Me before you เชื่อว่าหลายคนคงมองว่

Me before you เชื่อว่าหลายคนคงมองว่าความหมายของชื่อเรื่องคือ ตัวฉันก่อนจะมาเจอเธอ แต่เรามองแตกต่าง Me Before you ( กูก่อนยิ้ม ) 55 ดู dark ขึ้นทันที ทำไมถึงคิดยังงั้น ??
เราคิดว่าหนังปูเรื่องตั้งแต่ฉากแรกและว่านางเอกเป็นคนที่มี character เอาใจใส่คนรอบข้าง,เป็นคนอบอุ่น จากฉากที่คุณยายในร้านทานอาหารไม่หมด แล้วนางเอกยิ้มรับและเสนอที่จะห่อกลับบ้านให้
ยิ่งหลังๆเริ่มชัดมากขึ้นว่า นางเอกเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับคนรอบข้างมาก่อนตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแฟน ที่คอย เป็นคน support ความฝันของแฟน หรือการออกมาทำงานเสียสละเพื่อครอบครัว เห็นได้ชัดจากฉากที่พ่อนางเอกพูดว่า " We need that money"
โอเคเหมือนหนังพยายามจะสื่อออกมาแล้วว่า ตัวตนของนางเอกที่เป็นอยู่ตอนนี้ ไม่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองเป็น ไม่ได้มีอิสรภาพเหมือนที่หลายๆคนรอบข้างมี แต่นางเอกก็ไม่ได้กลายเป็นคนอมทุกข์ ยังเป็นคนร่าเริง และให้ความสำคัญกับคนรอบข้าง
จริงๆ มันมีอะไรหลายอย่างที่ชัดเจนมาก โดยเฉพาะ character ของนางเอกที่ใครๆก็ต้องชอบ ด้วยความที่เป็นคนร่าเริง และเอาใจใส่คนรอบข้างๆ ทุกคนอยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่น ( ชอบแววตา รอยยิ้ม facial expression ของนางเอกมาก มันสื่อสาร character ของนางเอกออกมาได้ดี คือดูแล้วรู้สึกอบอุ่นไปด้วย )
และแล้วก็เข้าสู่ plot เรื่องสุดคลาสสิค เจ้าชายเย็นชากับผู้หญิงร่าเริง ตอนแรกเจ้าชายไม่เปิดใจให้กับผู้หญิงร่าเริง แต่ด้วยความดี ความร่าเริง ความเอาใจใส่คนรอบข้างของนางเอก ทำให้เจ้าชายเย็นชาเริ่มเปิดใจทีละเล็กทีละน้อย และสุดท้ายเจ้าชายก็เริ่มกลับมาร่าเริง กลับมายิ้มได้
ทุกอย่างดูไปในทิศทางที่ดี จนนางเอกมารู้ความจริงเรื่อง Dignitas (บริษัทใน สวิซที่รับทำเรื่อง Euthanasia ) ตอนแรกที่รู้นางเอกรู้สึก shock และทำใจไม่ได้ แต่ด้วย character ของนางเอก ก็เลยพยายามจะทำทุกๆอย่างเพื่อให้พระเอกเปลี่ยนใจ มีความคิดที่ใช้ชีวิตอยู่ต่อ ไม่ว่าจะพาไปดูแข่งมา พาไปดู classical concert จนกระทั่งพาไปงานแต่งงาน ทุกอย่างดูดีมาก พระเอกดูมีความสุขที่ได้อยู่กับนางเอก
"you are pretty much the only thing that makes me want to get up in the morning"
ดูแล้วน่าจะจบแบบ happy ending นางเอกสามารถเปลี่ยนใจพระเอกให้ล้มเลิกความคิดที่จะไป Dignitas จนถึงฉากนี้จะรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่อบอุ่นของหนัง ทุกอย่างดูสีชมพู สวยงาม love can conquer every thing
แม้กระทั่งทริปสุดท้ายที่นางเอกพาพระเอกไปเที่ยว รู้สึกเชื่อได้จริงๆว่า พระเอกต้องเปลี่ยนใจแน่ แต่หาเช่นนั้นไม่ ในวันสุดท้ายของทริปวันที่พระเอกตัดสินใจบอกความจริง และไม่คิดจะเปลี่ยนใจเรื่อง Dignitas
ชอบฉากที่พระเอกพูดว่า "this is not my life " มันสื่ออะไรได้หลายๆอย่างจากประโยคๆเดียวนะ
การที่มีใครสักคนเข้ามาในชีวิตเรา พาเราไปเปิดหูเปิดตากูสิ่งใหม่ๆ ทำให้เรามีความสุข ชีวิตดูมีความหมาย ทุกอย่างดูเต็มไปด้วยความสุข แต่มันไม่ใช่ชีวิตที่พระเอกต้องการ
เขาไม่สามาถหลีกหนีความจริงที่ว่า เขาเป็นคนพิการได้ ชีวิตที่พระเอกต้องการมันได้ตายจากไปตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้นแล้ว สิ่งที่เขาเคยเป็น ตัวตนของพระเอก ความพิการได้พรากมันไปแล้ว ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาต้องพบว่า ตัวเองไม่สามารถทำสิ่งที่ตัวเองรักได้
ความสุข , ความรักที่ได้จากคนรอบข้าง ไม่ใช่สิงที่อยู่กับเราทั้งชีวิต ตัวตนของเราตังหาก , สิงที่เราเป็น ที่จะอยู่กับเราทั้งชีวิต และตัวตนของเขาได้ตายจากไปแล้ว ชีวิตที่ดีไม่สามารถที่จะมาเติมเต็มตัวตนที่ขาดหายไปได้
ชอบที่มันดู เอาประเด็นสองเรื่องมา contrast กัน ชีวิตที่ดี กับชีวิตที่อยากเป็นมันคนละเรื่องกัน
จนมาถึงฉากที่นางเอกมาบ่นกับพ่อตัวเอง รู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่ตนทำ
" You can't change who people are "
" Then,what can you do "
"You love them"
ท้ายสุดแล้วเราไม่สามารถเปลี่ยนชีวิตใครได้หรอก สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือมอบความรัก มอบสิ่งดีดีให้ แต่ความรักไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตใครได้
อีกจุดหนึ่งที่ชอบคือ ชีวิตนางเอกแต่เดิมอยู่ไปวันๆ ใช้ชีวิตเพื่อคนอื่น ไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อตนเอง ไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ พระเอกจริงคิดว่า ไม่อยากให้นางเอกจมปลักกับการการดูแลเขาไปตลอดชีวิตและไม่มีชีวิตเป็นของตนเอง
ออกไปใช้ชีวิตในโลกกว้าง ทำในสิ่งที่อยากทำ เป็นในสิ่งที่อยากเป็น บางทีการให้ความสำคัญกับเรื่องของคนอื่น มาก่อนตนเอง เป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าลืมว่า เราต้องออกไปมีชิวตของตนเอง อย่าให้ความสำคัญกับคนอื่นมาเกินไป จนไม่มีชีวิตเป็นของตัวเอง อย่างที่นางเอกกำลังทำอยู่ ชีวิตคนเราเกิดมาครั้งเดียว ควรจะใช้ให้มันคุ้ม ออกไปทำตามความฝัน ออกไปตามหาสิ่งที่ทำให้ชีวิตเรามีความหมาย มีชีวิตในแบบที่ต้องการ
ตอนจบพระเอกเลยได้โอนเงินจำนวนหนึ่งเพื่อ set freedom ให้กับนางเอก และให้นางเอกออกไปมีชีวิตในแบบที่ตนเป็น
โดยส่วนตัวเลยคิดว่าสิ่งที่พระเอกต้องการจะสื่อมาตลอดให้กับนางเอกที่แต่เดิมเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับคนรอบข้างมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นแฟน , ครอบครัว ( you before me ) มาให้ความสำคัญกับชีวิตของตัวเองมากขึ้น มากกว่าที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องของคนรอบข้าง ( me before you ) ออกไปทำในสิ่งที่อยากทำ ออกไปเผชิญโลกกว้าง เลิกกังวลเรื่องคนอื่น ใช้ชีวิตในแบบที่อยากเป็น พระเอกไม่ต้องการให้นางเอกมีชิวตจมปลักดูแลเขาไปตลอดชีวิต จนไม่มีชีวิตเป็นของตัวเอง และนั่นคือความรักที่พระเอกมีให้กับนางเอก
สรุปปปปปป สำหรับคนที่ขี้เกียจอ่าน
1. ชีวิตที่มีความสุข ชีวิตที่ดี ที่หนังพยายามสื่อสารออกมาในตอนแรก ให้ดูทั้งคู่ดูสมหวังกับความรัก กับชีวิตในแบบที่ตนอยากเป็นมันคนละเรื่องกัน เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตใครได้หรอก เพราะตัวตนที่เค้าเป็นคือสิ่งที่อยู่กับเขาทั้งชีวิต ความรัก ความสุขที่เรามอบให้กับเขา มันชั่วครั้งชั่วคราวทำให้เขามีความสุข แต่ไม่ได้อยู่กับเขาตลอดไป
เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใครตัวตนใครได้ ที่เราทำได้ดีที่สุดก็คือ มอบสิ่งดีดี มอบความรัก ความสุข
2. การที่เราให้ความสำคัญกับคนรอบข้าง เป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าให้ เร

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฉันก่อนคุณเชื่อว่าหลายคนคงมองว่าความหมายของชื่อเรื่องคือแต่เรามองแตกต่างตัวฉันก่อนจะมาเจอเธอฉันก่อนคุณ (กูก่อนยิ้ม) 55 ดูมืดขึ้นทันทีทำไมถึงคิดยังงั้น??เราคิดว่าหนังปูเรื่องตั้งแต่ฉากแรกและว่านางเอกเป็นคนที่มีอักขระเอาใจใส่คนรอบข้าง เป็นคนอบอุ่นจากฉากที่คุณยายในร้านทานอาหารไม่หมดแล้วนางเอกยิ้มรับและเสนอที่จะห่อกลับบ้านให้สนับสนุนยิ่งหลังๆเริ่มชัดมากขึ้นว่านางเอกเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับคนรอบข้างมาก่อนตัวเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องแฟนที่คอยเป็นคนความฝันของแฟนหรือการออกมาทำงานเสียสละเพื่อครอบครัวเห็นได้ชัดจากฉากที่พ่อนางเอกพูดว่า "เราต้องการเงิน"โอเคเหมือนหนังพยายามจะสื่อออกมาแล้วว่าตัวตนของนางเอกที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองเป็นไม่ได้มีอิสรภาพเหมือนที่หลายๆคนรอบข้างมีแต่นางเอกก็ไม่ได้กลายเป็นคนอมทุกข์ยังเป็นคนร่าเริงและให้ความสำคัญกับคนรอบข้างจริง ๆ มันมีอะไรหลายอย่างที่ชัดเจนมากโดยเฉพาะอักขระของนางเอกที่ใครๆก็ต้องชอบด้วยความที่เป็นคนร่าเริงและเอาใจใส่คนรอบข้าง ๆ ทุกคนอยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่น (ชอบแววตารอยยิ้มสีหน้าของนางเอกมากมันสื่อสารอักขระของนางเอกออกมาได้ดีคือดูแล้วรู้สึกอบอุ่นไปด้วย)และแล้วก็เข้าสู่พล็อตเรื่องสุดคลาสสิคเจ้าชายเย็นชากับผู้หญิงร่าเริงตอนแรกเจ้าชายไม่เปิดใจให้กับผู้หญิงร่าเริงแต่ด้วยความดีความร่าเริงความเอาใจใส่คนรอบข้างของนางเอกทำให้เจ้าชายเย็นชาเริ่มเปิดใจทีละเล็กทีละน้อยและสุดท้ายเจ้าชายก็เริ่มกลับมาร่าเริงกลับมายิ้มได้ทุกอย่างดูไปในทิศทางที่ดีจนนางเอกมารู้ความจริงเรื่อง Dignitas (บริษัทในสวิซที่รับทำเรื่องการุณยฆาต) ตอนแรกที่รู้นางเอกรู้สึกช็อตและทำใจไม่ได้แต่ด้วยอักขระของนางเอกก็เลยพยายามจะทำทุกๆอย่างเพื่อให้พระเอกเปลี่ยนใจมีความคิดที่ใช้ชีวิตอยู่ต่อไม่ว่าจะพาไปดูแข่งมาพาไปดูคอนเสิร์ตคลาสสิกจนกระทั่งพาไปงานแต่งงานทุกอย่างดูดีมากพระเอกดูมีความสุขที่ได้อยู่กับนางเอก"คุณจะสวยมากสิ่งเดียวที่ทำให้ผมต้องลุกขึ้นในตอนเช้า"ดูแล้วน่าจะจบแบบนางเอกสามารถเปลี่ยนใจพระเอกให้ล้มเลิกความคิดที่จะไป Dignitas จนถึงฉากนี้จะรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่อบอุ่นของหนังทุกอย่างดูสีชมพูสวยงามรักล่อสามารถพิชิตทุกสิ่งแม้กระทั่งทริปสุดท้ายที่นางเอกพาพระเอกไปเที่ยวรู้สึกเชื่อได้จริงๆว่าพระเอกต้องเปลี่ยนใจแน่แต่หาเช่นนั้นไม่ในวันสุดท้ายของทริปวันที่พระเอกตัดสินใจบอกความจริงและไม่คิดจะเปลี่ยนใจเรื่อง Dignitasชอบฉากที่พระเอกพูดว่ามันสื่ออะไรได้หลายๆอย่างจากประโยคๆเดียวนะว่าชีวิตของฉัน"การที่มีใครสักคนเข้ามาในชีวิตเราพาเราไปเปิดหูเปิดตากูสิ่งใหม่ ๆ ทำให้เรามีความสุขชีวิตดูมีความหมายทุกอย่างดูเต็มไปด้วยความสุขแต่มันไม่ใช่ชีวิตที่พระเอกต้องการเขาไม่สามาถหลีกหนีความจริงที่ว่าเขาเป็นคนพิการได้ชีวิตที่พระเอกต้องการมันได้ตายจากไปตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้นแล้วสิ่งที่เขาเคยเป็นตัวตนของพระเอกความพิการได้พรากมันไปแล้วทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาต้องพบว่าตัวเองไม่สามารถทำสิ่งที่ตัวเองรักได้สิงที่เราเป็นที่จะอยู่กับเราทั้งชีวิตและตัวตนของเขาได้ตายจากไปแล้วชีวิตที่ดีไม่สามารถที่จะมาเติมเต็มตัวตนที่ขาดหายไปได้ ความสุข ความรักที่ได้จากคนรอบข้างไม่ใช่สิงที่อยู่กับเราทั้งชีวิตตัวตนของเราตังหากชอบที่มันดูเอาประเด็นสองเรื่องมาความแตกต่างกันชีวิตที่ดีกับชีวิตที่อยากเป็นมันคนละเรื่องกันจนมาถึงฉากที่นางเอกมาบ่นกับพ่อตัวเองรู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่ตนทำ"คุณไม่สามารถเปลี่ยนผู้คน""แล้ว คุณสามารถทำอะไร""คุณรักพวกเขา"ท้ายสุดแล้วเราไม่สามารถเปลี่ยนชีวิตใครได้หรอกสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือมอบความรักมอบสิ่งดีดีให้แต่ความรักไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตใครได้อีกจุดหนึ่งที่ชอบคือชีวิตนางเอกแต่เดิมอยู่ไปวัน ๆ ใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อตนเองไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำพระเอกจริงคิดว่าไม่อยากให้นางเอกจมปลักกับการการดูแลเขาไปตลอดชีวิตและไม่มีชีวิตเป็นของตนเองออกไปใช้ชีวิตในโลกกว้างทำในสิ่งที่อยากทำเป็นในสิ่งที่อยากเป็นบางทีการให้ความสำคัญกับเรื่องของคนอื่นมาก่อนตนเองเป็นสิ่งที่ดีแต่อย่าลืมว่าเราต้องออกไปมีชิวตของตนเองอย่าให้ความสำคัญกับคนอื่นมาเกินไปจนไม่มีชีวิตเป็นของตัวเองอย่างที่นางเอกกำลังทำอยู่ชีวิตคนเราเกิดมาครั้งเดียวควรจะใช้ให้มันคุ้มออกไปทำตามความฝันออกไปตามหาสิ่งที่ทำให้ชีวิตเรามีความหมายมีชีวิตในแบบที่ต้องการตอนจบพระเอกเลยได้โอนเงินจำนวนหนึ่งเพื่อตั้งอิสระให้กับนางเอกและให้นางเอกออกไปมีชีวิตในแบบที่ตนเป็นโดยส่วนตัวเลยคิดว่าสิ่งที่พระเอกต้องการจะสื่อมาตลอดให้กับนางเอกที่แต่เดิมเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับคนรอบข้างมาตลอดไม่ว่าจะเป็นแฟน ครอบครัว (คุณก่อนฉัน) มาให้ความสำคัญกับชีวิตของตัวเองมากขึ้นมากกว่าที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องของคนรอบข้าง (me ก่อน) ออกไปทำในสิ่งที่อยากทำออกไปเผชิญโลกกว้างเลิกกังวลเรื่องคนอื่นใช้ชีวิตในแบบที่อยากเป็นพระเอกไม่ต้องการให้นางเอกมีชิวตจมปลักดูแลเขาไปตลอดชีวิตจนไม่มีชีวิตเป็นของตัวเองและนั่นคือความรักที่พระเอกมีให้กับนางเอกสรุปปปปปปสำหรับคนที่ขี้เกียจอ่าน1. ชีวิตที่มีความสุขชีวิตที่ดีที่หนังพยายามสื่อสารออกมาในตอนแรกให้ดูทั้งคู่ดูสมหวังกับความรักกับชีวิตในแบบที่ตนอยากเป็นมันคนละเรื่องกันเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตใครได้หรอกเพราะตัวตนที่เค้าเป็นคือสิ่งที่อยู่กับเขาทั้งชีวิตความรักความสุขที่เรามอบให้กับเขามันชั่วครั้งชั่วคราวทำให้เขามีความสุขแต่ไม่ได้อยู่กับเขาตลอดไปเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใครตัวตนใครได้ที่เราทำได้ดีที่สุดก็คือมอบสิ่งดีดีมอบความรักความสุข2. การที่เราให้ความสำคัญกับคนรอบข้างเป็นสิ่งที่ดีแต่อย่าให้เร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ก่อนที่คุณจะให้ฉันเชื่อว่าหลายคนคงมองว่าความหมาย ของชื่อเรื่องคือตัวฉันก่อนจะมาเจอเธอ แต่เรามองแตกต่าง ฉันก่อนที่คุณ (กูก่อนยิ้ม) 55 ดูเข้มขึ้นทันทีทำไมถึงคิดยังงั้น ??
เราคิดว่า หนังปูเรื่องตั้งแต่ฉากแรกและว่า นางเอกเป็นคนที่มี ตัวอักษรเอาใจใส่คนรอบข้าง, เป็นของคุณคนอบอุ่นจากเนชั่ฉากที่ที่คุณคุณยายในห้างหุ้นส่วนจำกัดร้านทานอาหารไม่หมดแล้วนางเอกยิ้มรับและเสนอที่จะห่อกลับร้านบ้านให้
ยิ่งหลัง ๆ เริ่มชัด มากขึ้นว่านางเอกเป็นคนที่ให้ ความสำคัญกับคนรอบข้างมาก่อนตัวเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องแฟนที่คอยเป็นคน สนับสนุนความฝันของแฟนหรือการออกมา ทำงานเสียสละเพื่อครอบครัวเห็นได้ชัดจากฉากที่พ่อนางเอกพูด ว่า "เราจำเป็นต้องใช้เงินว่า"
โอเคเหมือนหนังพยายามจะสื่อออก มาแล้วว่าตัวตนของนางเอกที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองเป็นไม่ได้มีอิสรภาพเหมือนที่หลาย ๆ คนรอบข้างมี แต่ นางเอกก็ไม่ได้กลายเป็นของคุณคนอมทุกข์ยังเป็นของคุณคนร่าเริงและให้ความสามารถสำคัญกับของคุณคนรอบข้าง
จริงๆมันมีอะไรหลายอย่างที่ชัดเจนมากโดยเฉพาะตัวละครของนางเอกที่ใคร ๆ ก็ต้องชอบ ด้วยความที่เป็นคนร่าเริงและเอาใจใส่คน รอบข้างๆทุกคนอยู่ด้วยแล้วรู้สึก อบอุ่น (ชอบแววตารอยยิ้มสีหน้าของนางเอกมากมันสื่อสารตัวละครของนางเอกออกมาได้ดีคือดู แล้วรู้สึกอบอุ่นไปด้วย )
และแล้วก็เข้าสู่พล็อตเรื่องสุดคลาสสิคเจ้าชายเย็นชา กับผู้หญิงร่าเริงตอนแรกเจ้าชายไม่ เปิดใจให้กับผู้หญิงร่าเริง แต่ด้วยความดีความร่าเริงความเอาใจใส่คนรอบข้างของนางเอกทำให้เจ้าชายเย็นชาเริ่มเปิดใจทีละเล็กทีละน้อยและสุดท้ายเจ้าชายก็เริ่มกลับมาร่าเริง กลับมายิ้มได้
ทุกอย่างดูไปในห้างหุ้นส่วนจำกัดทิศทางที่ดีจนนางเอกมารู้ความจริงเรื่อง Dignitas ( บริษัท ในสวิซที่รับทำ เรื่อง นาเซีย) ตอนแรกที่รู้นางเอกรู้สึกช็อกและทำใจไม่ได้ แต่ด้วยตัวละครของนางเอกก็เลยพยายาม จะทำทุกๆอย่างเพื่อให้พระเอกเปลี่ยนใจ มีความคิดที่ใช้ชีวิตอยู่ต่อไม่ว่าจะพาไปดูแข่งมาพาไปดู คอนเสิร์ตคลาสสิกจนกระทั่งพาไปงานแต่งงานทุกอย่างดู ดีมากพระเอกดูมีความสุขที่ได้อยู่กับนางเอก
" คุณจะสวยมากสิ่งเดียวที่ทำให้ผมอยากจะตื่นขึ้นมาในตอนเช้า "
ดูแล้วน่าจะจบแบบสุขนางเอกสามารถเปลี่ยนใจพระเอกให้ล้มเลิกความคิด ที่จะไป Dignitas จนถึงฉากนี้จะรู้สึกได้ถึงอารมณ์ ที่อบอุ่นของหนัง ทุกอย่างดูสีชมพูสวยงามความรักสามารถเอาชนะทุกสิ่ง
แม้กระทั่งทริปสุดท้ายที่นางเอก พาพระเอกไปเที่ยวรู้สึกเชื่อได้จริงๆว่าพระเอกต้องเปลี่ยนใจแน่ แต่หาเช่นนั้นไม่ในวันสุดท้ายของทริปวันที่พระเอกตัดสินใจบอกความจริง และไม่คิดจะเปลี่ยนใจเรื่อง Dignitas
ชอบฉากที่พระเอกพูดว่า "นี่ไม่ใช่ชีวิตของฉัน" มันสื่ออะไรได้หลาย ๆ อย่างจากเนชั่ประโยค ๆ เดียวนะ
หัวเรื่อง: การที่มีใครสักของคุณคนเข้ามาในห้างหุ้นส่วนจำกัดชีวิตเราพาเราไปเปิดหูเปิดตากูสิ่งใหม่ ๆ ทำให้เรามีความสามารถคุณสุขชีวิตดูมีความสามารถหมายทุกอย่างดูเต็มไปด้วยความสามารถคุณสุข แต่มันไม่ใช่ชีวิตที่พระเอกต้องการ
เขาไม่สามาถหลีกหนีความสามารถจริงที่ว่าได้เขาเป็นของคุณคนพิการได้ชีวิตที่พระเอกต้องการมันได้ตายจากเนชั่ ไปตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้นแล้วสิ่งที่เขาเคยเป็นคุณตัวตนของพระเอกความสามารถพิการได้พรากมันไปแล้วทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาคุณต้องพบว่าได้คุณตัวเองไม่ด้านทำสิ่งที่คุณตัวเองรักได้
ความสามารถคุณสุข, ความรักที่ได้จาก คนรอบข้างไม่ใช่สิงที่อยู่กับ เราทั้งชีวิตตัวตนของเราตังหาก , สิงที่เราเป็นที่จะอยู่กับ เราทั้งชีวิตและตัวตนของเขาได้ตายจากไปแล้วชีวิตที่ดีไม่สามารถที่จะมาเติมเต็มตัวตน ที่ขาดหายไปได้
ชอบที่มันดูเอาประเด็นสองเรื่องมาตรงกันข้ามกันชีวิตที่ดีกับชีวิตที่ใหม่อยากเป็นมันคนละเรื่องกัน
จนมาถึงฉากที่นางเอกมาบ่นกับพ่อคุณตัวเองรู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่ตนทำ
"คุณสามารถ 'T เปลี่ยนคนเป็นใคร "
" แล้วสิ่งที่คุณสามารถทำได้ "
" คุณรักพวกเขา "
ท้ายสุดแล้วเราไม่สามารถเปลี่ยนชีวิต ใครได้หรอกสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือมอบความรักมอบสิ่งดีดีให้ แต่ความรักไม่ ด้านเปลี่ยนแปลงชีวิตใครได้
อีกจุดคุณหนึ่งที่ชอบคือชีวิตนางเอก แต่เดิมขณะนี้ไปการธนาคารวัน ๆ ใช้ชีวิตเพื่อของคุณคนอื่นไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อตนเองไม่ได้ทำในห้างหุ้นส่วนจำกัดสิ่งที่ใหม่อยากทำพระเอกจริงคิดว่าได้ไม่ใหม่อยากให้นางเอกจมปลักกับหัวเรื่อง: การหัวเรื่อง: การ ดูแลเขาไปตลอดชีวิตและไม่มีชีวิตเป็นของตนเอง
ออกไปใช้ชีวิตในห้างหุ้นส่วนจำกัดโลกกว้างทำในห้างหุ้นส่วนจำกัดสิ่งที่ใหม่อยากทำเป็นในห้างหุ้นส่วนจำกัดสิ่งที่ใหม่อยากเป็นบางทีหัวเรื่อง: การให้ความสามารถสำคัญกับเรื่องของของคุณคนอื่นมาก่อนตนเองเป็นสิ่งที่ดี แต่เพลงอย่าลืม ว่าเราต้องออกไปมีชิว ตของตนเองอย่าให้ความสำคัญกับคนอื่นมาเกินไปจนไม่มีชีวิตเป็นของตัวเองอย่างที่นางเอกกำลังทำอยู่ชีวิตคนเราเกิดมาครั้งเดียวควรจะใช้ให้มันคุ้มออกไปทำตาม ความสามารถฝันออกไปตามหาสิ่งที่ทำให้ชีวิตเรามีความสามารถหมายมีชีวิตในห้างหุ้นส่วนจำกัดแบบที่ต้องการ
ตอนจบพระเอกเลยได้แจ้งการโอนเงินจำนวนคุณหนึ่งเพื่อตั้งเสรีภาพให้กับนางเอกและให้นางเอกออกไปมีชีวิตในห้างหุ้นส่วนจำกัดแบบที่ตนเป็น
โดยส่วนตัวเป็นเลย คิดว่าสิ่งที่พระเอกต้องการจะสื่อ มาตลอดให้กับนางเอกที่ แต่เดิมเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับคนรอบข้างมาตลอดไม่ว่าจะเป็นแฟน , ครอบครัว (คุณก่อนที่จะฉัน) มาให้ความสำคัญกับชีวิตของตัว เองมาก ขึ้นมากกว่าที่จะให้ความสำคัญกับ เรื่องของคนรอบข้าง (ME ก่อนที่คุณจะ) ออกไปทำในสิ่งที่อยากทำ ออกไปเผชิญโลกกว้างเลิกกังวลเรื่องคนอื่นใช้ชีวิตในแบบที่อยากเป็นพระเอกไม่ต้องการให้นางเอกมีชิ ตจมปลักวดูแลเขาไปตลอดชีวิตจนไม่มีชีวิตเป็นของคุณตัวเองและนั่นคือความสามารถรักที่พระเอกมีให้กับนางเอก
สรุปปปปปปสำหรับของคุณคนที่ขี้เกียจอ่าน
1 ชีวิตที่มีความสุขชีวิตที่ดี ที่หนังพยายามสื่อสารออกมาในตอนแรกให้ดูทั้งคู่ดูสมหวังกับความรักกับชีวิตในแบบที่ตนอยากเป็นมันคนละเรื่องกันเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตใครได้หรอกเพราะตัวตนที่ เค้าเป็นคือสิ่งที่ขณะนี้กับเขาทั้งชีวิตความสามารถรักความสามารถคุณสุขที่เรามอบให้กับเขามันชั่วครั้งชั่วคราวทำให้เขามีความสามารถคุณสุข แต่ไม่ได้ขณะนี้กับเขาตลอดไป
เราไม่ด้านเปลี่ยนแปลงใครคุณตัวตนใครได้ที่เราทำได้ดี ที่สุดก็คือมอบสิ่งดีดีมอบ ความรักความสุข
2 การที่เราให้ความสำคัญกับคน รอบข้างเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าให้เร