stakeholders are doing the defining

stakeholders are doing the defining. This in turn can lead to policies that dis­ proportionately distribute costs and benefits among affected interest groups. For example, "elderly poor" is a census concept. But the distributions of elderly and poor people are often incongruent. This can affect the cost and level of service delivery. There are widely different interpretations of the effects of prolonged economic expansion in the United States on reducing the poverty problem. The Census Bureau, for example, indicates that the number of very poor Americans increased from 13.5% in 1995 to 13.8% m 1996. This would point to a major policy problem for poverty advocates. But the Census Bureau used a narrow, cash-income definition of poverty, excluding such non-cash benefits as food stamps and Medicaid. Using a broader income measure leads to the different interpretation that only 10.2% of Americans were below the poverty line in 1996, and Latinos, women, and residents of the South were the largest gainers in household income growth from economic expansion (The Economist 1997c). Others would note that despite the increase in the poverty income threshold for a family of four from $15,569 to $19,307 (1995-2004), the poverty rate dropped from 13.8% to 12.7% in that period (Rushefsky 2008, 145). Still others might point out that despite the rate decrease, the number of people below the threshold actually increased (from 36.3 million to 36.9 million). This is because the total US population increased, and relative poverty thus declined.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้มีส่วนได้เสียที่ทำกำหนด นี้จะสามารถนำไปสู่​​นโยบายที่นี่กระจายสัดส่วนค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ในหมู่กลุ่มผลประโยชน์ได้รับผลกระทบ ตัวอย่างเช่น "ผู้สูงอายุที่ยากจน" เป็นแนวคิดการสำรวจสำมะโนประชากร แต่การกระจายของผู้สูงอายุและคนยากจนมักจะไม่สอดคล้องกัน นี้สามารถส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายและระดับของการให้บริการมีการตีความที่แตกต่างกันอย่างกว้างขวางของผลกระทบของการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นเวลานานในประเทศสหรัฐอเมริกาในการลดปัญหาความยากจน สำนักสำรวจสำมะโนประชากรตัวอย่างเช่นชี้ให้เห็นว่าจำนวนของชาวอเมริกันที่ยากจนมากเพิ่มขึ้นจาก 13.5% ในปี 1995-13.8% เมตร 1996 นี้จะชี้ไปที่ปัญหานโยบายที่สำคัญสำหรับการสนับสนุนความยากจน แต่สำนักสำรวจสำมะโนประชากรที่ใช้แคบความหมายของเงินสดที่มีรายได้จากความยากจนไม่รวมผลประโยชน์ที่ไม่ใช่เงินสดเช่นแสตมป์อาหารและ Medicaid โดยใช้ตัวชี้วัดรายได้ที่กว้างขึ้นจะนำไปสู่​​การตีความที่แตกต่างกันว่ามีเพียง 10.2% ของชาวอเมริกันอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนในปี 1996 และลาติน, ผู้หญิงและอาศัยอยู่ในภาคใต้เป็น gainers ที่ใหญ่ที่สุดในการเจริญเติบโตรายได้ของครัวเรือนจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (1997c เศรษฐศาสตร์) .คนอื่นจะทราบว่าแม้จะมีการเพิ่มขึ้นของรายได้เกณฑ์ความยากจนครอบครัวของสี่จาก $ 15,569 $ 19,307 ไป (1995-2004), อัตราความยากจนลดลงจาก 13.8% เป็น 12.7% ในช่วงเวลานั้น (rushefsky 2008, 145) คนอื่น ๆ อาจจะชี้ให้เห็นว่าแม้จะมีการลดลงในอัตราที่จำนวนของคนที่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่เพิ่มขึ้นจริง (36,300,000-36,900,000)นี้เป็นเพราะจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นเราและความยากจนจึงปฏิเสธ.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เสียจะทำการกำหนด นี้จะสามารถนำไปสู่นโยบายที่ dis­ กระจายตามสัดส่วนต้นทุน และผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มความสนใจที่ได้รับผลกระทบ ตัวอย่าง "ผู้สูงอายุคนยากจน" เป็นแนวคิดสำนึก แต่การกระจายของคนยากจน และผู้สูงอายุมัก incongruent นี้อาจส่งผลต่อต้นทุนและระดับการบริการจัดส่ง มีการตีความที่แตกต่างกันอย่างกว้างขวางของผลกระทบของการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นเวลานานในสหรัฐอเมริกาในการลดปัญหาความยากจน สำนักงานบ้าน เช่น บ่งชี้ว่า จำนวนชาวอเมริกันยากจนเพิ่มขึ้นจาก 13.5% ใน 1995-13.8% m ปี 1996 นี้จะชี้ปัญหานโยบายสำคัญสำหรับสนับสนุนความยากจน แต่สำนักสำมะโนใช้แคบ รายได้เงินสดการนิยามความยากจน ไม่รวมผลประโยชน์ไม่ใช่เงินสดดังกล่าวเป็นแสตมป์อาหารและ Medicaid ใช้การวัดรายได้กว้างนำไปสู่การตีความที่แตกต่างกันที่เพียง 10.2% ของชาวอเมริกันต่ำกว่าเส้นความยากจนในปี 1996 และ Latinos ผู้หญิง และชาวภาคใต้มี gainers ที่ใหญ่ที่สุดในการเจริญเติบโตของรายได้จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(นักที่เศรษฐศาสตร์ซี 1997) คนอื่นจะสังเกตได้ว่า แม้ มีการเพิ่มขึ้นของขีดจำกัดรายได้ความยากจนของสี่จาก $15,569 ไป $19,307 (1995-2004), อัตราความยากจนหลุดจาก 13.8% 12.7% ในรอบระยะเวลานั้น (Rushefsky 2008, 145) ยัง ผู้อื่นอาจชี้ให้เห็นว่า แม้ มีอัตราลดลง จำนวนคนที่ต่ำกว่าขีดจำกัดจริงเพิ่ม (จาก 36.3 ล้านถึง 36.9 ล้าน) ทั้งนี้เนื่องจากประชากรสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น และความยากจนสัมพัทธ์จึงปฏิเสธ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้มีส่วนได้เสียจะทำการกำหนดได้ โรงแรมแห่งนี้ในการสามารถนำไปสู่นโยบายที่แยกออกเผยแพร่สิทธิประโยชน์และลดค่าใช้จ่ายของกลุ่มสนใจชำนิได้รับผลกระทบด้วยอัตราส่วนเดียวกัน ตัวอย่างเช่น"ผู้สูงอายุผู้น่าสงสาร"คือแนวความคิดการสำรวจสำมะโนประชากรที่ แต่การเผยแพร่ของผู้สูงอายุและคนยากจนมีเหลื่อมบ่อยครั้ง โรงแรมแห่งนี้สามารถส่งผลต่อต้นทุนและระดับของการให้บริการได้มีการใช้กันอย่างแพร่หลายมีการตีความที่แตกต่างของผลที่เกิดจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อในประเทศสหรัฐอเมริกาจะช่วยลดปัญหาความยากจน สำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรตัวอย่างเช่นระบุว่าจำนวนของชาวอเมริกันผู้น่าสงสารเป็นอย่างมากเพิ่มขึ้นจาก 13.5% ในปี 1995 เป็น 13.8% 1996 ม. โรงแรมแห่งนี้จะไปยังจุดปัญหานโยบายที่สำคัญสำหรับองค์กรด้านความยากจน แต่สำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรที่ใช้แคบๆที่High Definition เงินสด - รายได้ของความยากจนไม่รวมถึงสิทธิประโยชน์ไม่ใช่ - เงินสดเช่น medicaid และอาหาร. การใช้การวัดรายได้ที่กว้างขึ้นเป็นทางนำไปสู่การตีความที่แตกต่างกันไปว่ามีเพียง 10.2% ของชาวอเมริกันด้านล่างเส้นความยากจนได้ในปี 1996 และกดขี่ผู้หญิงและผู้เข้าพักของ ภาค ใต้ที่มี gainers ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในการเติบโตของรายได้ในครัวเรือนจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(นักเศรษฐศาสตร์ 1997 C )คนอื่นก็จะบันทึกไว้ด้วยว่าแม้ว่าจะมีการปรับขึ้นให้อยู่ในเกณฑ์รายได้ความยากจนสำหรับครอบครัวที่สี่จาก$ 15,569 $ 19,307 ( 1995-2004 )อัตราความยากจนที่ลดลงจาก 13.8% เป็น 12.7% ในช่วงเวลา( rushefsky 2008145 )ว่า อื่นยังไม่อาจจะชี้ให้เห็นว่าแม้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจำนวนมากของผู้คนต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นจริงๆ(จากขนาดพื้นที่ 36.3 ล้าน 36.9 ล้านบาท)โรงแรมแห่งนี้เป็นเพราะประชาชนเรารวมที่เพิ่มขึ้นและความยากจนมีความสัมพันธ์กันจึงลดลง.