Globalism and Comparative Public Ad

Globalism and Comparative Public Administration
Globalism is perceived differently depending on its most outstanding features or impact at the time. In this analysis, globalization is recognized as the “growing integration of the economic, financial, political, social and cultural lives of countries” (Thomas 1999, 5; Kettl 2000, 490). Globalization evokes processes of open communication, negotiation, persuasion, and free interactions among nations that
seek to promote their self-interest within the rules of the game. It is not, however, empire building based on the brutal putdown of challenges to the imperial authority, as history amply illustrates. The advocates and critics of globalizationtrends are plenty; each camp is able to cite numerous positives or negatives of globalism in its modern form. The positive effects of globalism appear overwhelming. Advocates emphasize that globalism is the rise of market capitalism around the world, which creates jobs, transfers money and investments, and makes products available to
consumers who did not have them before. Voluntary universal dissemination of scientific and technological inventions has been facilitating and accelerating the processes of globalism. From this perspective, new technologies and current communication systems, especially the Internet, make it possible to disseminate information around the world easily, rapidly, and cheaply. Not only has the Internet “fueled the 24-hour financial markets, it has, just as importantly, transformed governance” (Kettl 2000, 491). As a result, free trade, increasing travel, internet information transmission, and cultural exchanges of various types are regularly cited as evidence of growing globalization. Moreover, “an increasing number of policy decisions are now being made by global institutions instead of individual
countries” (Welch and Wong 1998, 45). On the other hand, criticism of globalism is mounting, occasionally taking violent expressions. The stormy reactions that have exploded in cities around the world, wherever international meetings of the industrialized nations have been held, are only one indication of the dissatisfaction
with the status quo. Typically, criticisms include the following:
1. Global capitalism, advanced by leaps in technology, the failure of Communism, and a few spectacular economic successes in East Asia, has not benefited everybody. In some cases, it has caused severe damages. Illustrative statistics supporting this contention indicate that 88 percent of the world’s internet users live in industrialized countries, while only 0.3 percent live in the poorest
countries of the world.
2. in some developing countries, “multinationals have contributed to labor, environmental, and human-rights abuses” (Business Week 2000, 74) and have caused damage to these societies far greater than the benefits. Thus, it is not surprising that many developing societies view the growth of globalism with concern, considering its links to the visible behavior of multinational corporations.
3. Poor countries find global capitalism disruptive to their lives and societies. Lacking effective systems of governance, they have been unable to enact safeguards and
regulations to protect their environments and workers, as industrialized countries did decades ago.
4. Global capitalism and free trade have also stimulated free commerce in money. For small countries, this has often destabilized their economies and held them hostages to the whims of wealthy financial speculators.
5. Globalism serves the interests of the big industrialized nations, particularly the United States, in their search for new markets. But these powerful countries are able,
at will, to restrict the freedoms of others in travel, trade,and the exchange of information. Nevertheless, public administration today is at the center of the human endeavor to restructure and reshape societies from within, to be viable components of this stillunfolding but rapidly growing phenomenon known as globalism. We are not witnessing an old system passing away in its entirety and a new global system being born to replace it. Instead, it seems that we are heading into a profoundly changing order. The economic revolution remains in progress, and the world’s political boundaries are giving in to the free movement of people, goods, information, ideas, and even cultural values. Knowledge, too, regularly crosses cultural boundaries in important areas such as finance, technology, and management. To be sure, these changes and developments do not mean the traditional nation- state is dead, but they do underscore the magnitude of the problems facing the contemporary state. One such problem for modern states, particularly those of developing countries, is a growing concern about the capacity of public institutions to shoulder new responsibilities and to ensure fair dealings within the new global

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บริหารราชการ globalism และเปรียบเทียบGlobalism ถือว่าแตกต่างกันขึ้นอยู่กับคุณลักษณะโดดเด่นที่สุดหรือผลกระทบในเวลา ในการวิเคราะห์ โลกาภิวัตน์ถูกรู้จักว่าเป็นการ "รวมที่เจริญเติบโตของชีวิตทางเศรษฐกิจ การเงิน การเมือง สังคม และวัฒนธรรมของประเทศ" (Thomas 1999, 5 Kettl 2000, 490) กระบวนการของการเปิดการสื่อสาร เจรจา จูงใจ และการโต้ตอบระหว่างประเทศฟรี evokes โลกาภิวัตน์ที่พยายามส่งเสริมการ self-interest ภายในกฎของเกม ไม่ อย่างไรก็ตาม อาคารเอ็มไพร์ตาม putdown โหดร้ายของความท้าทายเพื่อหน่วยงานอิมพีเรียล เป็นประวัติ amply แสดง สนับสนุนและวิจารณ์ของ globalizationtrends มากมาย แต่ละค่ายจะสามารถการทำงานผิดพลาดหรือฟิล์ globalism ในรูปแบบที่ทันสมัยมากมาย ผลบวกของ globalism ปรากฏครอบงำ เน้นสนับสนุนที่ globalism เป็นการเพิ่มขึ้นของตลาดทุนนิยมโลก สร้างงาน โอนเงิน และการลงทุน และทำให้ผลิตภัณฑ์มีผู้บริโภคที่ไม่มีพวกเขาก่อน สมัครใจเผยแพร่สากลของสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีได้รับการอำนวยความสะดวก และเร่ง globalism กระบวนการ จากมุมมองนี้ เทคโนโลยีและระบบสื่อสารปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถกระจายข้อมูลทั่วโลกได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว และเทป ไม่เพียงแต่ มีอินเทอร์เน็ต "เป็นเชื้อเพลิงที่ตลาดการเงินตลอด 24 ชั่วโมง ก็ได้ ก็สำคัญ เปลี่ยนภิบาล" (Kettl 2000, 491) ดัง ค้าเสรี ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ส่งข้อมูลอินเตอร์เน็ต และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมชนิดต่าง ๆ เป็นประจำอ้างเป็นหลักฐานของโลกาภิวัตน์การเจริญเติบโต นอกจากนี้ "ตัดสินใจนโยบายที่เพิ่มจำนวนกำลังจะสถาบันสากลแทนบุคคลประเทศ" (Welch และวงปี 1998, 45) บนมืออื่น ๆ วิจารณ์ globalism ติดตั้ง การนิพจน์ที่รุนแรงบางครั้ง ปฏิกิริยาเป็นพายุที่มีระเบิดในเมืองทั่วโลก ทุกที่ที่มีการจัดประชุมนานาชาติอุตสาหกรรม เป็นการบ่งชี้ความไม่พอใจที่เดียวเท่านั้นกับสภาพการ โดยปกติ วิจารณ์มีดังนี้:1. โลกทุนนิยม ขั้นสูง โดย leaps ในเทคโนโลยี ความล้มเหลวของคอมมิวนิสต์ และกี่งดงามสำเร็จทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออก มีประโยชน์ต่อทุกคน ในบางกรณี มันเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง แสดงสถิติสนับสนุนช่วงชิงงานบนนี้ระบุว่า 88 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตของโลกอยู่ในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม ในขณะที่ร้อยละ 0.3 เท่านั้นที่อาศัยอยู่ในที่ยากจนที่สุดประเทศของโลก2. ในบางประเทศที่กำลังพัฒนา "บริษัทได้ส่งให้แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการละเมิดสิทธิมนุษยชน" (Business สัปดาห์ 2000, 74) และได้เกิดความเสียหายเหล่านี้สังคมที่ไกลมากกว่าประโยชน์ ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่สังคมพัฒนามากดูการเติบโตของ globalism ด้วยกังวล พิจารณาความเชื่อมโยงให้เห็นลักษณะการทำงานของบริษัทข้ามชาติ3. ยากจนประเทศหาทุนนิยมโลกขวัญเพื่อชีวิตและสังคมของพวกเขา ขาดประสิทธิภาพระบบการปกครอง พวกเขาได้รับไม่สามารถดำเนินการป้องกัน และระเบียบข้อบังคับเพื่อป้องกันสภาพแวดล้อมและแรงงาน การเป็นประเทศอุตสาหกรรมได้หลายทศวรรษที่ผ่านมา 4. โลกทุนนิยมและการค้าเสรีมียังถูกกระตุ้นพาณิชย์ฟรีเงิน สำหรับประเทศเล็ก ๆ นี้มักมี destabilized เศรษฐกิจของพวกเขา และขึ้นควบคุมการ whims ของนักเก็งกำไรการเงินมั่งคั่ง5. globalism ทำหน้าที่ผลประโยชน์ของประเทศอุตสาหกรรมใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา ในการหาตลาดใหม่ แต่ประเทศเหล่านี้มีประสิทธิภาพสามารถที่จะ การจำกัดเสรีภาพของบุคคลอื่นในการเดินทาง ค้า และการแลกเปลี่ยนข้อมูล อย่างไรก็ตาม ราชการวันนี้เป็นของวิถีทางมนุษย์เพื่อจัดโครงสร้างใหม่ และเปลี่ยนสังคมจากภายใน เป็น ส่วนประกอบทำงานได้นี้ stillunfolding แต่ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า globalism เติบโตอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เราไม่มีพยานตายทั้งหมดและระบบโลกใหม่ที่จะเกิดการแทนระบบเก่า แทน มันดูเหมือนว่า เรามีหัวเรื่องในการเปลี่ยนแปลงและลึกซึ้ง การปฏิวัติทางเศรษฐกิจยังคงอยู่ในระหว่างดำเนินการ และขอบเขตทางการเมืองของโลกจะให้ในการเคลื่อนไหวอิสระ ของคน สินค้า ข้อมูล ความคิด ค่านิยมทางวัฒนธรรมแม้แต่ ความรู้ เกินไป ประจำข้ามขอบเขตทางวัฒนธรรมในพื้นที่สำคัญเช่นทางการเงิน เทคโนโลยี และการจัดการ แน่ใจ เปลี่ยนแปลงและพัฒนาเหล่านี้ไม่ได้หมายความ ดั้งเดิมประเทศรัฐเสีย แต่พวกเขาเน้นขนาดของปัญหาที่เผชิญกับรัฐสมัย ปัญหาดังกล่าวหนึ่งในรัฐสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาประเทศกำลังพัฒนา เป็นความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับกำลังการผลิตของสถาบันสาธารณะไหล่ความรับผิดชอบที่ใหม่ และให้เป็นธรรมติดต่อภายในใหม่ทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โลกาภิวัตน์และเปรียบเทียบรัฐประศาสนศาสตร์
โลกาภิวัตน์คือการรับรู้ที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของมันหรือผลกระทบในเวลา ในการวิเคราะห์นี้โลกาภิวัตน์ได้รับการยอมรับว่า "บูรณาการการเติบโตของเศรษฐกิจการเงินการเมืองชีวิตสังคมและวัฒนธรรมของประเทศ" (โทมัสปี 1999 5; Kettl 2000 490) โลกาภิวัตน์กระตุ้นกระบวนการของการสื่อสารเปิดการเจรจาต่อรองการโน้มน้าวใจและการมีปฏิสัมพันธ์ฟรีในหมู่ประชาชาติที่
พยายามที่จะส่งเสริมความสนใจในตัวเองของพวกเขาภายในกฎของเกม มันไม่ได้มี แต่การสร้างอาณาจักรขึ้นอยู่กับ putdown โหดร้ายของความท้าทายในการพระราชอำนาจตามที่แสดงให้เห็นถึงประวัติความเป็นมาอย่างพอเพียง ผู้สนับสนุนและนักวิจารณ์ของ globalizationtrends มากมาย; แต่ละค่ายสามารถที่จะกล่าวถึงผลบวกหรือเชิงลบจำนวนมากของ globalism ในรูปแบบที่ทันสมัย ผลบวกของ globalism ปรากฏครอบงำ ประชาสัมพันธ์เน้นว่า globalism คือการเพิ่มขึ้นของระบบทุนนิยมตลาดทั่วโลกซึ่งจะสร้างงานโอนเงินและการลงทุนและทำให้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ได้กับ
ผู้บริโภคที่ไม่ได้มีพวกเขาก่อน อาสาสมัครเผยแพร่สากลของสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ได้รับการอำนวยความสะดวกและเร่งกระบวนการของการ globalism จากมุมมองนี้เทคโนโลยีใหม่และระบบการสื่อสารในปัจจุบันโดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเทอร์เน็ตทำให้มันเป็นไปได้ที่จะเผยแพร่ข้อมูลทั่วโลกได้อย่างง่ายดายรวดเร็วและราคาถูก ไม่เพียง แต่มีอินเทอร์เน็ต "โหมตลาดการเงินตลอด 24 ชั่วโมงก็มีเช่นเดียวกับที่สำคัญเปลี่ยนการกำกับดูแล" (Kettl 2000 491) เป็นผลให้การค้าเสรีเพิ่มขึ้นการเดินทาง, การส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมประเภทต่างๆเป็นประจำจะอ้างเป็นหลักฐานของโลกาภิวัตน์ที่กำลังเติบโต นอกจากนี้ "การเพิ่มจำนวนของการตัดสินใจในนโยบายตอนนี้ถูกทำโดยสถาบันการศึกษาทั่วโลกแทนแต่ละ
ประเทศ "(เวลช์และวงศ์ปี 1998 45) ในทางตรงกันข้ามการวิจารณ์ของ globalism ถูกติดตั้งในบางครั้งการแสดงออกที่รุนแรง ปฏิกิริยาพายุที่มีการระเบิดในเมืองทั่วโลกทุกที่ที่ประชุมระหว่างประเทศของประเทศอุตสาหกรรมที่ได้รับการจัดขึ้นเป็นเพียงหนึ่งที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจ
กับสภาพที่เป็นอยู่ โดยปกติแล้วการวิพากษ์วิจารณ์ดังต่อไปนี้:
1 ทุนนิยมทั่วโลกสูงโดยกระโดดในด้านเทคโนโลยีความล้มเหลวของลัทธิคอมมิวนิสต์และประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจไม่กี่ที่งดงามในเอเชียตะวันออกยังไม่ได้รับประโยชน์ทุกคน ในบางกรณีมันได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง สถิติตัวอย่างการสนับสนุนการแข่งขันนี้แสดงให้เห็นว่าร้อยละ 88 ของโลกที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอยู่ในประเทศอุตสาหกรรมในขณะที่เพียงร้อยละ 0.3 ที่อาศัยอยู่ในที่ยากจนที่สุด
ประเทศทั่วโลก.
2 ในบางประเทศที่กำลังพัฒนา "บริษัท ข้ามชาติที่มีส่วนร่วมในการใช้แรงงานสิ่งแวดล้อมและการละเมิดสิทธิมนุษยชน" (Business Week 2000, 74) และได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมเหล่านี้ไกลเกินกว่าผลประโยชน์ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่สังคมกำลังพัฒนาจำนวนมากดูการเจริญเติบโตของ globalism ด้วยความกังวลพิจารณาการเชื่อมโยงไปยังพฤติกรรมที่มองเห็นของ บริษัท ข้ามชาติ.
3 ประเทศยากจนพบว่าระบบทุนนิยมโลกก่อกวนให้กับชีวิตและสังคมของพวกเขา ขาดระบบการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพของพวกเขาได้รับไม่สามารถที่จะออกกฎหมายป้องกันและ
กฎระเบียบเพื่อปกป้องสภาพแวดล้อมและคนงานของพวกเขาเป็นประเทศอุตสาหกรรมได้ทศวรรษที่ผ่านมา.
4 ทุนนิยมโลกและการค้าเสรีได้กระตุ้นการค้าเสรีในเงิน สำหรับประเทศเล็ก ๆ นี้ได้ destabilized มักเศรษฐกิจของพวกเขาและพวกเขาจัดขึ้นตัวประกันในการแปรเปลี่ยนของนักเก็งกำไรทางการเงินที่ร่ำรวย.
5 โลกาภิวัตน์ทำหน้าที่ผลประโยชน์ของประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกาในการค้นหาตลาดใหม่ แต่ประเทศที่มีประสิทธิภาพเหล่านี้มีความสามารถ
ที่จะที่จะ จำกัด เสรีภาพของผู้อื่นในการเดินทางการค้าและการแลกเปลี่ยนข้อมูล อย่างไรก็ตามการบริหารราชการในวันนี้เป็นศูนย์กลางของความพยายามของมนุษย์ที่จะปรับโครงสร้างและการก่อร่างใหม่สังคมจากภายในที่จะเป็นชิ้นส่วนที่มีศักยภาพของ stillunfolding นี้ แต่อย่างรวดเร็วปรากฏการณ์การเติบโตที่รู้จักกันเป็น globalism เราไม่ได้เป็นพยานระบบเก่าผ่านไปอย่างครบถ้วนและระบบโลกใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นแทนที่ แต่มันดูเหมือนว่าเรากำลังมุ่งหน้าไปสู่การเปลี่ยนแปลงการสั่งซื้ออย่างสุดซึ้ง การปฏิวัติทางเศรษฐกิจยังคงอยู่ในความคืบหน้าและขอบเขตทางการเมืองของโลกที่จะให้ในการเคลื่อนไหวของผู้คนสินค้าข้อมูลความคิดและค่านิยมทางวัฒนธรรมแม้กระทั่ง ความรู้มากเกินไปอย่างสม่ำเสมอข้ามเขตแดนทางวัฒนธรรมในพื้นที่ที่สำคัญเช่นการเงินเทคโนโลยีและการจัดการ เพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และการพัฒนาไม่ได้หมายถึงรัฐ nation- แบบดั้งเดิมจะตาย แต่พวกเขาจะเน้นย้ำความสำคัญของปัญหาที่ประสบรัฐร่วมสมัย หนึ่งในปัญหาดังกล่าวสำหรับรัฐที่ทันสมัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งของประเทศกำลังพัฒนาเป็นความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความสามารถของสถาบันของรัฐที่จะแบกรับความรับผิดชอบใหม่และเพื่อให้แน่ใจว่าการติดต่อยุติธรรมภายในใหม่ทั่วโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โลกาภิวัฒน์ และโลกาภิวัฒน์การบริหารรัฐกิจ
เปรียบเทียบคือการรับรู้แตกต่างกันขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของมันหรือผลกระทบในเวลา ในการวิเคราะห์ โลกาภิวัตน์ได้รับการยอมรับว่าเป็น " การบูรณาการทางเศรษฐกิจ การเงิน การเมือง สังคมและวัฒนธรรมของประเทศ " ( Thomas 1999 , 5 ; kettl 2000 , 490 ) โลกาภิวัตน์ทำให้กระบวนการของการสื่อสารเปิดการเจรจาต่อรอง , การโน้มน้าวใจ , และฟรีปฏิสัมพันธ์ในหมู่ประเทศที่แสวงหาเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของพวกเขา
ภายในกฎของเกม ไม่ใช่ อย่างไรก็ตาม การสร้างอาณาจักรตาม putdown โหดร้ายของความท้าทายผู้มีอำนาจสูงสุด เป็นประวัติที่แสดงให้เห็นถึงการปลดปล่อย . ที่สนับสนุนและนักวิจารณ์ของ globalizationtrends มากมาย ;แต่ละค่ายสามารถอ้างถึงมากมายบวกหรือเชิงลบของโลกาภิวัตน์ในรูปแบบทันสมัย ผลบวกของโลกาภิวัฒน์ปรากฏท่วมท้น สนับสนุนการเน้นว่า โลกาภิวัฒน์คือการเพิ่มขึ้นของตลาดทุนนิยมทั่วโลก ซึ่งสร้างงาน การเงินและการลงทุน และทำให้ผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภคที่ไม่ได้

มีก่อนหน้านี้เผยแพร่โดยสากลของวิทยาศาสตร์และสิ่งประดิษฐ์เทคโนโลยีได้รับการส่งเสริมและเร่งกระบวนการโลกาภิวัฒน์ จากมุมมองนี้ , เทคโนโลยีใหม่และระบบการสื่อสารในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเทอร์เน็ตที่ทำให้มันเป็นไปได้ที่จะเผยแพร่ข้อมูลทั่วโลกได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว และง่าย .ไม่เพียงมีอินเทอร์เน็ตให้บริการเติมเชื้อเพลิงในตลาดการเงินได้ แค่เป็นสําคัญ แปลงการปกครอง " ( kettl 2000 , 491 ) ผลคือ การค้าเสรี การเดินทาง การส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมของชนิดต่าง ๆเป็นประจำอ้างเป็นหลักฐานของการเติบโตในยุคโลกาภิวัตน์ นอกจากนี้" การเพิ่มจำนวนของการตัดสินใจนโยบายที่ตอนนี้ถูกผลิตโดยโลกสถาบันแทนของแต่ละประเทศ
" ( Welch และวอง 1998 , 45 ) บนมืออื่น ๆ , การวิจารณ์ของโลกาภิวัตน์คือการติดตั้ง บางครั้งการแสดงออกที่รุนแรง ปฏิกิริยารุนแรงว่า มีระเบิดในเมืองทั่วโลก ไม่ว่าการประชุมระหว่างประเทศของประเทศอุตสาหกรรมได้ถูกจัดมีเพียงหนึ่งตัวบ่งชี้ของความไม่พอใจ
กับสถานะที่เป็นอยู่ โดยทั่วไปแล้ว วิพากษ์วิจารณ์รวมถึงต่อไปนี้ :
1 โลกทุนนิยมขั้นสูงโดย leaps ในเทคโนโลยี , ความล้มเหลวของลัทธิคอมมิวนิสต์ และไม่กี่ที่งดงามความสำเร็จทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออก ได้ประโยชน์ทุกคน ในบางกรณี มันได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงตัวอย่างสถิติที่สนับสนุนการต่อสู้ครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า 88 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกอยู่ในประเทศอุตสาหกรรม ในขณะที่เพียงร้อยละ 0.3 อาศัยอยู่ในประเทศที่ยากจนที่สุดของโลก
.
2 ในบางประเทศพัฒนา " บริษัท ข้ามชาติมีส่วนในการละเมิดสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และ " สัปดาห์ธุรกิจปี 200074 ) และได้เกิดความเสียหายเหล่านี้สังคมยิ่งกว่าประโยชน์ ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่สังคมพัฒนาหลายมุมมองการเจริญเติบโตของโลกาภิวัฒน์กับปัญหาพิจารณาการเชื่อมโยงกับพฤติกรรมที่มองเห็นได้ของ บริษัท ข้ามชาติ .
3 ประเทศยากจนหาโลกทุนนิยมก่อกวนเพื่อชีวิตและสังคม การขาดประสิทธิภาพของระบบการบริหารจัดการพวกเขาได้รับไม่สามารถที่จะออกกฎหมายและกฎระเบียบเพื่อป้องกันป้องกัน
ของสภาพแวดล้อมและคนงานเป็นประเทศอุตสาหกรรมทำทศวรรษที่ผ่านมา
4 โลกทุนนิยมและการค้าเสรียังกระตุ้นพาณิชย์ฟรีเงิน สำหรับประเทศเล็กๆ นี้มักจะมีสูญสลายเศรษฐกิจของพวกเขาและจัดพวกเขาเป็นตัวประกันเพื่อ whims ของนักเก็งกำไรทางการเงินที่ร่ำรวย .
5โลกาภิวัตน์บริการผลประโยชน์ของประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ในการค้นหาของพวกเขาสำหรับตลาดใหม่ แต่ประเทศที่มีประสิทธิภาพเหล่านี้สามารถ
ที่จะ , เพื่อ จำกัด เสรีภาพของผู้อื่น ในการท่องเที่ยว การค้า และแลกเปลี่ยนข้อมูล อย่างไรก็ตาม การบริหารสาธารณะ วันนี้ที่ศูนย์ของความพยายามของมนุษย์ในการปรับโครงสร้างและเปลี่ยนสังคมจากภายในได้ชิ้นส่วนของ stillunfolding นี้ แต่การเติบโตอย่างรวดเร็ว ปรากฏการณ์ที่เรียกว่าโลกาภิวัฒน์ เราไม่ได้เป็นพยานเป็นระบบเก่าที่ผ่านไปอย่างครบถ้วนและเป็นระบบใหม่ของโลกเกิดมาแทน แต่ดูเหมือนว่า เรากำลังมุ่งหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งเพื่อ การปฏิวัติทางเศรษฐกิจยังคงอยู่ในความคืบหน้าและขอบเขตทางการเมืองของโลกคือการให้ในการเคลื่อนไหวของสินค้าฟรี ข้อมูล ความคิด และค่านิยมทางวัฒนธรรมได้ ความรู้ด้วยเป็นประจำข้ามขอบเขตทางวัฒนธรรมในพื้นที่สำคัญ เช่น การเงิน เทคโนโลยี และการจัดการ เพื่อให้แน่ใจว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และการพัฒนาไม่ได้หมายถึงแบบรัฐชาติ ตายแล้วแต่พวกเขาก็จะลดขนาดของปัญหาที่เผชิญสภาพร่วมสมัย ปัญหาหนึ่ง เช่น รัฐสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาประเทศกำลังพัฒนา มีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความจุของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ต้องแบกความรับผิดชอบใหม่และเพื่อให้แน่ใจว่า การติดต่องานภายในใหม่ทั่วโลก