Easterby-Smith, Thorpe, and Lowe (2

Easterby-Smith, Thorpe, and Lowe (2002) suggested using positivism, relativism,
or social constructionism for management research. I chose social constructivism based
on the explanation of these authors that "constructionist research designs start from the assumptions that there is no absolute truth, and the job of the researcher should be to
establish how various claims for truth and reality become constructed in everyday life"
(p. 93). The implication of using the social constructionist paradigm to understanding the
phenomenon of self-leadership in cross-cultural contexts is that reality is not always
objective, but is socially created and given meaning by people (p. 59). Esterby-Smith et
al. explained, "The task of the social scientist should not be to gather facts and measure
how often certain patterns occur, but to appreciate the different constructions and
meanings that people place upon their experience" (p. 59).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Easterby-smith, ธ อร์ปและโลว์ (2002) แนะนำการใช้ positivism, relativism
หรือ constructionism สังคมสำหรับการวิจัยการจัดการ ฉันเลือกที่ constructivism สังคมตาม
ในคำอธิบายของผู้เขียนเหล่านี้ว่า "การออกแบบการวิจัยตีความเริ่มต้นจากสมมติฐานที่ว่าไม่มีความจริงแน่นอนและการทำงานของนักวิจัยควรจะ
สร้างวิธีการเรียกร้องต่างๆสำหรับความจริงและความเป็นจริงกลายเป็นสร้างขึ้นในชีวิตประจำวัน "
(พี 93). ความหมายของการใช้กระบวนทัศน์ทางสังคมตีความเพื่อความเข้าใจ
ปรากฏการณ์ของตัวเองเป็นผู้นำในบริบทวัฒนธรรมคือความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้เสมอ
วัตถุประสงค์ แต่ถูกสร้างขึ้นในสังคมและให้ความหมายโดยคน (หน้า 59). esterby-smith เอตอัล
. อธิบายว่า"งานของนักวิทยาศาสตร์ทางสังคมไม่ควรที่จะรวบรวมข้อเท็จจริงและวัด
ความถี่รูปแบบบางอย่างเกิดขึ้น แต่จะชื่นชมการก่อสร้างที่แตกต่างกันและความหมาย
ว่าคนที่วางอยู่กับประสบการณ์ของพวกเขา" (หน้า 59)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Easterby-สมิธ โธร์ป และ Lowe (2002) แนะนำใช้ positivism, relativism,
หรือ constructionism สังคมวิจัยจัดการ ผมเลือกสังคมศิลปะเค้าโครงที่ใช้
ในคำอธิบายของผู้เขียนที่ "ออกแบบ constructionist วิจัยเริ่มต้นจากสมมติฐานที่ว่า ความจริงไม่มี และงานของนักวิจัยควร
สร้างเป็นสร้างอ้างต่าง ๆ ว่าความจริงและความเป็นจริงในชีวิตประจำวัน "
(p. 93) เนื่องจากการใช้กระบวนทัศน์ constructionist สังคมเพื่อความเข้าใจ
ปรากฏการณ์ self-leadership วัฒนธรรมคือความเป็นจริงไม่เสมอ
วัตถุประสงค์ แต่ถูกสังคมสร้างขึ้น และให้ความหมายคน (p. 59) Esterby Smith et
อธิบาย al. "ไม่ควรเป็นงานของนักวิทยาศาสตร์สังคมเพื่อ รวบรวมข้อเท็จจริงและวัด
บ่อยบางรูปแบบเกิด แต่การก่อสร้างแตกต่างชื่นชม และ
ความหมายที่คนทำตามประสบการณ์ของพวกเขา" (p. 59)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

easterby-smith และ Thorpe และ Lowe ' s Motor Speedway ( 2002 )ที่แนะนำการใช้ constructionism
หรือสังคม positivism มั่นต่างๆสำหรับการวิจัยด้านการบริหารจัดการ ผมเลือกใช้กระบวนการคิดนี้กําเนิดขึ้น
ซึ่งจะช่วยสังคมในคำอธิบายของผู้เขียนเหล่านี้ว่า"การออกแบบการวิจัยเพิ่มผลผลิต( Productivity Improvement & Innovative เริ่มจากสมมุติฐานที่ว่าไม่มี"ความจริงที่เป็นอย่างมากและงานนี้ของนักวิจัยที่จะต้องตอบแทน
การสร้างได้อย่างไรการอ้างสิทธิ์ต่างๆเพื่อความจริงและความเป็นจริงกลายเป็นสร้างขึ้นในชีวิตประจำวัน"
( p . 93 ). ข้อสรุปที่ได้จากการใช้กระบวนทัศน์ทางสังคมเพิ่มผลผลิต( Productivity Improvement & Innovative
ซึ่งจะช่วยในการทำความเข้าใจที่เกิดขึ้นในแบบบริการตัวเองความเป็นผู้นำในบริบทการข้ามทางวัฒนธรรมคือว่าความเป็นจริงไม่มีวัตถุประสงค์
ซึ่งจะช่วยแต่มีความหมายในทางด้านสังคมสร้างขึ้นและได้รับจากผู้คน( p . 59 ). esterby-smith et al .
ซึ่งจะช่วยอธิบาย"งานของนักวิทยาศาสตร์ทางสังคมที่ไม่ควรจะรวบรวมมาตรการและข้อเท็จจริง
ซึ่งจะช่วยได้อย่างไรมักมีรูปแบบบางอย่างเกิดขึ้นแต่จะได้เพลิดเพลินใจไปกับการก่อสร้างที่แตกต่างกันไปและ
ความหมายที่ผู้คนที่อยู่บนประสบการณ์ของพวกเขา"( p . 59 ).