“Soymilk“ is a beverage made from s

“Soymilk“ is a beverage made from soybeans [Glycine max (L.) Merr.] and has become
an important factor in human nutrition, due to the absence of cholesterol and lactose. The
composition of “soymilk“ is different from bovine milk in many aspects, such as fatty
acid profiles, fat, protein as well as soluble sugar content. Furthermore, “soymilk” has a
significant content of phyto-oestrogens (isoflavones) that are inexistent in cow milk, and
plays an important role in human nutrition by now.
The major objective of this study was to establish an appropriate methodology to
determine the selected composition of “soymilk”, and to compare “soymilk” products
with cow milk.
For the fatty acid profiles, “soymilk“ was lyophilized, derivatized by transmethylation
and analysed via GC-FID. Cow milk was extracted, subjected to alkaline
transmethylation to minimize loss of short-chained fatty acids and also analysed by GCFID.
As expected, “soymilk“ was rich in omega-3-fatty acids (e.g., alpha-linolenic acid),
whereas short-chained fatty acids were not present. In contrast, a high percentage of
saturated and mono-unsaturated fatty acids were detected in cow milk.
Fat content of both milks was analysed by the method of Röse-Gottlieb, a gravimetric
reference method. The main result was that cow milk showed a higher fat content than
“soymilk“.Protein content was analysed using the Kjeldahl method. While cow milk had a protein
content of approximately 3.5%, “soymilk“ contained around 4.8% protein. Moreover,
minor differences in non-protein-nitrogen (NPN) content could be observed.
Soluble sugars were determined by HPLC-RID using a mixture of acetonitrile and water
as mobile phase. The applied chromatographic system provided an efficient separation of
five sugars (glucose, fructose, sucrose, raffinose and stachyose), of which sucrose
represented the main component. In “soymilk”, probiotic sugars were found at
appreciable levels, but were not present in cow milk. For lactose-intolerant persons,
“soymilk” is a good alternative to cow milk, which has a high lactose content of about
4.7%.
Regarding phyto-oestrogens, 40 mg/100 g were found in “soymilk”. The isoflavone
composition was characterised via a newly established ultra performance liquid
chromatography (UPLC
™
) method. Quantitative amounts were determined as total
aglycones after enzymatic hydrolysis utilizing ß-Glucuronidase from Helix pomatia
juice.
Many research studies have indicated that consumption of functional foods, that are rich
in isoflavones, are associated with a wide variety of health benefits, including
prevention of breast and prostate cancer, cardiovascular diseases and reduced symptoms
of diabetes and postmenopausal bone loss. These functional foods include also
”soymilk“.
In general, “soymilk” turned out to be a valuable food and may be regarded as an option
in human nutrition, in particular in certain cases (e.g., lactose intolerance).
However, taking into account recent literature, “soymilk” can definitively not be
considered as an adequate substitute for bovine milk, especially regarding nutritional
needs for young children.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"กระดาษป้องกันเชื้อรา" เป็นเครื่องดื่มที่ทำจากถั่วเหลือง [Glycine max (L.) Merr.] และได้กลายเป็นปัจจัยที่สำคัญในโภชนาการ เนื่องจากขาดไขมันและแล็กโทส ที่องค์ประกอบของ "กระดาษป้องกันเชื้อรา" จะแตกต่างจากนมวัวในหลาย ๆ ด้าน เช่นไขมันกรดโพรไฟล์ ไขมัน โปรตีน ตลอดจนเนื้อหาน้ำตาลละลายน้ำ นอกจากนี้ "กระดาษป้องกันเชื้อรา" ได้เนื้อหาสำคัญของ phyto-oestrogens (isoflavones) ที่อยู่ในนมวัว inexistent และมีบทบาทสำคัญในโภชนาการ โดยขณะนี้วัตถุประสงค์หลักของการศึกษานี้คือการ สร้างวิธีการที่เหมาะสมกำหนดองค์ประกอบที่เลือก ของ "กระดาษป้องกันเชื้อรา" และเปรียบเทียบสินค้า "กระดาษป้องกันเชื้อรา"ด้วยนมวัวสำหรับโพรไฟล์ของกรดไขมัน "กระดาษป้องกันเชื้อรา" ถูก lyophilized, derivatized โดย transmethylationและ analysed ทาง GC-FID นมวัวถูกสกัด การด่างtransmethylation เพื่อลดการสูญเสียกรดไขมันสั้น-ถูกล่ามโซ่ และยัง analysed โดย GCFIDตามที่คาดไว้ "กระดาษป้องกันเชื้อรา" อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 (เช่น อัลฟา-linolenic กรด),ในขณะที่กรดไขมันสั้น-ถูกล่ามโซ่อยู่ไม่ได้ ในความคมชัด ของกรดไขมันอิ่มตัว และ mono-unsaturated พบในนมวัวไขมันของ milks ทั้งถูก analysed โดยวิธีการ Röse-Gottlieb ต้องการวิธีการอ้างอิง ผลหลักถูกว่า นมวัวพบว่าไขมันสูงกว่าเนื้อหา"กระดาษป้องกันเชื้อรา"โปรตีนถูก analysed โดยวิธี Kjeldahl ในขณะที่นมวัวมีโปรตีนเนื้อหาประมาณ 3.5% "กระดาษป้องกันเชื้อรา" อยู่รอบ 4.8% โปรตีน นอกจากนี้อาจจะสังเกตความแตกต่างเล็กน้อยในเนื้อหาไม่ใช่โปรตีนไนโตรเจน (NPN)น้ำตาลละลายน้ำได้ตามกำจัด HPLC ใช้ acetonitrile และน้ำผสมกันเป็นระยะที่เคลื่อนที่ ระบบ chromatographic ใช้ให้แยกที่มีประสิทธิภาพของ5 น้ำตาล (กลูโคส ฟรักโทส ซูโครส raffinose และ stachyose), ของซูโครสที่แสดงส่วนประกอบหลัก ใน "กระดาษป้องกันเชื้อรา" โปรไบโอติกส์น้ำตาลพบในระดับเห็น แต่ไม่มีในนมวัว แล็กโทส intolerant คน"กระดาษป้องกันเชื้อรา" เป็นทางเลือกดีวัวนม ซึ่งมีเนื้อหาแล็กโทสสูงประมาณ4.7%เกี่ยวกับ phyto-oestrogens, 40 มิลลิกรัม/100 กรัมพบใน "กระดาษป้องกันเชื้อรา" Isoflavoneองค์ประกอบถูกดำเนินผ่านน้ำยาประสิทธิภาพพิเศษที่จัดตั้งขึ้นใหม่chromatography (UPLC™) วิธีการ จำนวนเชิงปริมาณได้กำหนดผลรวมaglycones หลังใช้บาท-Glucuronidase จาก pomatia เกลียวไฮโตรไลซ์เอนไซม์ในระบบน้ำกระป๋องศึกษาวิจัยจำนวนมากได้แสดงให้เห็นปริมาณการใช้ที่ทำงานอาหาร ที่อุดมไปด้วยใน isoflavones เกี่ยวข้องกับความหลากหลายของประโยชน์ต่อสุขภาพ รวมทั้งป้องกันโรคมะเร็งเต้านมและต่อมลูกหมาก โรคหัวใจและหลอดเลือด และลดอาการโรคเบาหวานและการสูญเสียกระดูก postmenopausal รวมรวมอาหารเหล่านี้ทำงาน"กระดาษป้องกันเชื้อรา"ทั่วไป "กระดาษป้องกันเชื้อรา" กลายเป็นอาหารที่มีคุณค่า และอาจถือเป็นตัวเลือกในโภชนาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางกรณี (เช่น แล็กโทส)อย่างไรก็ตาม การเข้าบัญชีล่าสุดวรรณกรรม "กระดาษป้องกันเชื้อรา" แน่นอนไม่สามารถถือว่าเป็นการทดแทนเพียงพอสำหรับวัวนม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับโภชนาการความต้องการสำหรับเด็ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"นมถั่วเหลือง" เป็นเครื่องดื่มที่ทำจากถั่วเหลือง [Glycine สูงสุด (L. ) Merr.] และได้กลายเป็น
ปัจจัยสำคัญในการโภชนาการมนุษย์เนื่องจากไม่มีคอเลสเตอรอลและแลคโตส
องค์ประกอบของ "นมถั่วเหลือง" จะแตกต่างจากนมวัวในหลาย ๆ ด้านเช่นไขมัน
กรดไขมันโปรตีนเช่นเดียวกับปริมาณน้ำตาลที่ละลายน้ำได้ นอกจากนี้ "นมถั่วเหลือง" มี
เนื้อหาสำคัญของ Phyto-oestrogens (คุณสมบัติคล้าย) ที่มี inexistent ในนมวัวและ
มีบทบาทสำคัญในการโภชนาการของมนุษย์โดยขณะนี้.
วัตถุประสงค์หลักของการศึกษานี้คือการสร้างวิธีการที่เหมาะสมในการ
ตรวจสอบที่เลือก องค์ประกอบของ "นมถั่วเหลือง" และเพื่อเปรียบเทียบ "นมถั่วเหลือง" ผลิตภัณฑ์
ที่มีนมวัว.
สำหรับส่วนกำหนดค่ากรดไขมัน "นมถั่วเหลือง" ก็แห้ง, derivatized โดย transmethylation
และวิเคราะห์ผ่าน GC-FID นมวัวถูกสกัดยัดเยียดให้อัลคาไลน์
transmethylation เพื่อลดการสูญเสียของกรดไขมันสั้นถูกล่ามโซ่และวิเคราะห์โดย GCFID.
ตามคาด "นมถั่วเหลือง" เป็นอุดมไปด้วยกรดโอเมก้า 3 ไขมัน (เช่น alpha-linolenic acid)
ในขณะที่ระยะสั้น กรดไขมัน -chained ไม่ได้อยู่ ในทางตรงกันข้ามเปอร์เซ็นต์สูงของ
กรดไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัวขาวดำถูกตรวจพบในนมวัว.
ปริมาณไขมันของนมทั้งสองได้รับการวิเคราะห์โดยวิธีการของกุหลาบ Gottlieb, gravimetric
วิธีการอ้างอิง ผลหลักคือการที่วัวนมพบว่ามีปริมาณไขมันสูงกว่า
"นมถั่วเหลือง" เนื้อหา .Protein ได้รับการวิเคราะห์โดยใช้วิธี Kjeldahl ในขณะที่นมวัวมีโปรตีน
เนื้อหาประมาณ 3.5% "นมถั่วเหลือง" ที่มีอยู่รอบโปรตีน 4.8% นอกจากนี้
ความแตกต่างเล็กน้อยในที่ไม่ใช่โปรตีนไนโตรเจน (NPN) เนื้อหาจะเห็น.
น้ำตาลที่ละลายน้ำได้ถูกกำหนดโดยวิธี HPLC-RID โดยใช้ส่วนผสมของ acetonitrile และน้ำ
เป็นเฟสเคลื่อนที่ ระบบโครมาประยุกต์ใช้ให้มีประสิทธิภาพในการแยก
ห้าน้ำตาล (กลูโคสฟรุกโตสซูโครส raffinose และ stachyose) ซึ่งน้ำตาลซูโครส
เป็นตัวแทนขององค์ประกอบหลัก ใน "นมถั่วเหลือง" โปรไบโอติกน้ำตาลถูกพบใน
ระดับที่เห็นได้ แต่ก็ไม่ได้อยู่ในนมวัว สำหรับผู้ที่แพ้แลคโตส,
"นมถั่วเหลือง" เป็นทางเลือกที่ดีที่จะนมวัวซึ่งมีเนื้อหาแลคโตสสูงประมาณ
4.7%.
เกี่ยวกับ Phyto-oestrogens 40 มก. / 100 กรัมถูกพบอยู่ใน "นมถั่วเหลือง" isoflavone
องค์ประกอบก็มีลักษณะผ่านทางของเหลวสมรรถนะพิเศษที่จัดตั้งขึ้นใหม่
โค (UPLC
™
) วิธีการ จำนวนเงินที่ได้รับการพิจารณาเชิงปริมาณเป็นทั้งหมด
aglycones หลังจากที่ย่อยโปรตีนในการใช้ SS-glucuronidase จาก Helix pomatia
น้ำ.
การศึกษาวิจัยหลายคนได้แสดงให้เห็นว่าการบริโภคอาหารที่ทำงานที่อุดมไปด้วย
ในคุณสมบัติคล้ายที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายของประโยชน์ต่อสุขภาพรวมทั้ง
การป้องกันของเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก, โรคหลอดเลือดหัวใจและอาการลดลง
ของโรคเบาหวานและการสูญเสียกระดูกวัยหมดประจำเดือน อาหารทำงานเหล่านี้รวมถึงยัง
"นมถั่วเหลือง".
โดยทั่วไป "นมถั่วเหลือง" จะกลายเป็นอาหารที่มีคุณค่าและอาจจะถือได้ว่าเป็นตัวเลือก
ในโภชนาการของมนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางกรณี (เช่นแพ้แลคโต).
แต่คำนึงถึง วรรณกรรมล่าสุด "นมถั่วเหลือง" จะแตกหักไม่ได้รับ
การพิจารณาเป็นแทนเพียงพอสำหรับวัวนมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับโภชนาการ
ความต้องการสำหรับเด็กเล็ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" นมถั่วเหลือง " เป็นเครื่องดื่มที่ทำจากถั่วเหลือง [ Glycine max ( L . ) Merr . ) และได้กลายเป็น
เป็นปัจจัยสําคัญในโภชนาการมนุษย์ เนื่องจากไม่มีคอเลสเตอรอลและแลกโตส
องค์ประกอบของ " นมถั่วเหลือง " แตกต่างจากน้ำนมวัวในหลายด้าน เช่น กรดไขมัน
โปรไฟล์ ไขมัน โปรตีน รวมทั้งปริมาณน้ําตาล . นอกจากนี้ " นมถั่วเหลือง " มี
เนื้อหาสำคัญของไฟโต โอเอสโตรเจน ( ไอโซฟลาโวน ) ที่ซึ่งไม่ได้ดำรงอยู่ในน้ำนมและ
มีบทบาทสำคัญในด้านโภชนาการแล้ว
วัตถุประสงค์หลักของการศึกษา เพื่อสร้างวิธีการที่เหมาะสม

หาเลือกองค์ประกอบของ " นมถั่วเหลือง " และเปรียบเทียบ " นมถั่วเหลือง " ผลิตภัณฑ์

กับนมวัว สำหรับโปรไฟล์ของกรดไขมัน " นมถั่วเหลือง " ไลโอ ,derivatized โดย transmethylation
และวิเคราะห์ทาง gc-fid . น้ำนมสกัดภายใต้ transmethylation ด่าง
เพื่อลดการสูญเสียของกรดไขมันโซ่สั้นและวิเคราะห์โดย gcfid .
ตามคาด " นมถั่วเหลือง " เป็นมั่งมีในกรด omega-3-fatty ( เช่น อัลฟากรดไลโนเลนิก ) ,
ส่วนสั้นถูกล่ามโซ่กรดไขมันไม่ปัจจุบัน ในทางตรงกันข้าม , เปอร์เซ็นต์สูงของ
ไขมันอิ่มตัวและโมโนกรดไขมันไม่อิ่มตัวพบในนมวัว ไขมัน ทั้งยัง
? โดยวิธีการของ R ö se กอตต์ลีบ , วิธีการอ้างอิงด้วย

ผลหลักคือ นมมีปริมาณไขมันสูงกว่า
" นมถั่วเหลือง " โปรตีนวิเคราะห์โดยใช้ 0 วิธีการ ในขณะที่นมวัวมีโปรตีน
เนื้อหาประมาณ 3.5% " นมถั่วเหลือง " มีรอบ 4โปรตีน 8 % โดย
ความแตกต่างเล็กน้อยในไนโตรเจนโปรตีนไม่ ( NPN ) เนื้อหาอาจจะสังเกต
น้ำตาลละลายซึ่ง hplc-rid โดยใช้ส่วนผสมของไนและน้ำ
เป็นเฟสเคลื่อนที่ . การประยุกต์ใช้ระบบให้มีประสิทธิภาพและแยก 5 ( กลูโคส ฟรักโทส
น้ำตาล ซูโครส แรฟฟิโนส และ stachyose ) ซึ่งซูโครส
แสดงองค์ประกอบหลัก" นมถั่วเหลือง " น้ำตาลพบว่าโปรไบโอติก
ระดับชดช้อย แต่ไม่ปรากฏในน้ำนมวัว สำหรับการแพ้แลคโตสคน
" นมถั่วเหลือง " เป็นทางเลือกที่ดีที่จะวัวนมที่มีแลคโตสสูงเนื้อหาของเรื่อง

เกี่ยวกับไฟโต 4.7% โอเอสโตรเจน 40 มิลลิกรัม / 100 กรัม พบใน " นมถั่วเหลือง " มีองค์ประกอบคือลักษณะทางไอโซฟลาโวน

งานของเหลวที่จัดตั้งขึ้นใหม่ อัลตร้าโครมาโตกราฟี ( uplc ™

) วิธีการ จํานวนเชิงปริมาณกำหนดเป็น aglycones รวม
หลังจากเอนไซม์ที่ใช้ßที่มีอวัยวะจากเกลียวคั้น pomatia
.
งานวิจัยมากมายระบุว่า การบริโภคอาหารสุขภาพที่อุดมไปด้วย
ในไอโซฟลาโวนจะเกี่ยวข้องกับความหลากหลายของประโยชน์ต่อสุขภาพรวมทั้ง
การป้องกันของเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมากโรคและลดอาการของโรคเบาหวานและการสูญเสียกระดูก
6 หัวใจ อาหารเหล่านี้ยังรวมถึงการทำงาน
" นมถั่วเหลือง " .
ในทั่วไป , " นมถั่วเหลือง " กลับกลายเป็นอาหารที่มีคุณค่า และอาจถือเป็นตัวเลือก
ในโภชนาการมนุษย์ โดยเฉพาะในบางกรณี ( เช่นแล็กโตส intolerance ) .
แต่ถ่ายเข้าไปในบัญชีล่าสุดวรรณกรรม " นมถั่วเหลือง " สามารถแตกหักได้