The impact of plant colonization by

The impact of plant colonization by mycorrhizal fungi on bacterial wilt has been previously investigated under greenhouse conditions.

Tomato seedlings with a higher percentage of mycorrhizal roots could delay the occurrence of BW, but at later stages, disease severity could become aggravated.

In a recent study, Tahat et al. (2012a) tested three species of arbuscular mycorrhizal fungal (AMF) (Glomus mosseae, Scutellospora sp. and Gigaspora margarita) for controlling BW under greenhouse conditions and reported no disease symptoms on to-findings have provided evidence about the ability of AMF species to control causal agents of BWwith significant differences among the used species.

The effectiveness of plant essential oils as soil fumigants to manage bacterial wilt in tomato under greenhouse conditions has also been reported, and R. solanacearum populations decreased to undetectable levels when the soil was treated with either thymol oil, palmarosa oil, or lemongrass oil, while treatment with tea oil treatment had no effect.

This study was conducted to evaluate the effect of selected plant oils and arbuscular mycorrhizal fungi (AMF) either individually or in combination against the causal pathogen of bacterial wilt under in vitro, greenhouse and field conditions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลกระทบของการล่าอาณานิคมของพืชจากเชื้อราไมคอไรซาในเหี่ยวได้รับการตรวจสอบก่อนหน้านี้ภายใต้เงื่อนไขเรือนกระจก. ต้นกล้ามะเขือเทศมีเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้นของราก mycorrhizal สามารถชะลอการเกิดขึ้นของ BW แต่ในขั้นตอนต่อมาความรุนแรงของโรคอาจจะกลายเป็นกำเริบ. ในการศึกษาล่าสุด , et al, Tahat (2012a) ทดสอบสามสายพันธุ์ของเชื้อรา Arbuscular mycorrhizal (AMF) (Glomus mosseae, Scutellospora Sp. และ Gigaspora มาร์การี) ในการควบคุมน้ำหนักภายใต้เงื่อนไขเรือนกระจกและรายงานอาการของโรคที่ไม่เกี่ยวกับการค้นพบมีหลักฐานเกี่ยวกับความสามารถของสายพันธุ์สารเลวที่จะควบคุม ตัวแทนสาเหตุ BWwith ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในหมู่ผู้ใช้สปีชีส์. ประสิทธิผลของพืชน้ำมันหอมระเหยเป็นรมดินในการจัดการโรคเหี่ยวในมะเขือเทศเรือนกระจกภายใต้เงื่อนไขที่ยังได้รับรายงานและประชากรอาร์ solanacearum ลดลงไปในระดับที่ไม่สามารถตรวจพบเมื่อดินได้รับการรักษาที่มีทั้ง น้ำมันไทมอลน้ำมัน palmarosa หรือน้ำมันตะไคร้ในขณะที่การรักษาด้วยการรักษาชาน้ำมันไม่มีผล. การศึกษาครั้งนี้ได้ดำเนินการประเมินผลกระทบของน้ำมันพืชเลือกและ Arbuscular เชื้อรา (AMF) ทั้งรายบุคคลหรือในการรวมกันกับเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อแบคทีเรีย ภายใต้เหี่ยวในหลอดทดลอง, เรือนกระจกและสภาพสนาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลกระทบของการปลูกเชื้อราไมโคไรซา โดยแบคทีเรียจะได้รับก่อนหน้านี้ศึกษาภายใต้สภาพโรงเรือน

มะเขือเทศและมีเปอร์เซ็นต์สูงของรากไมโคไรซา สามารถชะลอการเกิดลดลง แต่ในระยะต่อมา ความรุนแรงของโรคจะกลายเป็นนอก

ในการศึกษาล่าสุด tahat et al .( 2012a ) ทดสอบ 3 ชนิดน้ำเชื้อราไมโคไรซา ( AMF ) ( Glomus mosseae , Scutellospora sp . และ Gigaspora Margarita ) เพื่อการควบคุมน้ำหนักตัวภายใต้สภาวะเรือนกระจกและรายงานว่าไม่มีอาการที่พบได้ให้หลักฐานเกี่ยวกับความสามารถของไรชนิดควบคุมสาเหตุที่ตัวแทนของ bwwith ความแตกต่างกันใช้ชนิด

ประสิทธิภาพของพืชน้ำมันหอมระเหยเป็นดิน fumigants จัดการแบคทีเรียเหี่ยวในมะเขือเทศภายใต้สภาพโรงเรือนยังได้รับรายงาน และประชากร R . solanacearum ลดลงระดับ undetectable เมื่อดินได้รับการรักษาด้วยน้ำมัน palmarosa ไทมอล , น้ำมันตะไคร้ , น้ำมัน หรือ ในขณะที่การรักษาด้วยการรักษาน้ำมันชาไม่มีผลเลย

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้น้ำมันพืชกับน้ำเชื้อราไมโคไรซา ( AMF ) ทั้งรายบุคคลหรือในการรวมกันกับเชื้อสาเหตุโรคเหี่ยวเขียวอยู่ในหลอดทดลอง , เรือนกระจกและสภาพสนาม .