การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการสรรหาและกระบวนการสรรหาบุคลากรขององค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการสรรหาบุคลากรขององค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอ
ยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ บุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม ประกอบด้วย ฝ่ายบริหาร ฝ่ายข้าราชการประจำ ฝ่ายลูกจ้างประจำ และฝ่ายพนักงานจ้างจำนวน 145 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการคำนวณหาขนาดกลุ่มตัวอย่างตามสูตรของทาโร่
ยามาเน่ และใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 65 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการพรรณนาความ
ผลการวิจัย พบว่า
1. บุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม มีการปฏิบัติเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาบุคลากรขององค์การบริหารส่วนตำบล โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน โดยเรียงลำดับความสำคัญค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยได้ ดังนี้ ด้านการกำหนดคุณลักษณะของพนักงานที่เกี่ยวกับงาน ด้านความต้องการของหน่วยงานหลัก ด้านการรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์งาน ด้านการระบุตำแหน่งงานที่จะเปิดรับสมัคร ด้านข้อคิดเห็นของฝ่ายบริหาร ด้านการดำเนินการสรรหา ด้านการประเมินผล ด้านการกำหนดวิธีการสรรหา และด้านการวางแผนทรัพยากรมนุษย์ ตามลำดับ
2. ระดับการปฏิบัติเกี่ยวกับการสรรหาบุคลากรขององค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน โดยเรียงลำดับความสำคัญค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยได้ ดังนี้ ด้านหลักความเป็นกลางทางการเมือง ด้านหลักความมั่นคง ด้านหลักความเสมอภาค และด้านหลักความสามารถ ตามลำดับ
3. ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการสรรหาบุคลากรขององค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม ด้านหลักความสามารถ คือ ควรมีการจัดทำแผน
พัฒนาความสามารถของบุคลากรในอนาคต ด้านหลักความเสมอภาค คือ ควรเปิดโอกาสให้ผู้มีคุณสมบัติมาสมัครได้อย่างเท่าเทียมกันทั้งบุคลากรภายในและภายนอกองค์การ
ด้านหลักความมั่นคง คือ ควรมีการปรับเพิ่มเงินเดือนหรือค่าครองชีพชั่วคราวให้เหมาะสมกับสภาวะชองเศรษฐกิจเนื่องจากสินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านหลักความเป็นกลางทางการเมือง คือ ควรส่งเสริมให้พนักงานในองค์กรวางตัวเป็นกลางทางการเมือง โดยรณรงค์ให้พนักงานปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง และใช้หลักการตัดสินใจจากข้อเท็จจริงอย่างมีเหตุผล