Alfalfa has considerable potential

Alfalfa has considerable potential as a feedstock for production of
ethanol and other industrial materials because of its high biomass production, perennial nature,
ability to provide its own nitrogen fertilizer, and valuable co-products. Unlike other major field
crops like corn and soybeans, which are commonly refined for production of fuel and industrial
materials, refining of alfalfa remains underdeveloped. Instead,
alfalfa is primarily processed and used on-farm as livestock feed.
Although alfalfa remains tied with wheat as the third most
important field crop after corn and soybeans, declining dairy cow
numbers and shifts in feeding practices have caused a reduction in
alfalfa acreage over the last 25 years,. The end result has been an
increase in continuous row cropping of corn and soybeans with
little rotation to perennial forages. As a result, the risks of soil
erosion, contamination of surface and ground water by nitrate and
pesticides, and loss of valuable soil organic matter have increased.
Growing more alfalfa for biofuel production would contribute to
making the United States energy independent, improving our natural soil resource, reducing
greenhouse gas emissions, and protecting water quality.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คลอโรฟีลล์มีศักยภาพมากเป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตเอทานอลและวัสดุอุตสาหกรรมอื่น ๆ เนื่องจากการผลิตชีวมวลสูง ธรรมชาติไม้ยืนต้นความสามารถในการให้น้ำปุ๋ยไนโตรเจน และผลิตภัณฑ์ร่วมที่มีค่า ซึ่งแตกต่างจากวิชาอื่น ๆพืชเช่นข้าวโพดและถั่วเหลือง ซึ่งโดยทั่วไปกลั่นที่ผลิตน้ำมัน และอุตสาหกรรมวัสดุ กำลังการกลั่นของคลอโรฟีลล์ยังคงธรรมชาติ แทนคลอโรฟีลล์เป็นหลักมีการประมวลผล และใช้ในฟาร์มเป็นอาหารสัตว์แม้ว่าคลอโรฟีลล์ยังคงผูกกับข้าวสาลีเป็นส่วนสามพืชสำคัญหลังจากที่ข้าวโพดและถั่วเหลือง นมวัวลดลงตัวเลขและในการปฏิบัติการให้อาหารทำให้เกิดการลดคลอโรฟีลล์ขุดช่วงปี 25 ผลลัพธ์สุดท้ายได้รับการเพิ่มแถวที่ต่อเนื่องครอบของข้าวโพดและถั่วเหลืองด้วยการยืนต้นจำนงน้อยหมุน เป็นผล ความเสี่ยงของดินพังทลาย การปนเปื้อนของพื้นผิวและพื้นน้ำ โดยไนเตรท และยาฆ่าแมลง และสูญเสียของดินมีค่าอินทรีย์ได้เพิ่มขึ้นเติบโตคลอโรฟีลล์เพิ่มเติมสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพจะนำไปสู่ทำให้พลังงานไทยอิสระ พัฒนาทรัพยากรธรรมชาติดินของเรา ลดก๊าซเรือนกระจก และปกป้องคุณภาพน้ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Alfalfa มีศักยภาพมากเป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตของ
เอทานอลและวัสดุอุตสาหกรรมอื่น ๆ เนื่องจากการผลิตสารชีวมวลสูงธรรมชาติยืนต้น
ความสามารถในการให้ปุ๋ยไนโตรเจนของตัวเองและมีคุณค่าผลิตภัณฑ์ร่วม ซึ่งแตกต่างจากสาขาอื่น ๆ ที่สำคัญ
พืชเช่นข้าวโพดและถั่วเหลืองซึ่งมีการกลั่นโดยทั่วไปสำหรับการผลิตของน้ำมันเชื้อเพลิงและอุตสาหกรรม
วัสดุการกลั่นนเดอร์ยังคงด้อยพัฒนา แต่
หญ้าชนิตมีการประมวลผลหลักและใช้กับฟาร์มเป็นอาหารสัตว์.
แม้ว่าหญ้าชนิตยังคงผูกด้วยข้าวสาลีที่สามมากที่สุด
พืชไร่ที่สำคัญหลังจากข้าวโพดและถั่วเหลืองลดลงโคนม
ตัวเลขและการเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติให้อาหารได้ก่อให้เกิดการลดลงใน
ชนิตพื้นที่เพาะปลูกมากกว่า 25 ปีที่ผ่าน ,. ผลลัพธ์ที่ได้รับการ
เพิ่มขึ้นในการปลูกพืชแถวอย่างต่อเนื่องของข้าวโพดและถั่วเหลืองที่มี
การหมุนเพียงเล็กน้อยที่จะยืนต้นพืชอาหารสัตว์ เป็นผลให้ความเสี่ยงของดิน
พังทลายของการปนเปื้อนของพื้นผิวและพื้นน้ำโดยไนเตรตและ
สารกำจัดศัตรูพืชและการสูญเสียอินทรียวัตถุในดินที่มีคุณค่าได้เพิ่มขึ้น.
เติบโตหญ้าชนิตมากขึ้นสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพจะนำไปสู่
​​การทำพลังงานสหรัฐอเมริกาอิสระปรับปรุงธรรมชาติของเรา ทรัพยากรดินลดการ
ปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปกป้องคุณภาพน้ำ