พระธรรมปิฎกได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับประชาธิปไตย ในหลายวาระ หลายโอกาส และหล การแปล - พระธรรมปิฎกได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับประชาธิปไตย ในหลายวาระ หลายโอกาส และหล ไทย วิธีการพูด

พระธรรมปิฎกได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับประ

พระธรรมปิฎกได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับประชาธิปไตย ในหลายวาระ หลายโอกาส และหลายเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน ผู้เขียนเห็นว่า ถ้อยคำที่พระธรรมปิฎกได้แสดงไว้นั้น เป็นถ้อยคำ ที่มีความลึกซึ้ง เป็นเหตุ เป็นผลที่อธิบายให้เชื่อมโยงกันได้อย่างน่ารับฟังยิ่ง ควรค่าแก่การนำมา เผยแพร่ เพราะเป็นเรื่องที่เนื่องด้วยประชาธิปไตยทั้งสิ้น ดังตัวอย่างต่อไปนี้

"ลักษณะสำคัญ ๒ อย่างของสังคมประชาธิปไตย คือวิถีชีวิตแห่งความพอดี ที่เป็นสายกลาง ซึ่งองค์ประกอบและปฏิบัติการทั้งหลายได้สัดส่วนสมดุลกัน...อีกอย่างหนึ่งคือ การยอมรับศักยภาพของมนุษย์ว่า บุคคลแต่ละคนมีความสามารถที่พัฒนาได้... ศักยภาพนั้น จะต้องได้รับการพัฒนา คือ ต้องมีการศึกษา เพื่อให้บุคคลมีสติปัญญา สามารถคิดวินิจฉัย เลือกตัดสินใจ และใช้เสรีภาพเป็นต้น ได้อย่างถูกต้องพอดี... การจะมีประชาธิปไตยที่ดีนั้น ไม่ใช่เพียงแค่เอาอย่างรูปแบบเขามาใช้ตามไปเท่านั้นก็สำเร็จ แต่มีสิ่งที่จะต้องเพียรพยายามทำด้วยความตั้งใจจริง เฉพาะอย่างยิ่ง ต้องมีการแสวงหาปัญญา และใช้ปัญญาอย่างจริงจังโดย ให้บุคคลมีเสรีภาพที่จะพัฒนาศักยภาพของตน และให้ศักยภาพนั้นอำนวยผลดีในการที่จะใช้เสรีภาพในการที่จะเกื้อกูลต่อชีวิตและสังคม ทำให้เสรีภาพในระบอบประชาธิปไตยเป็นไปอย่าง สมดุล โดยเป็นเสรีภาพของคนที่ปกครองตนเองได้"๒๘

"สังคมประชาธิปไตย จะต้องมีเครื่องผูกพันคนให้มีความสามัคคีร่วมมือร่วมใจกัน... การร่วมมือกันและอยู่ร่วมกันด้วยดีนั้น มีลักษณะการแสดงออกต่างๆ กัน ซึ่งเน้นความ มีเมตตาปรารถนาดี หวังประโยชน์สุขต่อกัน อันจะโยงไปหาหลักการพื้นฐาน คือ การที่คนเราจะต้องใช้ปัญญา...เป็นสังคมแห่งสามัคคีเอกีภาพ ที่คนมีเมตตาหรือไมตรีต่อกันเป็นพื้นฐานรองรับความเป็นอยู่ และการแสดงออกเสรีที่มีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน"๒๙

ประชาธิปไตยจะไม่มีทางเป็นประชาธิปไตย ถ้าหากไม่ถึงธรรมาธิปไตย เพราะประชาธิปไตยที่เป็นอัตตาธิปไตยนั้นไม่ดีไปกว่าราชาธิปไตยที่เป็นอัตตาธิปไตย คือนำไปสู่ความพินาศเช่นเดียวกัน...จะเป็นธรรมาธิปไตยก็ต้องเริ่มตั้งแต่รู้ว่าอะไรเป็นธรรม ความรู้เกิดขึ้นได้ ก็ต้องอาศัยปัญญา จะให้มีปัญญาก็ต้องให้มีการศึกษา ฉะนั้นจะต้องเริ่มตั้งแต่ให้การศึกษา

"การศึกษาที่พรั่งพร้อม ที่จะให้เกิดประชาธิปไตย ก็ต้องมี ๓ องค์...คือมีทั้งศีล มีทั้งสมาธิ มีทั้งปัญญา...การศึกษาที่ขาดศีล ขาดระเบียบวินัย ขาดสมาธิ ขาดการสร้างจิตใจ ที่เข้มแข็งมั่นคง จึงไม่อาจจะเป็นพื้นฐานที่ดีของการสร้างประชาธิปไตยได้"๓๐

"การปกครองตามความหมายในพระพุทธศาสนา จึงเป็นการปกครองเพื่อการศึกษา การปกครองจากความสงบเรียบร้อยที่เกิดจากการปกครองนั้น มิใช่จุดหมายในตัว แต่เป็นเพียงปัจจัยคือสภาพเอื้อ เพื่อช่วยให้แต่ละบุคคลบรรลุจุดหมายแห่งการศึกษา หรือเพื่อเป็นหลักประกันของการศึกษา จึงถือเป็นมติได้ว่า การปกครองที่มีขึ้นเป็นเรื่องของการศึกษาและเพื่อการศึกษาทั้งสิ้น

ถ้าไม่ปกครองด้วยการศึกษา ก็ต้องปกครองด้วยอำนาจ เมื่อปกครองด้วยอำนาจก็เกิดความรู้สึกในเชิงปฏิปักษ์ ที่เอียงไปในทางที่จะขัดแย้งกัน... ด้วยเหตุนี้ การปกครองแบบใช้อำนาจ จึงก่อให้เกิดปัญหา เริ่มตั้งแต่เกิดความขัดแย้งในจิตใจเป็นต้นไป ทำให้ยิ่งต้องเพิ่มการใช้อำนาจ ใช้อาญาและจะเน้นการลงโทษมากยิ่งขึ้นตามลำดับ ไม่ใช่เป็นการปกครองแบบพยายามสร้างคนดี แต่เป็นการปกครองแบบพยายามกำจัดคนเลว"๓๑

"สามัคคีมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชีวิตหมู่ หรือการอยู่ร่วมกันเป็นสังคม โดยเฉพาะในระบอบประชาธิปไตย สามัคคีคือความพร้อมเพรียงกัน ความร่วมแรงร่วมใจกัน และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่เรียกว่า เอกีภาพ (แต่คนไทยเรานิยมใช้ว่า เอกภาพ) ดังนั้น คุณค่าของความสามัคคีที่สำคัญมาก ซึ่งเป็นพื้นฐานของวินัย และประชาธิปไตย คือทำให้สังคมเกิดมีคุณประโยชน์ตามความหมายของมัน โดยเป็นสภาพเอื้ออำนวยโอกาสแก่ทุกคน ที่จะดำรงชีวิตของคนอยู่ด้วยดี สามารถพัฒนาชีวิตของคนให้เข้าถึงประโยชน์สุขยิ่งขึ้นไป
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
พระธรรมปิฎกได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับประชาธิปไตยในหลายวาระหลายโอกาสและหลายเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันผู้เขียนเห็นว่าถ้อยคำที่พระธรรมปิฎกได้แสดงไว้นั้นเป็นถ้อยคำที่มีความลึกซึ้งเป็นเหตุเป็นผลที่อธิบายให้เชื่อมโยงกันได้อย่างน่ารับฟังยิ่งควรค่าแก่การนำมาเผยแพร่เพราะเป็นเรื่องที่เนื่องด้วยประชาธิปไตยทั้งสิ้นดังตัวอย่างต่อไปนี้ "ลักษณะสำคัญ ๒ อย่างของสังคมประชาธิปไตยคือวิถีชีวิตแห่งความพอดีที่เป็นสายกลางซึ่งองค์ประกอบและปฏิบัติการทั้งหลายได้สัดส่วนสมดุลกัน...อีกอย่างหนึ่งคือการยอมรับศักยภาพของมนุษย์ว่าบุคคลแต่ละคนมีความสามารถที่พัฒนาได้... ศักยภาพนั้นจะต้องได้รับการพัฒนาคือต้องมีการศึกษาเพื่อให้บุคคลมีสติปัญญาสามารถคิดวินิจฉัยเลือกตัดสินใจและใช้เสรีภาพเป็นต้นได้อย่างถูกต้องพอดี... การจะมีประชาธิปไตยที่ดีนั้นไม่ใช่เพียงแค่เอาอย่างรูปแบบเขามาใช้ตามไปเท่านั้นก็สำเร็จแต่มีสิ่งที่จะต้องเพียรพยายามทำด้วยความตั้งใจจริงเฉพาะอย่างยิ่งต้องมีการแสวงหาปัญญาและใช้ปัญญาอย่างจริงจังโดยให้บุคคลมีเสรีภาพที่จะพัฒนาศักยภาพของตนและให้ศักยภาพนั้นอำนวยผลดีในการที่จะใช้เสรีภาพในการที่จะเกื้อกูลต่อชีวิตและสังคมทำให้เสรีภาพในระบอบประชาธิปไตยเป็นไปอย่างสมดุลโดยเป็นเสรีภาพของคนที่ปกครองตนเองได้ "๒๘ "สังคมประชาธิปไตยจะต้องมีเครื่องผูกพันคนให้มีความสามัคคีร่วมมือร่วมใจกัน... การร่วมมือกันและอยู่ร่วมกันด้วยดีนั้นมีลักษณะการแสดงออกต่าง ๆ กันซึ่งเน้นความมีเมตตาปรารถนาดีหวังประโยชน์สุขต่อกันอันจะโยงไปหาหลักการพื้นฐานคือการที่คนเราจะต้องใช้ปัญญา...เป็นสังคมแห่งสามัคคีเอกีภาพที่คนมีเมตตาหรือไมตรีต่อกันเป็นพื้นฐานรองรับความเป็นอยู่และการแสดงออกเสรีที่มีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน "๒๙ ประชาธิปไตยจะไม่มีทางเป็นประชาธิปไตยถ้าหากไม่ถึงธรรมาธิปไตยเพราะประชาธิปไตยที่เป็นอัตตาธิปไตยนั้นไม่ดีไปกว่าราชาธิปไตยที่เป็นอัตตาธิปไตยคือนำไปสู่ความพินาศเช่นเดียวกัน...จะเป็นธรรมาธิปไตยก็ต้องเริ่มตั้งแต่รู้ว่าอะไรเป็นธรรมความรู้เกิดขึ้นได้ก็ต้องอาศัยปัญญาจะให้มีปัญญาก็ต้องให้มีการศึกษาฉะนั้นจะต้องเริ่มตั้งแต่ให้การศึกษา "การศึกษาที่พรั่งพร้อมที่จะให้เกิดประชาธิปไตยก็ต้องมี ๓ องค์...คือมีทั้งศีลมีทั้งสมาธิมีทั้งปัญญา...การศึกษาที่ขาดศีลขาดระเบียบวินัยขาดสมาธิขาดการสร้างจิตใจที่เข้มแข็งมั่นคงจึงไม่อาจจะเป็นพื้นฐานที่ดีของการสร้างประชาธิปไตยได้ "๓๐ "การปกครองตามความหมายในพระพุทธศาสนาจึงเป็นการปกครองเพื่อการศึกษาการปกครองจากความสงบเรียบร้อยที่เกิดจากการปกครองนั้นมิใช่จุดหมายในตัวแต่เป็นเพียงปัจจัยคือสภาพเอื้อเพื่อช่วยให้แต่ละบุคคลบรรลุจุดหมายแห่งการศึกษาหรือเพื่อเป็นหลักประกันของการศึกษาจึงถือเป็นมติได้ว่าการปกครองที่มีขึ้นเป็นเรื่องของการศึกษาและเพื่อการศึกษาทั้งสิ้น ถ้าไม่ปกครองด้วยการศึกษาก็ต้องปกครองด้วยอำนาจเมื่อปกครองด้วยอำนาจก็เกิดความรู้สึกในเชิงปฏิปักษ์ที่เอียงไปในทางที่จะขัดแย้งกัน... ด้วยเหตุนี้การปกครองแบบใช้อำนาจจึงก่อให้เกิดปัญหาเริ่มตั้งแต่เกิดความขัดแย้งในจิตใจเป็นต้นไปทำให้ยิ่งต้องเพิ่มการใช้อำนาจใช้อาญาและจะเน้นการลงโทษมากยิ่งขึ้นตามลำดับไม่ใช่เป็นการปกครองแบบพยายามสร้างคนดีแต่เป็นการปกครองแบบพยายามกำจัดคนเลว "๓๑ "สามัคคีมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชีวิตหมู่หรือการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมโดยเฉพาะในระบอบประชาธิปไตยสามัคคีคือความพร้อมเพรียงกันความร่วมแรงร่วมใจกันและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่เรียกว่าเอกีภาพ (แต่คนไทยเรานิยมใช้ว่าเอกภาพ) ดังนั้นคุณค่าของความสามัคคีที่สำคัญมากซึ่งเป็นพื้นฐานของวินัยและประชาธิปไตยคือทำให้สังคมเกิดมีคุณประโยชน์ตามความหมายของมันโดยเป็นสภาพเอื้ออำนวยโอกาสแก่ทุกคนที่จะดำรงชีวิตของคนอยู่ด้วยดีสามารถพัฒนาชีวิตของคนให้เข้าถึงประโยชน์สุขยิ่งขึ้นไป
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ในหลายวาระหลายโอกาสและหลายเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันผู้เขียนเห็นว่า เป็นถ้อยคำที่มีความลึกซึ้งเป็นเหตุ ควรค่าแก่การนำมาเผยแพร่ ดังตัวอย่างต่อไปนี้"ลักษณะสำคัญ 2 อย่างของสังคมประชาธิปไตยคือวิถีชีวิตแห่งความพอดีที่เป็นสายกลาง การยอมรับศักยภาพของมนุษย์ว่า ศักยภาพนั้นจะต้องได้รับการพัฒนาคือต้องมีการศึกษาเพื่อให้บุคคลมีสติปัญญาสามารถคิดวินิจฉัยเลือกตัดสินใจและใช้เสรีภาพเป็นต้นได้อย่างถูกต้องพอดี ... การจะมีประชาธิปไตยที่ดีนั้น เฉพาะอย่างยิ่งต้องมีการแสวงหาปัญญาและใช้ปัญญาอย่างจริงจังโดย สมดุล มีลักษณะการแสดงออกต่างๆกันซึ่งเน้นความมีเมตตาปรารถนาดีหวังประโยชน์สุขต่อกันอันจะโยงไปหาหลักการพื้นฐานคือ ถ้าหากไม่ถึงธรรมาธิปไตย ความรู้เกิดขึ้นได้ก็ต้องอาศัยปัญญาจะให้มีปัญญาก็ต้องให้มีการศึกษา ที่จะให้เกิดประชาธิปไตยก็ต้องมี 3 องค์ ... คือมีทั้งศีลมีทั้งสมาธิมีทั้งปัญญา ... การศึกษาที่ขาดศีลขาดระเบียบวินัยขาดสมาธิขาดการสร้างจิตใจที่เข้มแข็งมั่นคง จึงเป็นการปกครองเพื่อการศึกษา มิใช่จุดหมายในตัว แต่เป็นเพียงปัจจัยคือสภาพเอื้อ จึงถือเป็นมติได้ว่า ก็ต้องปกครองด้วยอำนาจ ที่เอียงไปในทางที่จะขัดแย้งกัน ... ด้วยเหตุนี้การปกครองแบบใช้อำนาจจึงก่อให้เกิดปัญหา ทำให้ยิ่งต้องเพิ่มการใช้อำนาจ หรือการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมโดยเฉพาะในระบอบประชาธิปไตยสามัคคีคือความพร้อมเพรียงกันความร่วมแรงร่วมใจกัน เอกีภาพ (แต่คนไทยเรานิยมใช้ว่าเอกภาพ) ดังนั้นคุณค่าของความสามัคคีที่สำคัญมากซึ่งเป็นพื้นฐานของวินัยและประชาธิปไตย ที่จะดำรงชีวิตของคนอยู่ด้วยดี













การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
พระธรรมปิฎกได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับประชาธิปไตยในหลายวาระหลายโอกาสและหลายเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันผู้เขียนเห็นว่าถ้อยคำที่พระธรรมปิฎกได้แสดงไว้นั้นเป็นถ้อยคำที่มีความลึกซึ้งเป็นเหตุควรค่าแก่การนำมาเผยแพร่เพราะเป็นเรื่องที่เนื่องด้วยประชาธิปไตยทั้งสิ้นดังตัวอย่างต่อไปนี้

" ลักษณะสำคัญ๒อย่างของสังคมประชาธิปไตยคือวิถีชีวิตแห่งความพอดีที่เป็นสายกลางซึ่งองค์ประกอบและปฏิบัติการทั้งหลายได้สัดส่วนสมดุลกัน . . . . . . .อีกอย่างหนึ่งคือการยอมรับศักยภาพของมนุษย์ว่าบุคคลแต่ละคนมีความสามารถที่พัฒนาได้ . . . . . . .ศักยภาพนั้นจะต้องได้รับการพัฒนาความต้องมีการศึกษาเพื่อให้บุคคลมีสติปัญญาสามารถคิดวินิจฉัยเลือกตัดสินใจและใช้เสรีภาพเป็นต้นได้อย่างถูกต้องพอดี . . . . . . .การจะมีประชาธิปไตยที่ดีนั้นไม่ใช่เพียงแค่เอาอย่างรูปแบบเขามาใช้ตามไปเท่านั้นก็สำเร็จแต่มีสิ่งที่จะต้องเพียรพยายามทำด้วยความตั้งใจจริงเฉพาะอย่างยิ่งต้องมีการแสวงหาปัญญาและใช้ปัญญาอย่างจริงจังโดยและให้ศักยภาพนั้นอำนวยผลดีในการที่จะใช้เสรีภาพในการที่จะเกื้อกูลต่อชีวิตและสังคมทำให้เสรีภาพในระบอบประชาธิปไตยเป็นไปอย่างสมดุลโดยเป็นเสรีภาพของคนที่ปกครองตนเองได้ " ๒๘

" สังคมประชาธิปไตยจะต้องมีเครื่องผูกพันคนให้มีความสามัคคีร่วมมือร่วมใจกัน . . . . . . .การร่วมมือกันและอยู่ร่วมกันด้วยดีนั้นมีลักษณะการแสดงออกต่างๆ ' ซึ่งเน้นความมีเมตตาปรารถนาดีหวังประโยชน์สุขต่อกันอันจะโยงไปหาหลักการพื้นฐานการที่คนเราจะต้องใช้ปัญญาความ . . . . . . .เป็นสังคมแห่งสามัคคีเอกีภาพที่คนมีเมตตาหรือไมตรีต่อกันเป็นพื้นฐานรองรับความเป็นอยู่และการแสดงออกเสรีที่มีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน " ๒๙

ประชาธิปไตยจะไม่มีทางเป็นประชาธิปไตยถ้าหากไม่ถึงธรรมาธิปไตยเพราะประชาธิปไตยที่เป็นอัตตาธิปไตยนั้นไม่ดีไปกว่าราชาธิปไตยที่เป็นอัตตาธิปไตยคือนำไปสู่ความพินาศเช่นเดียวกัน . . . . . . .จะเป็นธรรมาธิปไตยก็ต้องเริ่มตั้งแต่รู้ว่าอะไรเป็นธรรมความรู้เกิดขึ้นได้ก็ต้องอาศัยปัญญาจะให้มีปัญญาก็ต้องให้มีการศึกษาฉะนั้นจะต้องเริ่มตั้งแต่ให้การศึกษา

" การศึกษาที่พรั่งพร้อมที่จะให้เกิดประชาธิปไตยก็ต้องมีองค์คือมีทั้งศีลมีทั้งสมาธิมีทั้งปัญญาล่ะ . . . . . . . . . . . . . .การศึกษาที่ขาดศีลขาดระเบียบวินัยขาดสมาธิขาดการสร้างจิตใจที่เข้มแข็งมั่นคงจึงไม่อาจจะเป็นพื้นฐานที่ดีของการสร้างประชาธิปไตยได้ " ๓๐

" การปกครองตามความหมายในพระพุทธศาสนาจึงเป็นการปกครองเพื่อการศึกษาการปกครองจากความสงบเรียบร้อยที่เกิดจากการปกครองนั้นมิใช่จุดหมายในตัวแต่เป็นเพียงปัจจัยคือสภาพเอื้อหรือเพื่อเป็นหลักประกันของการศึกษาจึงถือเป็นมติได้ว่าการปกครองที่มีขึ้นเป็นเรื่องของการศึกษาและเพื่อการศึกษาทั้งสิ้น

ถ้าไม่ปกครองด้วยการศึกษาก็ต้องปกครองด้วยอำนาจเมื่อปกครองด้วยอำนาจก็เกิดความรู้สึกในเชิงปฏิปักษ์ที่เอียงไปในทางที่จะขัดแย้งกัน . . . . . . .ด้วยเหตุนี้การปกครองแบบใช้อำนาจจึงก่อให้เกิดปัญหาเริ่มตั้งแต่เกิดความขัดแย้งในจิตใจเป็นต้นไปทำให้ยิ่งต้องเพิ่มการใช้อำนาจใช้อาญาและจะเน้นการลงโทษมากยิ่งขึ้นตามลำดับแต่เป็นการปกครองแบบพยายามกำจัดคนเลว " ๓๑

" สามัคคีมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชีวิตหมู่หรือการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมโดยเฉพาะในระบอบประชาธิปไตยสามัคคีคือความพร้อมเพรียงกันความร่วมแรงร่วมใจกันและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่เรียกว่าเอกีภาพ
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: