ว จึงไม่สามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจนเกินไปแต่สายตาของซากปรักหักพังที่สว่างด้วยแสงจันทร์ มันประหลาด และสวยงามนี้ที่ไอริสเคยนอนเพราะอย่างนั้น luru ได้เจอเธออีกแล้วในโลกนี้ตอนนี้เธอเป็นเพียงพี่น้องที่เขามี ใน โลก นี้เป็นสนิม สนิทกับเค้า เหมือนพ่อแม่ของเขา และคนทั้งหมู่บ้าน ไม่มีพลาด ประมาณนี้อย่างไรก็ตาม luru จัดขึ้นความลับมากมายที่เขาไม่ได้พูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับไม่มีใครเลยที่เขาสามารถแบ่งปันนี้กับหรือในความรู้สึกที่แท้จริงของคำว่า บอกทุกอย่างแล้วมันทำให้ไอริสอยู่ข้างๆเขาคือ luru ฟอร์จูนราวกับปาฏิหาริย์ไอริสถูกจ้องมองซากเช่นกันเขาไม่สามารถบอกอารมณ์อะไรอยู่ในตาคู่นั้นของเธออย่างไรก็ตาม หลังจากที่เธอถูกจ้องมองเธอจากซากปรักหักพังสบตากับ luru , และเธอก็เริ่มที่จะยิ้มและที่ยากที่จะอธิบาย สีหน้าที่ผ่อนคลายลง หัวใจของเขา luru รู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างที่ถูกตรึงในจิตใจของเขาก็ละลายเป็นครั้งแรกตั้งแต่เขาเกิด" เอ่อ ไม่ใช้ดูแบบนี้ตลอดไป . . . . . . . ให้สำรวจรายละเอียดเมื่อเราได้ yuumis . ลายนี้ที่ใหญ่ของการค้นหา ทีมวิจัยอาจถูกส่งมาจากเมืองหลวง มันแน่นอนจะยุ่ง เฮ้อ . . . . . . . "